สุขภาพกับเสรีภาพมักเป็นคู่ตรงข้ามกัน โดยเฉพาะเมื่อยกระดับสุขภาพของแต่ละคนเป็น ‘สาธารณสุข’ (Public Health) หรือสุขภาวะของประชากร เพราะ ‘เสรีภาพ’ ของคนหนึ่งอาจกระทบต่อสุขภาพของส่วนรวม การระบาดของโควิดเป็นตัวอย่างหนึ่ง ถึงแม้จะเป็นประเทศที่ยึดถือหลักเสรีภาพของประชาชน แต่สหรัฐอเมริกาในยุคของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ออกคำสั่งบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากในระบบขนส่งสาธารณะเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2021 เป็นต้นมา
ทว่าเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2022 แคทรีน คิมบอล มิเซลล์ ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นแห่งรัฐฟลอริดา พิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว ซึ่งออกโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค สหรัฐฯ (CDC) ส่งผลให้ประชาชนไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากในระบบขนส่งสาธารณะอีกต่อไป เช่น เครื่องบิน รถไฟ รถโดยสารประจำทาง แท็กซี่ รวมถึงบริการรถยนต์ร่วมโดยสารอย่าง Uber ด้วย หลายสายการบินแจ้งผู้โดยสารทันทีขณะขึ้นเครื่องบิน และผู้โดยสารหลายคนถอดหน้ากากออกด้วยความยินดี
ทำไมศาลสหรัฐฯ ถึงเพิกถอนคำสั่งนี้ รัฐกลางสหรัฐฯ มีท่าทีอย่างไร และคำพิพากษานี้จะส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่ของ CDC หรือไม่
คำสั่งบังคับสวมหน้ากาก
1 สัปดาห์หลังโจ ไบเดนปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี CDC ออกคำสั่งภายใต้บัญญัติการบริการสาธารณสุข (Public Health Service Act) และระเบียบข้อบังคับรัฐบาลกลาง (CFR) ให้ประชาชนสวมหน้ากากขณะอยู่บนยานพาหนะและในสถานีขนส่งสาธารณะเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2021 ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพื้นที่และอาจถูกปรับตามที่คณะกรรมการกำกับดูแลความปลอดภัยด้านการขนส่ง (TSA) กำหนด
ต่อมา CDC แก้ไขคำสั่งนี้ 2 ครั้ง คือวันที่ 10 มิถุนายน 2021 ไม่บังคับสวมหน้ากากในพื้นที่นอกอาคาร (Outdoor) ของระบบขนส่งสาธารณะ ซึ่งอากาศถ่ายเทสะดวก และวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2022 แก้ไขให้ไม่ต้องสวมหน้ากากในรถโดยสารของโรงเรียน ซึ่งเป็นการแก้ไขให้สอดคล้องกับแนวทางของ CDC ที่ไม่แนะนำให้นักเรียนชั้นอนุบาลถึงเกรด 12 (K-12) และก่อนชั้นอนุบาลสวมหน้ากากในสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดของโควิดระดับต่ำหรือปานกลาง
และล่าสุดเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2022 รัฐบาลกลางของไบเดนเพิ่งประกาศขยายเวลาบังคับใช้คำสั่งนี้ต่อไปอีก 15 วัน ซึ่งเดิมจะครบกำหนดวันที่ 18 เมษายน เนื่องจากการระบาดของโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ดังนั้นหากไม่มีคำพิพากษาของศาล คำสั่งนี้จะมีผลไปจนถึงวันที่ 3 พฤษภาคม ในขณะที่สายการบินต่างๆ เรียกร้องให้รัฐบาลกลางยกเลิกคำสั่งบังคับสวมหน้ากากและการตรวจหาเชื้อก่อนเดินทางเข้าสหรัฐฯ
คำพิพากษาของศาลชั้นต้น
คดีนี้เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2021 กลุ่มอนุรักษนิยม Health Freedom Defense Fund (HFDF) และผู้อาศัยในรัฐฟลอริดา 2 คน ซึ่งอ้างว่าการสวมหน้ากากทำให้เกิดความวิตกกังวลและแพนิกกำเริบ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องประธานาธิบดีไบเดนว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายและละเมิดบัญญัติวิธีปฏิบัติทางปกครอง (Administrative Procedure Act: APA) ซึ่งสำนักข่าว CNN สรุปคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งบังคับสวมหน้ากากในระบบขนส่งสาธารณะข้างต้นใน 3 ประเด็น กล่าวคือ
- สุขาภิบาล (Sanitation) ผู้พิพากษาเริ่มต้นจากนิยามของคำว่า ‘สุขาภิบาล’ ในบัญญัติการบริการสาธารณสุขที่ระบุว่า ในการป้องกันการระบาดของโรคติดต่อ รัฐบาลสามารถจัดการตรวจตรา การอบควัน สุขาภิบาล การกำจัดศัตรูพืช การทำลายสัตว์หรือสิ่งของที่พบว่าติดเชื้อหรือปนเปื้อน ซึ่งเป็นแหล่งของการติดเชื้ออันตรายต่อมนุษย์ และมาตรการอื่นที่เห็นสมควร โดยเห็นว่าคำนี้หมายถึงการทำความสะอาดสิ่งของ ในขณะที่ “การสวมหน้ากากไม่ใช่การทำความสะอาด”
“อย่างมากที่สุดมันดักจับละอองไวรัส แต่มันไม่ทำความสะอาด (Sanitize) ผู้ที่สวมหน้ากาก หรือทำความสะอาดยานพาหนะ” ผู้พิพากษากล่าว ดังนั้นคำสั่งของ CDC ที่ให้เหตุผลว่าการสวมหน้ากากลดการแพร่ระบาดของโควิด โดยไม่ทำลายหรือกำจัดมัน จึงเกินขอบเขตที่กฎหมายกำหนด
- การกักขังและกักกัน (Detention and Quarantine) ผู้เดินทางที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งจะถูกบังคับออกจากที่นั่งบนเครื่องบิน ถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นรถโดยสาร และถูกกีดกันที่ทางเข้าสถานีรถไฟ คล้ายกับการกักขังและกักกัน “การบังคับสวมหน้ากากไม่ใช่การจัดสุขาภิบาล แต่เป็นการใช้อำนาจของ CDC ในการปล่อยให้บุคคลเดินทางอย่างมีเงื่อนไขแม้จะมีความกังวลว่าพวกเขาอาจแพร่เชื้อ (และกักขังหรือกักกันผู้ที่ปฏิเสธ)” ซึ่งปกติแล้วจะบังคับใช้เฉพาะผู้ที่เดินทางเข้าสหรัฐฯ จากต่างประเทศเท่านั้น
- การละเมิดบัญญัติวิธีปฏิบัติทางปกครอง (APA) นอกจากนี้ผู้พิพากษายังเห็นว่าคำสั่งดังกล่าวขัดกับ APA ซึ่งรัฐบาลกลางต้องปฏิบัติตาม โดยรัฐบาลของไบเดนไม่ได้ผ่านการแจ้งให้ทราบและฟังความเห็นจากสาธารณะ (Public Notice-and-Comment) และยังเป็นการปฏิบัติตามอำเภอใจ เนื่องจากไม่ได้อธิบายเหตุผลในการบังคับใช้อย่างเพียงพอ ทั้งนี้ CDC ระบุในคำสั่งว่า การออกคำสั่งไม่อยู่ภายใต้ APA แต่เป็นการปฏิบัติการฉุกเฉินภายใต้อำนาจที่มีอยู่ตามระเบียบข้อบังคับรัฐบาลกลาง
สำนักข่าว CNN ตั้งข้อสังเกตว่า แคทรีน คิมบอล มิเซลล์ เป็นผู้พิพากษาศาลสหรัฐฯ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ และที่ผ่านมาเคยมีการฟ้องร้องให้เพิกถอนคำสั่งนี้หลายครั้งต่อศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา แต่ไม่มีศาลใดหรือผู้พิพากษาท่านใดพิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว โดยในคดีเหล่านั้นผู้พิพากษาให้น้ำหนักของความฉุกเฉินหรือคำสั่งเบื้องต้น ในขณะที่มิเซลล์พิจารณาความถูกต้องตามตัวบทกฎหมาย
ท่าทีของรัฐบาลกลาง
ภายหลังจากมีคำพิพากษา TSA ประกาศว่าไม่มีการบังคับสวมหน้ากากในระบบขนส่งสาธารณะอีกต่อไป ส่วนเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว แถลงในวันเดียวกันว่าเป็นการตัดสินที่น่าผิดหวัง และยังไม่มีคำตอบว่าจะมีการยื่นอุทธรณ์หรือไม่ แต่วันถัดมา (19 เมษายน 2022) กระทรวงยุติธรรม สหรัฐฯ ประกาศว่าพร้อมยื่นอุทธรณ์หาก CDC เห็นว่าคำสั่งดังกล่าวยังจำเป็นต่อสาธารณสุข ในขณะที่ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวกับนักข่าวระหว่างเดินทางไปรัฐนิวแฮมป์เชอร์ว่าการตัดสินใจสวมหน้ากากขึ้นกับประชาชนเอง
ความเห็นของนักกฎหมาย
“คุณอยู่ในสถานะที่มีตัวเลือกที่น่ากลัว 2 ทาง” ลอว์เรนซ์ โอ. กอสติน นักกฎหมายด้านสาธารณสุขแห่งมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว The New York Times “ทางหนึ่งคือเสี่ยงที่จะพรากอำนาจของ CDC ไปตลอดกาลหากการพิจารณาขึ้นไปถึงศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกา และในทางกลับกัน ถ้าคุณปล่อยให้สิ่งที่ผมคิดว่าเป็นการตัดสินที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายโดยผู้พิพากษาท่านนี้เดินหน้าต่อไป CDC จะไม่กล้าทำสิ่งที่เห็นว่ามีประสิทธิผลในการปกป้องประชาชน”
ส่วนอีริน ฟิวส์ บราวน์ ศาสตราจารย์ด้านกฎหายจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐจอร์เจีย ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว NPR ว่าคำพิพากษาดังกล่าว “เหมือนคนที่ตัดสินคดีไปแล้วพยายามอธิบายด้วยเหตุผลทางกฎหมาย โดยไม่ได้ให้เหตุผลทางกฎหมายจริงๆ” สำหรับความเข้าใจเรื่อง ‘สุขาภิบาล’ เธอเห็นว่าอาจเป็นความจริงสำหรับประชาชนทั่วไป แต่สำหรับ CDC การจัดสุขาภิบาลเป็นเพียงสำนวนเก่าในการดำเนินการด้านสาธารณสุขแบบดั้งเดิมเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค
คำแนะนำของ CDC
หากตัดประเด็นด้านกฎหมายออกไป CDC ยังคงแนะนำการสวมหน้ากากเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด โดยพิจารณาจากระดับโควิดในชุมชน (COVID-19 Community Level) ซึ่งแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่
- ระดับต่ำ การสวมหน้ากากขึ้นกับแต่ละบุคคล
- ระดับปานกลาง ผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือมีความเสี่ยงต่ออาการรุนแรงควรสวมหน้ากากในพื้นที่สาธารณะภายในอาคาร
- ระดับสูง ทุกคนควรสวมหน้ากากในพื้นที่สาธารณะภายในอาคาร
ปัจจุบันพื้นที่ในสหรัฐฯ มากกว่า 90% จัดเป็นระดับต่ำ ประชาชนส่วนใหญ่จึงไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากาก
ส่วนการเดินทางในระบบขนส่งสาธารณะ CDC เห็นว่าเพิ่มความความเสี่ยงต่อการได้รับและแพร่เชื้อ เนื่องจากอยู่ใกล้ชิดกับผู้อื่นเป็นระยะเวลานานและสัมผัสกับพื้นผิวที่สัมผัสร่วมกัน การเดินทางด้วยเครื่องบินมักใช้เวลาในอาคารผู้โดยสารเครื่องบินที่มีพลุกพล่าน ส่วนการเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง รถไฟ และยานพาหนะอื่นไม่สามารถเว้นระยะห่างจากผู้อื่นได้ อีกทั้งการเดินทางมักทำให้เกิดการระบาดระหว่างรัฐ / ประเทศ ผู้โดยสารจึงต้องสวมหน้ากาก
การสวมหน้ากากระหว่างเดินทางยังปกป้องกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบที่ไม่ควรสวมหน้ากาก, เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบที่ยังไม่มีวัคซีนสำหรับช่วงอายุนี้, ผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว ที่ถึงแม้จะสวมหน้ากาก แต่ถ้าผู้ที่อาจติดเชื้อสวมหน้ากากด้วยจะทำให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น การยกเลิกคำสั่งดังกล่าวจึงเพิ่มความเสี่ยงต่อประชาชนกลุ่มนี้ และประกอบกับความต้องการเดินทางที่สูงขึ้น อาจทำให้การระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ไม่ว่าจะเป็น ‘การขอความร่วมมือ’ หรือ ‘การบังคับ’ ต่างมีข้อดี-ข้อเสีย ในทางสาธารณสุขการบังคับมักเป็นตัวเลือกสุดท้ายหลังจากใช้มาตรการอื่นแล้วไม่ได้ผล ส่วนการฟ้องร้องต่อศาลเป็นการถ่วงดุลอำนาจอย่างหนึ่ง คำพิพากษามุ่งไปที่ประเด็นเชิงเทคนิค ตีความคำว่า ‘สุขาภิบาล’ ตามตัวอักษร และยึดบัญญัติวิธีปฏิบัติทางปกครองในการพิจารณา ซึ่งจะส่งผลต่อการทำหน้าที่ของ CDC ในภาวะฉุกเฉินในอนาคต
อ้างอิง:
- Order: Wearing of face masks while on conveyances and at transportation hubs https://www.cdc.gov/quarantine/masks/mask-travel-guidance.html; https://www.cdc.gov/quarantine/pdf/Mask-Order-CDC_GMTF_01-29-21-p.pdf
- TSA to implement Executive Order regarding face masks at airport security checkpoints and throughout the transportation network https://www.tsa.gov/news/press/releases/2021/01/31/tsa-implement-executive-order-regarding-face-masks-airport-security
- Biden administration extends transportation mask mandate for 15 more days https://www.cnbc.com/2022/04/13/us-extends-mask-mandate-for-airplanes-and-transit-by-15-days.html
- CDC mask mandate for travelers no longer in effect following judge’s ruling, official says https://edition.cnn.com/2022/04/18/politics/cdc-mask-mandate-ruling
- TSA will not enforce Covid mask mandate on planes, public transit after court ruling, White House says https://www.cnbc.com/2022/04/18/florida-judge-overturns-cdc-mask-mandate-for-public-transit-planes.html
- United States District Court Middle District of Florida Tampa Division https://pacer-documents.s3.amazonaws.com/40/391798/047124235804.pdf
- The Biden administration says it may appeal a ruling that voided a mask mandate on public transport. https://www.nytimes.com/live/2022/04/19/world/covid-19-mandates-cases-vaccine#biden-mask-mandate-transportation
- The judge who tossed mask mandate misunderstood public health law, legal experts say https://www.npr.org/sections/health-shots/2022/04/19/1093641691/mask-mandate-judge-public-health-sanitation
- Use and Care of Masks https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/prevent-getting-sick/about-face-coverings.html