พลังช้อปแบรนด์เนมของชาวจีนเป็นที่เลื่องลือของแบรนด์หรูทั่วโลก คำพูดนี้กำลังได้รับการยืนยันอีกครั้ง เมื่อ Prada แบรนด์หรูอิตาลีได้ออกมาเปิดเผยว่า ยอดขายจนถึงปัจจุบันในแดนมังกรได้แซงยอดขายของปี 2019 ทั้งปีไปเรียบร้อยแล้ว
Patrizio Bertelli ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Prada ระบุกับ Reuters ว่า ความต้องการของลูกค้าชาวจีนสำหรับสินค้าฟุ่มเฟือยยังคงแข็งแกร่งมาก แม้ว่าจะมีผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยและการเดินทางระหว่างประเทศต้องหยุดชะงัก
และการแพร่ระบาดที่ขยายไปทั่วโลกบังคับให้ผู้ค้าปลีกระดับไฮเอนด์ต้องปิดร้านค้าและปิดโรงงานผลิตชั่วคราว มีการประเมินว่ายอดขายโดยรวมของอุตสาหกรรมหรูคาดว่าจะลดลงถึง 35% ในปี 2020
เหล่าแบรนด์หรูจึงกำลังเดิมพันกับการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในจีนแผ่นดินใหญ่ เพราะสินค้าฟุ่มเฟือยทั่วโลกมากกว่า 35% ในปี 2019 ถูกซื้อโดยชาวจีน แน่นอนว่าการจับจ่ายสินค้าหรูหรานี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเมื่อชาวจีนไปท่องเที่ยวและช้อปปิ้งในต่างประเทศ
ดังนั้นแบรนด์หรูระดับโลกทั้งหมดจึงมุ่งเป้าไปที่การขายในจีน โดยมีทั้งการเปิดร้านค้าใหม่ตลอดจนกลยุทธ์การตลาดเพื่อเอาใจชาวจีน ซึ่งในช่วงเวลานี้แบรนด์หรูต่างคาดหวังที่จะใช้พลังช้อปของชาวจีนเข้ามาช่วยลดความเสียหายที่เกิดขึ้นจากวิกฤตโควิด-19
“จนถึงปัจจุบันยอดขายของ Prada Group ในประเทศจีนสูงเกินระดับของปี 2019 ไปแล้ว โดยมีการเติบโตเป็นเลขสองหลักตั้งแต่ต้นปี” แม่ทัพของ Prada กล่าวพร้อมกับเสริมว่า การฟื้นตัวในประเทศจีนเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม โดยยอดขายเติบโตสูงถึงกว่า 60% และรักษาสถิตินี้ในเดือนต่อๆ ไปด้วย
Prada เชื่อว่าแนวโน้มดังกล่าวจะสามารถรักษาได้ต่อเนื่องในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยยอดขายของ Prada ในวันวาเลนไทน์ของจีน ซึ่งตรงกับวันที่ 25 สิงหาคม ได้ทุบสถิติตลอดกาลไปเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ยอดขายครึ่งปีแรกของ Prada ทั่วโลกลดลง 40% แม้ว่าจะเติบโตอย่างหวือหวาในแผ่นดินใหญ่ก็ตาม โดยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคิดเป็น 44% ของยอดขายของ Prada ในช่วง 6 เดือนจนถึงมิถุนายน 2020
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
