การดูแลรักษาดวงตา เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้อวัยวะส่วนไหนในร่างกาย แถมการใช้ชีวิตในยุคนี้ยังเหมือนบังคับให้เราต้องใช้สายตาเพ่งอยู่กับหน้าจอแทบทั้งวัน ส่งผลกระทบให้เกิดอาการผิดปกติเกี่ยวกับดวงตาบ่อยๆ ทั้ง ตาแห้ง ตาอักเสบ หรืออาจมีอาการอื่นๆ ที่ร้ายแรงยิ่งกว่านั้น
เอพิโสดนี้ ดร.ข้าว ต้นสมบูรณ์ ชวน หมอยุ้ย-พญ.วัธนีย์ ศรีพวาทกุล จักษุแพทย์กระจกตา เจ้าของเพจ Eyes Matter หมอยุ้ยเล่าเรื่องตา จะมาแนะนำวิธีการดูแลดวงตาอย่างถูกต้อง พร้อมเทคนิคง่ายๆ ในการสังเกตประสิทธิภาพการมองเห็นของตัวเองให้ทุกคนได้ฟังกัน
ตาแห้ง อาการที่พบบ่อยในช่วง Work from Home
เพราะการนั่งทำงานอยู่กับบ้าน จ้องจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ส่งผลหลายๆ อย่างเกี่ยวกับสุขภาพดวงตาของเรา โดยอาการผิดปกติที่พบได้บ่อยที่สุดคือ ‘ตาแห้ง’ รู้หรือไม่ว่าโดยปกติคนเราจะกะพริบตาประมาณ 15 ครั้งต่อนาที แต่ในช่วงเวลาที่เราจดจ้องสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ความถี่ในการกระพริบตาจะเหลือเพียง 5 ครั้งต่อนาทีเท่านั้น
การกะพริบตา คือการเกลี่ยน้ำตาเพื่อให้ผิวกระจกตามีความชุ่มชื้น ฉะนั้นเวลาเราเผลอใช้สมาธิในการจ้องอะไรนานๆ จนกะพริบตาน้อยลง งนอกจากชั่วโมงการทำงานที่มากแล้ว องค์ประกอบอื่นๆ เช่น แสงจากหน้าจอที่สว่างกว่าปกติ การนั่งทำงานในห้องแอร์เย็นๆ หรือบางคนก็เปิดพัดลมเป่าหน้า พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ตาแห้งทั้งสิ้น
คนที่ตาแห้งจะมีอาการคือ รู้สึกเหมือนมีทรายในตา กะพริบตาแล้วฝืด หรือคันตามากๆ ฯลฯ ซึ่งเมื่อมีอาการเหล่านี้ ขอเตือนเลยว่าพฤติกรรมที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งคือ ‘การขยี้ตา’ เพราะเปลือกตาเป็นผิวหนังที่บอบบางที่สุดในร่างกาย ถ้าขยี้แรงๆ บ่อยๆ จะทำให้หนังตาเหี่ยว และในระยะยาวอาจจะส่งผลให้หนังตาตกได้
โดยเฉพาะในคนที่เป็นภูมิแพ้แล้วมักจะขยี้ตาบ่อยๆ อาจทำให้กระจกตาที่เป็นแผ่นคอลลาเจนย้วยลงจนเกิดเป็นโรคกระจกตาย้วยได้ ทั้งนี้ แนะนำว่าหากรู้สึกคันตาจนทนไม่ไหว ให้ใช้วิธีการประคบเย็นหรือหยอดน้ำตาเทียมจะดีกว่า
วิธีป้องกันและดูแลอาการตาแห้ง
- ใช้หลัก 20-20-20 คือทุก 20 นาทีของการทำงานหน้าจอ ให้พักสายตา 20 วินาทีด้วยการมองไปไกลๆ 20 ฟุต อาจจะเลือกมองไปในพื้นที่สีเขียวเพื่อเพิ่มความสบายตา หรือง่ายที่สุดก็ใช้วิธีหลับตาก็ได้
- จัดสภาพแวดล้อมในบริเวณทำงานให้เหมาะสม ตำแหน่งจอต้องพอดีกับสายตา ตั้งค่าความสว่างไม่ให้จ้าจนเกินไป ถ้าจำเป็นต้องใช้พัดลมช่วยเวลาที่อากาศร้อนจัด ให้ตั้งพัดลมเพื่อเป่าจากด้านหลังแทนด้านหน้า เพื่อไม่ให้ลมเป่าเข้ามาที่ดวงตาโดยตรง
- การดื่มน้ำเยอะๆ ช่วยได้ เพราะจะทำให้ความชุ่มชื้นโดยรวมในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น
น้ำตาเทียม มีกี่แบบ ใช้อย่างไร
- น้ำตาเทียมแบบขวด กลุ่มนี้จะมีสารกันเสียเพื่อให้ตัวยาสามารถคงสภาพการใช้งานได้ระยะเวลาหนึ่ง โดยทั่วไปจะมีอายุการใช้งานหลังจากเปิดขวดเพียง 1 เดือนเท่านั้น
- น้ำตาเทียมแบบกระเปาะ ที่ใช้ได้แบบวันต่อวัน กลุ่มนี้จะไม่มีสารกันเสียผสมอยู่ โดยจะมีอายุได้ 12 ชั่วโมงหลังจากเปิดใช้
- น้ำตาเทียมสัญชาติญี่ปุ่น เป็นประเภทที่ค่อนข้างนิยมใช้กันมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งโดยมากจะมีสรรพคุณว่าผสมวิตามิน หยอดแล้วเย็น ทำให้ดวงตารู้สึกสดชื่น ซึ่งหากโฟกัสที่ส่วนผสมจะพบว่าไม่ได้ต่างจากน้ำตาเทียมแบบปกติมากนัก สามารถใช้หยอดตาได้เป็นครั้งคราว ซึ่งนอกจากจะมีส่วนผสมของเมนทอลที่ทำให้หยอดแล้วรู้สึกเย็นสดชื่นแล้วยังมี ‘ยาหดเส้นเลือด’ ที่ทำให้ตาหายแดงเป็นส่วนประกอบด้วย ซึ่งไม่ค่อยแนะนำหากจะเลือกใช้ในระยะยาว เพราะอาจทำให้ดื้อยาได้
แว่นตากันแสงสีฟ้า ช่วยถนอมดวงตาได้จริงไหม
ในความเห็นของจักษุแพทย์พบว่าจริงๆ แล้วแว่นตากันแสงสีฟ้าสามารถช่วยได้ในแง่ความรู้สึกสบายตาสำหรับบางคนเท่านั้น แต่ถ้าอ้างอิงจากหลักฐานงานวิจัยจะพบว่าไม่มีงานวิจัยไหนที่บอกว่าแว่นตาชนิดนี้จะป้องกันอันตรายกับดวงตาได้ในระยะยาว
ตามหลักการแล้ว ความสบายตาของคนเราจะขึ้นอยู่กับแตกต่างของแสงที่มาจากจอกับแสงบริเวณโดยรอบ อย่างเช่น เวลาเราอ่านหนังสือนอกบ้านในตอนกลางวันจะรู้สึกสบายตากว่าเมื่อเทียบกับการอ่านจากแท็บเล็ตในห้องมืด นั่นเป็นเพราะความแตกต่างระหว่างจอและสภาพแวดล้อมมีมาก ทำให้ดวงตารู้สึกล้าได้ง่ายขึ้น
การทำความสะอาดดวงตา ต้องทำบ่อยแค่ไหน
ความจริงแล้วเราไม่จำเป็นต้องล้างตาเป็นประจำทุกวัน เพราะเรามีน้ำตาที่ทำหน้าที่ในการชะล้างสิ่งสกปรกอยู่แล้ว สังเกตจากเมื่อเวลาที่มีฝุ่นปลิวมาเข้าตา น้ำตาไหลก็จะไหลพราก เพราะกระบวนการร่างกายพยายามจะกำจัดสิ่งสกปรกออกไปนั่นเอง แต่เราก็ยังสามารถใช้น้ำยาล้างตาได้ในกรณีที่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าตาแล้วอยากจะเอาออก หรือจะใช้น้ำเกลือล้างแผลทดแทนก็ได้เช่นกัน
แต่สำหรับผู้หญิงที่ต้องแต่งหน้าทุกวัน จำเป็นต้องใส่ใจกับการทำความสะอาดเครื่องสำอางรอบๆ ดวงตาให้เกลี้ยง เพราะถ้าไม่สาอาดพออาจมีอาการเปลือกตาอักเสบ ต่อมไขมันอุดตัน ซึ่งเป็นสาเหตุของตาแห้งได้เช่นกัน
นอกจากนี้ในกลุ่มคนที่ใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำก็ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะเสี่ยงต่อการอักเสบและติดเชื้อได้ง่าย แนะนำว่าใน 1 วันไม่ควรใส่ต่อเนื่องนานเกิน 12 ชั่วโมง ไม่ใส่นอน ไม่ใส่ตอนเล่นน้ำ และจะต้องทำความสะอาดเลนส์และตลับทุกครั้งที่ใช้งานด้วย
วิธีป้องกันและดูแลดวงตาในชีวิตประจำวัน
- สวมใส่แว่นกันแดดเป็นประจำเมื่อออกนอกบ้าน เพราะแดดเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคตาหลายอย่าง เช่น ต้อกระจก ต้อเนื้อ ต้อลม จุดรับภาพชัดเสื่อม มะเร็งผิวตา
หมั่นตรวจสอบการมองเห็นของตัวเองอยู่เสมอ หากคุณอยู่ในวัยที่ค่าสายตายังไม่นิ่ง ถ้ารู็สึกตามัว มองเห็นไม่ชัด ให้รีบไปตรวจ แต่ถ้าอยู่ในวัยผู้ใหญ่แล้วก็อาจจะมีโรคตาบางอย่างตามมาโดยที่เราไม่ทันรู้ตัว อาจจะลองเช็กง่ายๆ ที่บ้านด้วยการปิดตา 1 ข้าง แล้วดูว่าประสิทธิภาพการมองเห็นเท่าเดิมหรือไม่ มีภาพส่วนไหนหายหรือบิดเบี้ยวไปหรือเปล่า ถ้าพบความผิดปกติให้ปรึกษาแพทย์โดยเร็ว
- โรคประจำตัวบางอย่างเป็นปัจจัยเสี่ยงให้ตาบอดได้ เช่น เบาหวาน ซึ่งหากไม่ดูแลตัวเองให้ดีแล้วเกิดภาวะเบาหวานขึ้นตาจนตาบอด จะไม่สามารถรักษาให้หายได้ เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นพังผืดไปหมดแล้ว แนะนำให้ตรวจอย่างสม่ำเสมอปีละ 1 ครั้งในคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง
Credits
The Host ดร.ข้าว ต้นสมบูรณ์
The Guest พญ.วัธนีย์ ศรีพวาทกุล
Episode Producer อธิษฐาน กาญจนะพงศ์
Creative Care Label
Video Editor จุฑาภัทร มนตรีศาสตร์
Sound Director กฤตพล จียะเกียรติ
Sound Designer เดชาณัฏฐ์ ธีรดุริยสฤษฏ์
Sound Recording Engineer ขจีพรรณ วิจิตรรัตน์
Coordinator & Admin อภิสิทธิ์ หรรษาภิรมย์โชค
Graphic Designer ธนิดา โตวิวัฒน์
Channel Manager เชษฐพงศ์ ชูประดิษฐ์
Channel Admin นิพพิชฌน์ ชุลีนวน, พฤกษา แซ่เต็ง
Webmaster ไชยพร ศิริกลการ
Social Media Admins วนัชพร ดวงนิล, สุทธกิตติ์ สุทธาวรรณกุล, ธิติกร ลิ้มทองมณี, วิมลณัฐ พรศิริอนันต์
Archive Officer ชริน ธนอุดมกรณ์, อาทิตยา อิสสรานุสรณ์, ฉัฐนภา โพธิ์เงิน