×

พล.อ. ประวิตร ชมดีอีเอส สานต่อนโยบายรัฐบาล ‘รู้เท่าทันภัยสื่อออนไลน์’ กำชับตำรวจเร่งดำเนินคดีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

โดย THE STANDARD TEAM
29.10.2020
  • LOADING...
ประวิตร ดีอีเอส นโยบายรัฐบาล ‘รู้เท่าทันภัยสื่อออนไลน์’ ดำเนินคดี แพลตฟอร์ม โซเชียลมีเดีย

วันนี้ (29 ตุลาคม) พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางติดตามผลการดำเนินงานและมอบนโยบายสำคัญที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) โดยมี พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ พร้อมด้วย อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ และคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง รวมถึงหน่วยงานในสังกัด ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุม กระทรวงดิจิทัลฯ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ 

 

พล.อ. ประวิตร กล่าวชื่นชมผลการดำเนินงานของกระทรวง ซึ่งสนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาลเป็นอย่างดี และถือเป็นกำลังสำคัญของรัฐบาลในการดำเนินการทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และยังได้มอบหมายแนวทางทำงาน 8 ข้อ เพื่อให้กระทรวงดำเนินการต่อเนื่อง รองรับเป้าหมายให้คนไทยทั้งประเทศสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล สร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้ในระบบดิจิทัล หนุนสร้างความตระหนักรับรู้อย่างทั่วถึง และรู้เท่าทันภัยจากสื่อออนไลน์

 

โดยในด้านสังคมรวมทั้งความมั่นคง ประกอบด้วย 1. ช่วยกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาสเป็นพิเศษ โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้เข้าถึงและสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างเหมาะสม 2. เร่งแก้ไขปัญหาข่าวปลอม (เฟกนิวส์) ที่กระทรวงกำลังดำเนินการ ต้องนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วย ประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทำให้เป็นรูปธรรม และให้ข้อมูลที่ถูกต้อง เข้าถึงประชาชนในวงกว้างมากยิ่งขึ้น

 

3. เร่งป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ โดยบูรณาการการทำงาน และดำเนินการตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ อย่างเคร่งครัด และ 4. ขับเคลื่อนการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ที่จัดตั้งขึ้นใหม่ เพื่อป้องกันภัยจากการโจมตีทางไซเบอร์ที่เป็นภัยต่อความมั่นคง และทวีความสำคัญมากขึ้น

 

พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า “จากเหตุการณ์เมื่อต้นสัปดาห์ ที่กลุ่มผู้เรียกตัวเองว่า กลุ่มไซเบอร์ทรีฟิงเกอร์ โจมตีเว็บไซต์สารสนเทศภาครัฐ 5 หน่วยงาน แต่เราสามารถตั้งรับได้ ไม่เกิดปัญหาระบบล่ม และสามารถให้บริการได้ตามปกติ เป็นบทพิสูจน์ความสำคัญของสำนักงานไซเบอร์ฯ

 

สืบเนื่องจากปัจจุบัน สื่อสังคมออนไลน์มีบทบาทสร้างความขัดแย้งในสังคม การปลุกปั่นยั่วยุ และการแสดงออกอย่างไม่เหมาะสม กระทรวงต้องมีบทบาทในการแก้ไขเรื่องดังกล่าว จึงขอให้เพิ่มประสิทธิภาพการปิดกั้นเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมาย และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างจริงจังและเปิดเผยให้สังคมได้รับทราบ

 

เราเห็นตัวอย่างจากสถานการณ์ปัจจุบันแล้วว่า ม็อบใช้สื่อดิจิทัลในการปลุกระดมคนมาร่วมการชุมนุมทางการเมือง ดังนั้นเป็นบทบาทของกระทรวงในเรื่องนี้ ขณะเดียวกัน ก็อยากฝากให้ทางตำรวจเร่งรัดติดตามดำเนินคดีกับแพลตฟอร์มที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการปิดและระงับการเข้าถึงยูอาร์แอลหมิ่นฯ หรือผิดกฎหมาย ตามที่กระทรวงได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว เพราะถ้ามีการดำเนินคดีเป็นตัวอย่าง 1-2 คดี แพลตฟอร์มต่างประเทศก็จะได้เห็นว่าประเทศไทยมีกฎหมายและเรามีการบังคับใช้จริง” 

 

นอกจากนี้ พล.อ. ประวิตรยังขอให้กระทรวงประสานและขอความร่วมมือกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด รวมถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี) ในประเทศ และแพลตฟอร์มต่างประเทศ

 

“ขอให้กระทรวงพัฒนาอุปกรณ์ เครื่องมือ ให้ทันกับเทคโนโลยีเพื่อการสืบค้น พิสูจน์หลักฐาน และหาตัวผู้กระทำผิดให้ได้อย่างจริงจัง และสร้างความตระหนักรับรู้ การรู้เท่าทันจากภัยออนไลน์ให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง” พล.อ. ประวิตรกล่าว

 

ท้ายสุดนี้ พล.อ. ประวิตร ได้กล่าวชื่นชมกระทรวงว่า ที่ผ่านมามีผลงานสำเร็จเป็นรูปธรรมหลายเรื่อง เช่น การจัดตั้งสำนักงานไซเบอร์ฯ การจัดตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม และการพัฒนาระบบคลาวด์กลางภาครัฐ ทั้งนี้ ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้บริหาร ข้าราชการ และบุคลากรของกระทรวงที่ได้ทุ่มเทต่อการปฏิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติอย่างมั่นคง และยั่งยืนตลอดไป

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising