×

เปิดโผ ‘หุ้นเด่นอสังหาฯ’ รับแบงก์ชาติคลายมาตรการ LTV นักวิเคราะห์มองกลุ่มบ้านเดี่ยวและคอนโด ‘ระดับกลาง-บน’ ได้ประโยชน์มากสุด

21.10.2021
  • LOADING...
หุ้นเด่นอสังหาฯ

ราคาหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับขึ้นยกแผงเพื่อเก็งกำไร ข่าวดีกรณีธนาคารแห่งประเทศไทยผ่อนคลายมาตรการ LTV ทำให้เกิดความคาดหวังว่าผลประกอบการกลุ่มอสังหาริมทรัพย์จะเติบโตขึ้นและสะท้อนกลับสู่ราคาหุ้น นักวิเคราะห์มองหุ้นบ้านเดี่ยว-คอนโดที่เจาะตลาดกลาง-บนได้รับประโยชน์มากสุด 

 

วันนี้ (21 ตุลาคม) ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ได้ประกาศการผ่อนคลายมาตรการ LTV รายละเอียดดังนี้ 

 

1. กำหนดให้เพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV Ratio) เป็น 100% (กู้ได้เต็มมูลค่าหลักประกัน) สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (รวมสินเชื่ออื่นนอกเหนือจากเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยและมีที่อยู่อาศัยนั้นเป็นหลักประกันหรือสินเชื่อ Top-up แล้ว) ทั้งกรณี

  • มูลค่าหลักประกันต่ำกว่า 10 ล้านบาท ตั้งแต่สัญญากู้หลังที่ 2 เป็นต้นไป 
  • กรณีมูลค่าหลักประกันตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ตั้งแต่สัญญากู้หลังที่ 1 เป็นต้นไป

 

2. การผ่อนคลายนี้ให้เป็นการชั่วคราว สำหรับสัญญาเงินกู้ที่ทำสัญญาตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565

 

สรพงษ์ จักรธีรังกูร ผู้อำนวยการอาวุโส บล.กสิกรไทย กล่าวว่า มาตรการ LTV ครั้งนี้ เป็นมาตรการที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด โดยผู้ที่ได้รับประโยชน์คือผู้มีความต้องการและมีกำลังซื้อบ้านเดี่ยวและคอนโดในระดับกลาง-บนเป็นหลัก ซึ่งฐานะทางการเงินของคนกลุ่มนี้จัดอยู่ในกลุ่มกลาง-บน โดยคนกลุ่มนี้คิดเป็น 20% ของตลาดสินเชื่อบ้านและที่อยู่อาศัย การผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวจึงสามารถคาดหวังถึงการตัดสินใจซื้อและกำลังซื้อที่จะเกิดเร็วขึ้นจากเดิม

 

ในฝั่งของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ มองว่าได้ประโยชน์แทบทุกบริษัท และเมื่อประเมินจากจุดยืนทางการตลาด และโครงการบ้านเดี่ยวและคอนโดที่พร้อมขาย มองว่าผู้ประกอบการที่จะได้รับประโยชน์อย่างโดดเด่น AP, SPALI, LH, SC, ORI และ SENA 

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยมาตรการนี้จะสิ้นสุดในปี 2565 ทำให้อานิสงส์เชิงบวกไม่ได้เกิดขึ้นมากนัก จึงยังคงประมาณการกำไรทั้งปี 2564 ใกล้เคียงกับปี 2563 หรือเติบโตเพียงเล็กน้อย 

 

ส่วนปี 2565 คาดว่ากำไรกลุ่มอสังหาริมทรัพย์จะเติบโตราว 17-18% จากความต้องการที่ฟื้นตัวขึ้น รวมทั้งรายได้ประจำของแต่ละบริษัทต่างๆ จะเริ่มกลับมาเป็นบวก หลังจากแทบไม่มีรายได้ในช่วงโควิด

 

“เรายังคงมุมมองต่อกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปีนี้เช่นเดิม ทั้งในมุมของผลประกอบการและความน่าสนใจลงทุน โดยมองว่าการผ่อนคลายมาตรการ LTV ครั้งนี้มาช่วยจำกัดความเสี่ยงขาลงเท่านั้น” 

 

ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า การผ่อนคคลายเกณฑ์ LTV เป็น 100% จาก 70-90% ถึงสิ้นปี 2565 ถือเป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย เนื่องจากที่ผ่านมาการบังคับใช้มาตรการ LTV ส่งผลกระทบเชิงลบต่อความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะกลุ่มบ้านหลังที่ 2 เนื่องจากถูกจำกัดด้วย LTV ให้กู้ได้น้อยลง 

 

โดยเชื่อว่าสามารถกระตุ้นตลาดที่อยู่อาศัยมากขึ้น ประเมินกลุ่มที่ได้รับประโยชน์เป็นกลุ่มพอร์ตโครงการที่มีราคาเฉลี่ย 5 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนใหญ่ในตลาดฯ ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยชื่นชอบ AP, SPALI, SENA, LALIN และ ASW 

 

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า AP มีแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ดีมาก แม้ว่าเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิดอย่างหนักในไทยช่วงไตรมาสที่ 3 แต่บริษัทก็ยังสามารถทำยอดขาย (Presales) ได้เพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 4% จากไตรมาสก่อน เป็น 9.4 พันล้านบาท

 

ทั้งนี้ คาดการณ์กำไรสุทธิในงวดไตรมาสที่ 3 อ่อนลงมาอยู่ที่ 1.0 พันล้านบาท สืบเนื่องจากรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยที่ปรับตัวน้อยลง และแนวโน้มไตรมาสที่ 4 ปีนี้ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อย YoY แต่จะลดลง QoQ เนื่องจากค่าใช้จ่ายขาย-บริหารที่เพิ่มสูงขึ้น 

 

อย่างไรก็ตาม กำไรตลอดปี 2564 ก็ยังคงคาดว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่และต่อเนื่องไปยังปี 2565 ส่วนด้านการเติบโตกำไรหลักปีนี้และปี 2565 คาดว่าจะเติบโต +3% และ +9% ตามลำดับ

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising