แบม ปีติภัทร เชื่อว่า โอกาสจะมาพร้อมคน “ผู้คนที่เราได้รู้จักจะนำพาโอกาสใหม่ๆ เข้ามาให้เราเสมอ”

แบม ปีติภัทร คูตระกูล หรือที่หลายคนอาจเรียก แบม Top Chef เพราะนั่นคือรายการที่ทำให้คนส่วนใหญ่รู้จักเขา แบมเป็นดีเจที่ Get 102.5 มาหลายปี ลงเสียงโฆษณามามากมาย ผ่านงานพิธีกรทีวีและอีเวนต์มาบ้าง

แบม ปีติภัทร ทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมน่าประทับใจในฐานะพิธีกรเรียลิตี้โชว์ครั้งแรก และเรายิ่งประทับใจขึ้นไปอีกเมื่อบังเอิญได้พบเบาะแสมาว่าภาษาอังกฤษของเขาคล่องแคล่วแค่ไหน จากคลิปบนยูทูบชิ้นหนึ่งที่แบมกำลังคุยกับเพื่อนต่างชาติอย่างฉาดฉาน

โบ สาวิตรี ชวน แบม ปีติภัทร คุยสนุกๆ ใน We Need To Talk Podcast หากสะดวกฟังเชิญกด Play ด้านบน แต่ถ้าสะดวกอ่านก็เชิญกวาดสายตาลงด้านล่างได้เลย

01.17

ด้วยความที่คนส่วนใหญ่น่าจะรู้จัก แบม ปีติภัทร จากรายการ Top Chef Thailand ขอเริ่มโดยการชวนคุยเรื่องอาหารก่อนเลยดีกว่า ถ้าต้องกินอาหารอย่างเดียวไปหนึ่งเดือนเต็ม จะเลือกกินอะไร

เลือกยากจัง ผมชอบกินซะด้วย ประเด็นคือต่อให้เป็นของโปรดแค่ไหน แต่ถ้าให้กินไปเดือนหนึ่งนี่สงสัยจะโปรดไม่ไหวแล้วใช่ไหมครับ จากของชอบกลายเป็นของเกลียดได้เลยนะ แต่สมมติต้องเลือกจริงๆ ขอเลือกของพื้นๆ กินง่ายๆ อย่างข้าวมันไก่แล้วกันครับ กลัวจะเกลียดมันเหมือนกัน (หัวเราะ) คิดว่าข้าวมันไก่นี่ผมจะอร่อยกับมันไปได้นาน แต่ต้องขอเป็นเนื้อน่องติดหนังด้วยนะครับ (หัวเราะ)

02.37

อาหารที่ แบม ปีติภัทร จะไม่มีวันกินอย่างเด็ดขาด

อะไรก็ตามที่เขากินกันในรายการ Fear Factor น่ะครับ ไข่ควาย แมลงสาบ อะไรพวกนั้น ไม่มีวันเลยครับ… แต่ถ้าเงินถึงก็อาจจะกินนะ (หัวเราะ) ใครพร้อมจ่ายติดต่อผมมานะครับ อาจพิจารณาอีกครั้ง

03.15

อาหารที่แบม ปีติภัทร ไม่ชอบเท่าไร แต่พยายามบังคับให้ตัวเองกินเพราะรู้ว่าเป็นของดีมีประโยชน์

นอกจากจะเป็นคนชอบกิน ผมยังเป็นคนกินง่ายอีกด้วยนะ เลยกินได้ทุกอย่างแหละครับ ผักก็กินได้หมด ไม่มีปัญหาอะไร อืม นึกไม่ออกเลย อืม แตงกวามั้งครับ เมื่อก่อนชอบมาก กินจนมือเหลือง แต่พอโตขึ้น ไม่รู้ทำไม รู้สึกเหม็นเขียวขึ้นมา แต่ก็พยายามกินนะ รู้ว่ามันดี ให้ความชุ่มชื้น เพราะน้ำเยอะ

04.42

เด็กชาย แบม ปีติภัทร เป็นเด็กแบบไหน

เป็นทั้งเด็กดีและเด็กดื้อ คือเวลาอยู่กับเพื่อนก็ซนหน่อย แต่อยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ก็สุภาพเรียบร้อย อยู่เป็นครับ อยู่เป็น (หัวเราะ)

ที่บ้านผมสนิทกันครับ เป็นครอบครัวอบอุ่น พี่สาวแก่กว่าผมแค่ปีเดียว เขาเกิดปีม้า ผมเกิดปีแพะ ตามตำราเขาว่าจะเข้ากันดี ซึ่งก็จริงนะ ผมสนิทกับพี่สาวมาก และยิ่งสนิทหนักเข้าไปอีก เพราะผมเรียนเก่งจัด ตอน ป.3 ได้เกรด 3.82 ครูเลยให้ข้าม ป.4 ไปเรียน ป.5 เลย ผมเลยไปอยู่ชั้นเดียวกับพี่สาว ก็กลายเป็นว่ามีเพื่อนกลุ่มเดียวกันไปอีก เรียนก็เรียนด้วยกัน ผลัดกันลอกการบ้านประจำ (หัวเราะ) คนชอบคิดว่าเราเป็นฝาแฝดกันนะครับ ตอนเข้ามหาวิทยาลัย นี่เป็นคำถามสุดฮิตเลย เริ่มด้วย “เป็นแฟนกันเหรอ” ไม่ใช่ เป็นพี่น้องกัน “อ๋อ เป็นแฝดหรือเปล่า” ไม่ใช่ เป็นพี่น้องกันเฉยๆ

07.24

วิชาถนัดและไม่ถนัดของเด็กชาย แบม ปีติภัทร

พูดอย่างนี้แล้วกัน ผมเป็นเป็ดน่ะครับ อย่างที่ฝรั่งพูดว่า ‘Jack of all trades, master of none’ คือทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่เก่งมากๆ สักอย่าง ใช้ทั้งสมองซีกซ้ายและซีกขวาได้ดี แต่ไม่เด่นสักเรื่อง

ที่ดีกว่าวิชาอื่นนิดหน่อยน่าจะเป็นเลขนะครับ สมัยเด็กๆ แม่ผมไปซื้อแฟรนไชส์ Kumon มาเปิด จนเดี๋ยวนี้ก็ยังดำเนินกิจการอยู่นะ สงสัยเพราะผมเรียนคุมองนี่แหละเลยเก่งเลข

แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้ผมเลือกเรียนการเงินตอนเข้ามหาวิทยาลัยนะครับ เหตุผลหลักที่ผมเรียน MBA สาขาไฟแนนซ์ ภาคอินเตอร์ (คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) เป็นเพราะผมไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรดีต่างหาก ก็เลยไปปรึกษาพ่อแม่ เขาก็บอกว่าเรียนบริหารธุรกิจก็ดีนะ ตอนนี้อะไรๆ ก็เป็นธุรกิจไปหมด ผมมาคิดดูก็จริง โรงพยาบาลยังเป็นธุรกิจเลย

วิชาไม่ชอบเหรอครับ ประวัติศาสตร์มั้ง ผมเรียนโรงเรียนอินเตอร์มาตั้งแต่เกรด 1 ประวัติศาสตร์ที่เรียนก็เป็นประวัติศาสตร์อเมริกัน ซึ่งไม่อินเลย ไม่สนุก คือมันมาสนุกตอนเราโตแล้วน่ะครับ เพราะเราได้อ่านมากขึ้น ได้เดินทางมากขึ้น ได้รู้ได้เห็นมากขึ้น มันก็สนุกกว่าตอนเด็กที่ถูกบังคับให้เรียนให้ท่องอะไรก็ไม่รู้

ไม่อินกับวิชาประวัติศาสตร์เลย ไม่สนุก แต่มาสนุกตอนเราโตแล้ว เพราะเราได้อ่านมากขึ้น ได้เดินทางมากขึ้น ได้รู้ได้เห็นมากขึ้น มันก็สนุกกว่าตอนเด็กที่ถูกบังคับให้เรียนให้ท่องอะไรก็ไม่รู้

10.10

ไม่น่าเชื่อว่าพิธีกรพูดติดอ่างได้ด้วย

ไม่ใช่เมื่อก่อนครับ เดี๋ยวนี้ยังเป็นอยู่เลยในบางที เป็นปัญหานะ เพราะผมชอบพูด ชอบคุยกับคน ตอนนี้ก็พูดเป็นงานด้วยซ้ำ อาการจะออกตอนเราเครียด ตอนเจองานใหญ่ งานสำคัญ หรืองานทางการมากๆ กล้ามเนื้อมันก็จะเกร็ง แล้วมันก็จะติดอ่าง

แต่ผมเป็นคนเชื่อในการฝึกฝนนะ ยิ่งฝึกยิ่งเก่ง คำไหนพูดแล้วติด ก็พูดมันเข้าไปเยอะๆ ให้คล่อง แล้วก็ต้องพยายามไม่ตื่นเต้น ไม่เกร็ง ไม่เครียด กล้ามเนื้อจะได้ผ่อนคลาย อาการติดอ่างก็จะน้อยลงครับ

15.04

เกือบไปเป็นนักบิน

ผมสอบได้ทุนนักบินของการบินไทยครับ สอบกันเยอะมากกว่าจะผ่าน 8-9 ขั้นตอน เพราะมีทั้งข้อเขียน สัมภาษณ์ ทดสอบร่างกาย ทดสอบสุขภาพจิต ตอนสอบได้ก็ดีใจมากนะครับ มันได้รสชาติของความสำเร็จ แต่พอมาคิดดูดีๆ อีกที ถ้าผมตัดสินใจไปเป็นนักบิน ผมต้องทิ้งทุกอย่างที่กำลังทำอยู่ไปเลย ทั้งงานพิธีกร งานทีวี แต่ผมไม่อยากทิ้ง จุดหนึ่งเคยคิดว่าทำไปพร้อมๆ กันทั้งสองอย่างดีไหม แต่ก็คิดได้อีกว่า แล้วจะทำทำไมสองอย่าง ในเมื่อเรารู้แล้วว่าอะไรคือสิ่งที่เราอยากทำจริงๆ งานนักบินเป็นสิ่งที่เรียกว่าแผนสำรองสำหรับผม คำสำคัญเลยคือ ‘ความมั่นคง’ นี่แหละ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ผมอยากไปสอบนักบินแต่แรก เพราะเราอยากได้อาชีพที่มั่นคง แต่แล้วความมั่นคงก็ไม่สามารถการันตีได้เลยว่าเราจะประสบความสำเร็จแน่นอน และที่สุดแล้ว ผมอยากมีความสุขกับสิ่งที่ผมทำ

เคยคิดว่าจะทำพิธีกรกับเป็นนักบินไปพร้อมๆ กันทั้งสองอย่างดีไหม แต่แล้วก็คิดได้ว่าจะทำทำไมสองอย่าง ในเมื่อเรารู้แล้วว่าอะไรคือสิ่งที่เราอยากทำจริงๆ ‘ความมั่นคง’ คือเหตุผลที่ทำให้ไปสอบนักบินแต่แรก แต่ความมั่นคงก็ไม่สามารถการันตีได้หรอกว่าเราจะประสบความสำเร็จ

17.10

งานที่คูลที่สุด คืองานที่คนจ้างให้เดินทางฟรีๆ

ผมไปออดิชันงานพิธีกรของ Travel Channel เมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว เขาให้เราแสดงว่ากำลังแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พอได้งานแรกๆ ก็ทำแค่รายการแจกของรางวัลเป็นการโปรโมตช่อง แต่ต่อมาก็ได้ทำรายการของตัวเอง ชื่อรายการ Boarding Pass ก็พาไปเที่ยวตามที่ต่างๆ สาธารณรัฐเช็ก ญี่ปุ่น ฮ่องกง เวียดนาม สนุกดีนะครับ ได้เดินทางฟรี ไม่ใช่แค่ฟรี ได้เงินด้วย ก็เป็นงานที่แจ๋วมากสำหรับเด็กมหาวิทยาลัยคนหนึ่งนะ

จากนั้นงานอื่นๆ ต่างๆ ก็ตามมาครับ ผมว่านี่เป็นส่วนที่ดีและสนุกที่สุดของงานนี้เลย คือมันทำให้เราได้พบเจอผู้คนมากมาย และผมเชื่อมาตลอดว่า โอกาสจะมาพร้อมคน ผู้คนที่เราได้รู้จักจะนำพาโอกาสใหม่ๆ เข้ามาให้เราเสมอ

งานอื่นๆ ที่อยากทำเหรอครับ งานแสดงมั้งครับ มันน่าสนุกและท้าทายดีนะครับ กับการที่ต้องหยุดเป็นตัวเองแล้วแสดงเป็นคนอื่น ผมรู้ว่ามันจะยาก และคิดว่าต้องทำการบ้านเยอะ แต่นั่นคือสิ่งที่อยากลองครับ

ผมเชื่อมาตลอดว่า โอกาสจะมาพร้อมคน ผู้คนที่เราได้รู้จักจะนำพาโอกาสใหม่ๆ เข้ามาให้เราเสมอ

21.00

รายการเรียลิตี้ ต่อให้ไม่ออกอากาศสด แต่อารมณ์ต้องสด

สนุกมากครับ แตกต่างจากงานพิธีกรที่เคยทำอย่างสิ้นเชิง ซึ่งคือการนำเสนอข้อมูล และแสดงความสนุกสนานออกมา จบ แต่นี่คือรายการเรียลิตี้ที่ผมต้องคุมและดูแลให้อยู่ ทั้งเชฟ 15 คนกับกรรมการอีก 4 และต้องพยายามทำให้คนดูติดตามไปกับเราให้ได้ ที่สำคัญ ผมทำอาหารไม่เป็นเลย ผมกินอย่างเดียว (หัวเราะ)

ส่วนที่ยากที่สุดคือต่อสู้กับความกดดันและความรับผิดชอบ เพราะทุกสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในรายการ โจทย์ของแต่ละสัปดาห์ วัตถุดิบของแต่ละสัปดาห์เป็นความลับ และคนที่จะต้องประกาศและเปิดเผยทั้งหมดคือผม และถ้าผมพูดผิด หรือคิวผิด หรืออารมณ์ไม่ได้ โมเมนต์นั้นมันจะถูกทำลายไปเลย รายการมันไม่สดก็จริงนะครับ แต่มันก็เหมือนสด เพราะโอกาสที่เราจะเก็บความรู้สึกแบบสดๆ ของผู้เข้าแข่งขันหรือกรรมการ มันมีแค่ครั้งเดียวเท่านั้น และนั่นคือหัวใจของเรียลิตี้ทีวี-การเก็บภาพอารมณ์และปฏิกิริยาของคน กดดันสุดๆ เพราะฉะนั้น ทำการบ้านหนักมาก ศึกษาหนักมาก และโดนด่าก็หนักมากเช่นกัน แต่ทั้งหมดคือประสบการณ์ที่มีค่าสุดยอดครับ

แบม ปีติภัทร เผยว่า Top Chef Thailand ซีซัน 2 ‘น่าจะ’ กลับมาภายในปลายปี 2018 นี้ แม้เราจะมั่นใจว่าเขาจะทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น แต่ก็ขอให้ทุกท่านตามเอาใจช่วยพิธีกรหนุ่มของเราให้รอดพ้นจากอาการเครียดจนติดอ่างกำเริบด้วย

บางครั้งพิธีกรที่มักเป็นผู้สัมภาษณ์คนอื่น ก็กลายมาเป็นฝ่ายถูกสัมภาษณ์บ้าง