ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวถ้อยแถลงผ่านทางโทรทัศน์วานนี้ (14 มิถุนายน) เรียกร้องให้ยูเครนยอมจำนนและถอนทหารทั้งหมดออกจากพื้นที่สู้รบทางตะวันออกและทางใต้ของยูเครน และยกเลิกความพยายามในการสมัครเป็นสมาชิก NATO หากต้องการให้รัสเซียยุติการรุกราน และเปิดการเจรจาสันติภาพ
“กองทัพยูเครนจะต้องถอนออกไปจากสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ สาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์ เคอร์ซอน และซาปอริซเซีย” เขากล่าว โดยระบุถึงทั้ง 4 ภูมิภาคของยูเครนที่รัสเซียผนวกรวมในปี 2022
“ทันทีที่เคียฟบอกว่าพร้อมที่จะทำเช่นนี้ และเริ่มถอนทหารจริงๆ และยกเลิกแผนการเข้าร่วม NATO อย่างเป็นทางการ เราจะหยุดยิงและเริ่มการเจรจาทันทีในนาทีนั้น”
ท่าทีของปูตินมีขึ้นก่อนที่การประชุมสุดยอดผู้นำเพื่อสันติภาพของยูเครนจะเปิดฉากขึ้นที่เมืองลูเซิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ วันนี้ (15 มิถุนายน) โดยมีผู้นำและผู้แทนจากกว่า 90 ประเทศ และองค์การระหว่างประเทศเข้าร่วมการประชุม ท่ามกลางความหวังของรัฐบาลเคียฟที่จะได้แรงสนับสนุนจากนานาชาติสำหรับโรดแมปเพื่อยุติการสู้รบที่ยูเครนเสนอ
ขณะที่รัสเซียไม่ได้รับเชิญให้ร่วมประชุมเนื่องจากแสดงท่าทีไม่สนใจเข้าร่วมและมองการประชุมดังกล่าวว่าไร้จุดหมาย ส่วนจีนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดรัสเซียก็ไม่เข้าร่วมการประชุมเช่นกัน โดยรัฐบาลจีนมองว่าการปรากฏตัวของทั้งสองฝ่ายที่ทำสงครามกัน ถือเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นสำหรับการประชุมสันติภาพที่สำคัญ ซึ่งจีนยังพยายามผลักดันแผนสันติภาพทางเลือกที่ตนเองเสนอด้วย
ยูเครน-ตะวันตก ไม่พอใจ
ทางด้านยูเครนและชาติตะวันตกแสดงความไม่พอใจต่อข้อเรียกร้องของปูติน โดยประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวในการให้สัมภาษณ์นอกรอบระหว่างร่วมการประชุม G7 ตำหนิข้อเรียกร้องของปูตินว่าเป็นการยื่น ‘คำขาด’ เหนือดินแดนของยูเครน ซึ่งชวนให้นึกถึงจอมเผด็จการ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์
“ลัทธินาซีมาถึงแล้ว และตอนนี้ก็มีใบหน้าของปูตินแล้ว”
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศยูเครนตอบโต้ข้อเรียกร้องของปูตินว่า ‘ไร้สาระ’ และชี้ว่าข้อเรียกร้องดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ารัสเซียต้องการยึดครองและทำลายล้างยูเครน
ด้าน ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวในการปิดประชุม NATO ที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมว่า “ปูตินได้เข้ายึดครองดินแดนยูเครนโดยผิดกฎหมาย และเขาไม่อยู่ในฐานะใดๆ ที่จะสั่งยูเครนว่าต้องทำอะไรเพื่อให้ได้มาซึ่งสันติภาพ”
เช่นเดียวกับ เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการ NATO ที่มองว่าการแสดงออกของปูตินนั้นไม่ได้เป็นการกระทำโดยสุจริตใจ
ที่ผ่านมายูเครนยืนยันข้อเรียกร้องหลักในการเจรจาสันติภาพ คือให้รัสเซียถอนทหารออกจากดินแดนที่รัสเซียยึดครองและผนวกรวมทั้งหมด ซึ่งรวมถึงแคว้นไครเมียที่ถูกผนวกรวมไปตั้งแต่ปี 2014
โดยทั้งรัสเซียและยูเครน ตลอดจนนานาประเทศที่เกี่ยวข้อง ติดอยู่ในหล่มความขัดแย้งและสงครามนองเลือดมานานกว่า 2 ปี และไร้การเจรจาสันติภาพโดยตรงใดๆ หลังจากที่เคยมีการพูดคุยในช่วงสัปดาห์แรกๆ ที่รัสเซียเปิดฉากทำสงคราม
ภาพ: Sputnik / Alexander Kazakov / Pool via Reuters
อ้างอิง: