×

ศบค. ระบุการผ่อนมาตรการต้องอาศัยข้อมูลรอบด้าน ย้ำ ‘การ์ดตก’ นิดเดียวสถานการณ์ที่เริ่มดีอาจแย่ลงได้

16.04.2020
  • LOADING...

วันนี้ (16 เมษายน) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ตอบคำถามสื่อถึงประเด็นเรื่องการผ่อนคลายมาตรการว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ เนื่องจากระยะหลังเริ่มพบผู้คนบางส่วนกลับมาทำงานตามสถานที่ทำงานมากกว่าการทำงานแบบ Work from Home มากขึ้น

 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในหลักการพิจารณาเรื่องต่างๆ ต้องอาศัยข้อมูลสุขภาพ, เศรษฐกิจ และเรื่องของสังคม ฉะนั้นการจะดูเรื่องผ่อนคลายต้องอาศัยข้อมูลหลายด้าน เพราะในวันที่ตัวเลขผู้ป่วยล่าสุดพบ 29 ราย (16 เมษายน) วันนี้ไม่ได้แปลว่าสถานการณ์จะดีขึ้น เพราะหากประมาทเพียงนิดเดียว จากตัวเลขผู้ป่วยหลักสิบอาจขยับไปเป็นหลักร้อย เหมือนที่ญี่ปุ่นและสิงคโปร์พบเจอ ดังนั้นการตัดสินใจผ่อนมาตรการลงเป็นสิ่งที่ยาก 

 

“ถ้าอยากจะผ่อนคลาย แต่เราต้องดำเนินชีวิตบนมาตรการ Social Distancing เราทำได้หรือไม่ เช่น ถ้าต้องการขายอาหาร ต้องมีการแบ่งพื้นที่เป็นโต๊ะเว้นโต๊ะ ถ้าปฏิบัติกันได้ ก็อาจผ่อนมาตรการได้ หรือการเดินห้างสรรพสินค้า ทุกคนต้องเดินห่างกันในระยะ 1-2 เมตร และทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตัวเอง เรื่องแบบนี้แสดงให้เห็นถึงความยุ่งยากในประเด็นอื่นอีกหลายอย่าง เราต้องเข้าใจว่าถ้ามีการผ่อนคลายในบางกรณีบ้าง สิ่งนั้นก็อาจไม่สามารถทำได้เหมือนอย่างเคยแบบ 100%

 

“การที่จะต้องถูกจำกัดในด่านการใช้ชีวิต ทำให้เกิดผลทางสังคมหรือเศรษฐกิจตามมา เพื่อทำให้ยอดผู้ป่วยหรือเสียชีวิตลดลงมายังคงมีความสำคัญอยู่ เพราะถ้าการ์ดตกลงมานิดหนึ่งทุกอย่างอาจแย่ลง ดังนั้นการลดโรคได้ต้องมีการร่วมมือของประชาชน 90% ขึ้นไป ถ้าร่วมมือกันแค่ 70-80% ตัวเลขผู้ป่วยอาจสูงขึ้นมาทันที”

 

นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ ยังมีข้อมูลเสริมว่า ตอนนี้ได้มีคณะหนึ่งกำลังทำการศึกษาสิ่งที่เรียกว่า Exit Strategy หรือการศึกษาเรื่องการผ่อนคลายมาตรการลงมาก่อนกลับสู่ภาคปกติ ทีมวิชาการดังกล่าวกำลังทำงานอย่างเข้มข้น ที่มีการร่วมมือกับทั้งภาคเศรษฐกิจและเอกชน มาปรึกษากันว่ามาตรการที่ออกมาจะมีผลอะไรเกิดขึ้นตามมาบ้าง เพราะเรื่องการผ่อนคลายมาตรการคือสิ่งที่ทำได้ยาก แต่ก็ต้องทำ

 

“ในช่วงเวลาก่อน 30 เมษายน หรืออีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ตอนนี้จะเห็นได้ว่า ตัวเลขยังคงเป็นสีแดงทั่วโลก ถ้าถามว่าภายใน 30 เมษายนนี้แผนที่ทั้งโลกจะเป็นเป็นสีเขียว คงเป็นเรื่องยาก และขณะที่เราทำให้ตัวเลขผู้ป่วยเหลือ 2 หลัก ขณะที่ข้างบ้านเราตัวเลขผู้ป่วย 3 หลัก นั่นแปลว่าเรายังไม่ปลอดภัย 

 

“เราต้องเข้าใจสถานการณ์นี้ การผ่อนปรนที่ภาพใหญ่หรือเล็ก ทุกท่านต้องมีส่วนร่วมตัดสินด้วย ฉะนั้นถ้าเราร่วมมือกัน มีวินัยกันทุกคน และเดินหน้าไปอย่างพร้อมเพรียงกัน เชื้อโรคก็จะไม่มาหาเรา ถ้าท่านบอกอยากจะให้มีการเปิดตลาดขายของได้บ้าง ท่านก็ต้องมีระยะห่างทางสังคมขณะปฏิบัติ ถ้าท่านทำได้ ก็เท่ากับมาตรการนี้ตอบโจทย์ได้” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising