วันนี้ (14 มิถุนายน) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวชี้แจงถึงพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ในที่ประชุมวุฒิสภา (ส.ว.) ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลกและประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยรัฐบาลพยายามประคับประคองมาโดยตลอด โดยการให้กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ปัญหา สำหรับประเด็นเรื่องการจ้างงานที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการจ้างงานไปแล้ว 1.3 ล้านราย
สำหรับแผนการกระจายวัคซีนวันนี้ได้มอบหมายให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เชิญกรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเพื่อให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน และในปี 2564 นี้รัฐบาลได้วางแผนจัดหาวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดส เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ภายในไตรมาสที่ 1 ในปี 2565 ซึ่งขณะนี้มีประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนแล้วกว่า 6.12 ล้านโดส สำหรับการที่จะฉีดวัคซีนให้ประชาชนจะต้องทยอยจอง และนัดวันเข้ารับวัคซีนตามจำนวนวัคซีนที่รัฐบาลได้มา เพราะรัฐบาลก็ได้ชี้แจงกรอบไปแล้วว่าในแต่ละเดือนรัฐบาลได้รับวัคซีนมาเท่าไหร่ จะแบ่งปันไปอย่างไร ซึ่งมีเพียง 3 อย่างที่รัฐบาลใช้เป็นหลักการคือ ทุกจังหวัดจะต้องได้ฉีดวัคซีน จังหวัดที่มีการแพร่ระบาดเป็นจำนวนมากจะต้องได้รับวัคซีนสมทบเข้าไป และคลัสเตอร์ใดที่มีปัญหาก็จะต้องได้รับวัคซีนสมทบมากเข้าไปอีก
“ดังนั้นการติดต่อต่างๆ ต้องขอความกรุณาให้รับฟังที่รัฐบาลเท่านั้น ในวันนี้ทุกคนก็รู้อยู่ว่ามีปัญหาอะไรบ้างในการสร้างการรับรู้และสร้างการบิดเบือน ทุกอย่างมีการเมืองเข้ามาแทรกหมด เหมือนที่ทุกคนเห็นว่าทุกวันนี้ไม่ได้มีเพียงฝ่ายรัฐบาลฝ่ายเดียว มีฝ่ายค้านเข้ามาอีก ซึ่งผมก็เคารพทุกอัน ผมไม่เคยหยุดคิด
ผมคิดวันนี้ คิดวันหน้า และคิดอนาคต ยืนยันว่ารัฐบาลมีการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะปีนี้หรือปีหน้า และการจัดหาวัคซีนบริษัทต่างประเทศยังไม่สามารถที่จะจัดหาให้เราได้ แต่ประเทศไทยโชคดีที่มีบริษัทผลิตวัคซีนเป็นของตนเอง แต่ก็ต้องได้รับอนุมัติการผลิตจากเจ้าของลิขสิทธิ์วัคซีน” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว
วัคซีนที่เข้ามาในประเทศไทยทั้งหมด ไม่ว่าใครจะเป็นผู้ซื้อก็ตามตนเองไม่ขัดข้อง เพียงแต่ว่าจะต้องมีตัวแทนและจะต้องขึ้นทะเบียนกับคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ถ้าใครอ้างว่าซื้อได้ หาได้ แต่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับ อย. ไม่มีทางซื้อได้แน่นอน รัฐบาลได้เจรจาซื้อวัคซีนทุกยี่ห้อที่มีทั้งหมด แต่ก็จะต้องมีบริษัทที่มาขึ้นทะเบียนในประเทศไทยให้เป็นไปตามกฎหมาย แต่ท่านก็ต้องไปเจรจากับบริษัทที่มาขึ้นทะเบียนให้ได้ก็แล้วกัน
พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับประเด็นเรื่องหนี้สาธารณะที่หลายฝ่ายออกมากล่าวหารัฐบาลว่าเป็นการกู้ที่เกินวงเงิน ก็ต้องย้อนกลับไปถามว่ามันจำเป็นหรือไม่ที่รัฐบาลจะต้องกู้ ซึ่งก่อนหน้ารัฐบาลของตนเองก็ต้องย้อนถามกลับไปว่ามีหนี้สาธารณะอยู่ที่เท่าไรแล้ว ตนเองเป็นคนสร้างหนี้ทั้งหมดนี้หรือไม่ ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับตนเองบ้าง
สำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือโครงการต่างๆ ของรัฐบาล เช่น คนละครึ่ง ไม่ได้เป็นโครงการหาเสียงทางการเมือง รัฐบาลตั้งใจที่จะทำให้ประชาชนเหล่านั้นอยู่ให้ได้ ที่เหลือวันหน้าก็จะทำให้เขาอยู่ให้ได้ ยืนยันว่าตราบใดที่ตนเองอยู่ก็จะทำเพื่ออนาคต อดีตคือปัจจุบันและคืออนาคต ที่ทำงานทุกวันนี้ไม่ใช่ว่าไม่รู้กฎหมาย หรือไม่รู้อะไรทั้งสิ้น ไม่ใช่มาพูดอย่างเดียวโดยไม่รู้ข้อมูลพื้นฐาน ไม่รู้กฎหมาย ตนเองทำตรงนี้ก็ต้องปลอดภัยเหมือนกัน จะไม่ทำอะไรที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วโดยให้ข้าราชการหรือรัฐบาลเดือดร้อน
ขณะที่ข้อกล่าวหาที่ว่ารัฐบาลด้อยค่า ฟังมากก็ปวดหัว ถ้าเราเชื่อตามไปหมดไม่ว่าจะเป็นข่าวบิดเบือนหรือข่าวด้อยค่า ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ต้องมามองภาพรวมแบบตนเอง จะได้รู้ว่าควรจะทำอย่างไร ตนรับฟังท่านทุกวัน ส.ส. อภิปราย พ.ร.ก. กู้เงิน 5 แสนล้านบาทก่อนหน้านี้ก็นั่งฟังทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็น ส.ส. หรือ ส.ว. ให้เกียรติทั้งสิ้น
พล.อ. ประยุทธ์ระบุว่า วันนี้ใครไม่เชื่อมั่นตนเองบ้าง ยิ่งโดนไล่ทุกวัน ยิ่งไล่ตนเองยิ่งสู้ ยืนยันว่าอยู่มา 7 ปี ไม่มีการทุจริตคอร์รัปชัน ไม่มีเงินถึงมือสักบาท วันนี้ทำงานในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ขอถามว่าประชาธิปไตยไทยจะไปแบบไหนกันอีก ในวันนี้ยังไม่พออีกหรือ ใครจะละเมิดใคร หรือจะไม่เคารพพ่อแม่ จะด่าครูอาจารย์ ก็ได้หรือ
อย่างไรก็ตามเงินกู้ 5 แสนล้านบาทนี้ รัฐบาลจะนำไปพิจารณาดำเนินการภายใต้งบประมาณที่มีอยู่ และปีหน้าหากงบประมาณหรือโครงการใดที่ไม่มีประโยชน์ก็สามารถที่จะตัดได้ ขอยืนยันว่าตนไม่เคยนึกถึงตนเองเลย ขนาดฝันยังเป็นงานเลยไม่เคยฝันเป็นอย่างอื่น
“ทุกวันนี้อยากให้รู้ว่าใจผมคืออะไร การเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นหน้าที่ที่มีเกียรติ ผมต้องทำตัวผมให้มีเกียรติ ให้คนอื่นเขายกย่อง ให้เขาเชื่อมั่น ผมตั้งเกียรติของตนเองไม่ได้ เกียรติต้องเป็นสิ่งที่คนอื่นเขามอบให้ ผมทำดีก็ต้องให้เกียรติกับผม ถ้าผมทำไม่ดีก็ไม่ต้องให้เกียรติผม แล้วก็ฝากไว้ด้วยว่าถ้ามีการเลือกตั้งในอนาคต ผมยืนยันว่าจะอยู่ไปจนครบนี่แหละ จะได้เลิกพูดกันสักที วันหน้าก็เลือกกันมาให้ดีแล้วกัน ทุกคนลืมง่ายกันหมดทุกเรื่อง ผมต้องทำไปข้างหน้า แก้ปัญหาและวางอนาคตไว้ด้วย ไม่ใช่เพราะผมไม่ได้รับการตรวจสอบ สมัย คสช. ผมก็ถูกตรวจสอบ คดีผมมีเป็นร้อย แต่เมื่อผมชี้แจงได้ก็จบ ผมไม่สามารถที่จะไปสั่งศาลได้” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ