HAY ทำธุรกิจตามแนวคิดฮุกกะ การตลาด 0 บาท แต่โต 200%

อะไรคือเคล็ดลับความสำเร็จของ HAY แบรนด์เฟอร์นิเจอร์จากเดนมาร์ก ที่แม้เพิ่งก่อตั้งในปี 2003 แต่กลับประสบความสำเร็จด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นตามแบบฉบับสแกนดิเนเวีย มีความเรียบง่าย ราคาจับต้องได้ แถมออกแบบโดยดีไซเนอร์ระดับโลก

การนำเข้า HAY ในประเทศไทยได้ผลตอบรับดีมาก เห็นได้จากการนำไปใช้ของออฟฟิศชั้นนำ อย่าง LINE, Google, Facebook, เกษรวิลเลจ, TrueSphere รวมถึงร้านกาแฟ และ Co-Working Space อีกมากมาย

เคน นครินทร์ คุยกับ วีกฤษฏิ์ พลาฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นอร์ส รีพับลิค จำกัด ผู้นำเข้า HAY ประเทศไทย ในพอดแคสต์รายการ The Secret Sauce

1. ทำธุรกิจตามแนวคิดแบบฮุกกะ

ฮุกกะคือการทำอย่างไรก็ได้ให้คนรู้สึกอยู่สบาย สนุก มีความสุขกับทุกนาที ดำเนินชีวิตด้วยความไม่รีบเร่ง มีเวลาให้ดื่มด่ำกับสิ่งรอบตัวช้าๆ สิ่งนี้สะท้อนออกมาในรูปแบบการทำธุรกิจของ HAY

ทาง HAY ไม่เคยเร่งรัดเรื่องยอดขาย แต่กลับเน้นให้เติบโตไปพร้อมกัน เปรียบเหมือนการแต่งงานของคนเดนมาร์กที่มักจะแต่งงานแค่ครั้งเดียว เปอร์เซ็นต์การหย่าร้างต่ำมาก เพราะเขาเชื่อว่า ถ้าเลือกทำงานกับเราแล้ว ก็เหมือนแต่งงานอยู่ด้วยกัน ค่อยๆ ประคองกันไปตลอด

2. Zero Marketing Policy

HAY ไม่มีงบการตลาดเลยสักบาท เพราะพวกเขาเชื่อว่า ถ้าต้องใช้เงินไปกับการโฆษณา ค่าใช้จ่ายส่วนนั้นก็ต้องบวกเพิ่มเข้าไปในราคาสินค้า ผิดไปจากแนวคิดเดิมที่ตั้งใจให้สินค้า HAY ราคาอยู่ในระดับที่ใครๆ ก็จับต้องได้

ดังนั้น การตลาดของ HAY จึงเป็นการบอกต่อ เราให้ความสำคัญกับ Visual Merchandising เราตกแต่งโต๊ะกินข้าวด้วยดอกไม้จริง ขนมปังจริง ทุกอย่างต้องเป็นของจริง เพราะอยากขายประสบการณ์มากกว่าสินค้า สร้างแรงบันดาลใจให้ลูกค้า เดินเข้าร้านมาแล้วประทับใจจนรู้สึกว่าถ้ามีสินค้าของ HAY อยู่ในบ้านแล้วบ้านจะสวย อยู่ในออฟฟิศก็น่าทำงานมากขึ้น นี่เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่ส่งผลให้ยอดขายของเราเติบโตขึ้น 200% ตลอด 3 ปี

https://www.instagram.com/p/BdUsBzAD_DC/

https://www.instagram.com/p/BZBKNe5jnnG/

3. ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ

สินค้าของสแกนดิเนเวียไม่มีอะไรโดดเด่นออกมาเพียงชิ้นเดียว แต่อาศัยองค์ประกอบโดยรวมว่า ถ้ามันอยู่รวมกันจะสามารถสร้างบริบทใหม่ๆ อะไรได้บ้าง

การออกแบบสินค้าทุกชิ้นมาจากความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ ทั้งแง่ความสวยงามและประโยชน์การใช้สอย ยกตัวอย่างเก้าอี้ของ HAY ใช้เวลา 3-4 ปีในการผลิต ศึกษาวัตถุที่ใช้ ทดสอบสรีระคนนั่ง เพื่อให้ได้สินค้าที่ตอบโจทย์ และเขาจะไม่ทำเก้าอี้แบบเดิมที่สูงกว่าหรือกว้างขึ้น เพราะเขาเชื่อว่า แบบเดิมที่ออกแบบไว้คือดีที่สุดแล้ว

สิ่งนี้สอนให้รู้ว่า การทำอะไรบางอย่างไม่ต้องรีบทำให้เสร็จเสมอไป การใช้เวลาศึกษาทำความเข้าใจ ค่อยๆ แก้ไขจุดบกพร่อง จะทำให้มันคงทนอยู่ได้นานโดยแท้จริง