ล้วงเคล็ดลับ Grab Thailand โต 100 เท่า พลิกจากผู้ตามเป็นอันดับ 1 ได้อย่างไร

คุณจะทำอย่างไร ถ้าคุณเป็นผู้ตาม และอยู่ห่างมากกับผู้นำในธุรกิจของคุณ

คุณจะทำอย่างไร ถ้าพนักงานของคุณหมดไฟในการทำงาน ไม่มีพลัง และไม่มีวิสัยทัศน์

คุณจะรักษาสภาพความเป็นผู้นำและเร่งสปีดให้ตรงกับวิสัยทัศน์ได้อย่างไร

รายการ The Secret Sauce พูดคุยกับ ธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ Grab Thailand เจ้าของซูเปอร์แอปฯ ที่มีทั้งบริการส่งคน ส่งของ ส่งอาหาร ตอนนี้กลายเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทยได้อย่างน่าอัศจรรย์

ก่อนที่ธรินทร์จะเข้ามารับตำแหน่งธุรกิจ Grab ในประเทศไทย ยังไม่ได้เป็นผู้นำมากขนาดนั้น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ธุรกิจ GrabFood ที่เคยเป็นผู้ตาม จากยอด 1 ล้านออร์เดอร์ในปี 2018 กลายเป็น 4 ล้านออร์เดอร์ ที่ใช้เวลาเพียง 4 เดือนของปี 2019 เติบโตกว่า 100 เท่าในระยะเวลาเพียง 1 ปีครึ่ง

ธรินทร์ทำอย่างไรถึงพลิกจากผู้ตามเป็นผู้นำ ทั้งในธุรกิจบริการเรียกรถ ธุรกิจจัดส่งอาหาร นี่คือบทเรียน Growth Hacking การเติบโตแบบก้าวกระโดดภายในระยะเวลาอันสั้น

และเปลี่ยนจากบริษัทที่ค่อยไม่มีเพื่อน เป็นบริษัทที่มีพาร์ตเนอร์คนสำคัญอย่างเครือ Central และ KBank เปลี่ยนจากบริษัทที่คนหมดไฟเป็นบริษัทที่มุ่งไปยังวิสัยทัศน์เดียวกันคือ เป็นบริษัท Top 10 ของประเทศภายใน 5 ปี

The Secret Sauce ของ Grab Thailand

1. ต้อง Empower คน ให้วิ่งไปพร้อมกับวิสัยทัศน์ของคุณให้ได้

การที่จะเติบโตในตัวเลขระดับสองถึงสามหลัก การวิ่งอยู่กับโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว คุณต้องตั้งวิสัยทัศน์ให้ใหญ่ อย่างที่คุณธรินทร์ตั้งว่าต้องเป็น Top 10 Company ในประเทศไทยให้ได้ แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือ ต้อง Empower คน และ Re-Organization ด้วย เอาคนที่พร้อมจะไปกับเรา ทีมที่พร้อมวิ่งไปตามวิสัยทัศน์เรา มีศักยภาพ และห้ามหยุด วิ่งไปข้างหน้าตลอดเวลา เอาคนเก่งขึ้นมาให้เขาได้มีบทบาท ให้โอกาสเขา ให้อำนาจในการทำงานและตัดสินใจ สิ่งนี้จะเป็นพลังงานขับเคลื่อนให้ทั้งองค์กรโตอย่างรวดเร็ว ไปพร้อมๆ กับวิสัยทัศน์ที่เราอยากจะพาไป

2. อย่าอยู่คนเดียว ให้หา Strategic Partner ในระดับที่ใกล้ชิดที่สุด

พาร์ตเนอร์มีจุดเด่นคือ ช่วยกันสร้าง Value ใหม่ ช่วยสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดให้กับองค์กรได้ อย่าง Grab เอง ที่มีพาร์ตเนอร์เยอะมาก แต่เจ้าใหญ่ๆ ที่เราเห็นตามข่าว อย่าง ธนาคารกสิกรไทยและเครือเซ็นทรัล ที่ไม่ได้เป็นพาร์ตเนอร์ในลักษณะแค่ทำแคมเปญร่วมกัน แต่สร้างวิสัยทัศน์ร่วมกันในระดับ 3-5 ปีข้างหน้า คุณฝันอะไร เราฝันอะไร เอามาแชร์กัน เอาข้อดีต่างๆ มาแชร์กัน พอร่วมมือกันก็เกิดความสามารถในการแข่งขันแบบทวีคูณขึ้นไป

คุณธรินทร์บอกว่า การดีล Strategic Partner เราต้องดีลลักษณะที่เราเหมือนเป็นที่ปรึกษาให้กับเขา ไม่ใช่เอาแต่ว่าเราอยากได้อะไร ต้องถามเขาด้วย พอร่วมงานกันก็จะเกิดผลลัพธ์แบบทวีคูณอย่างที่ Grab Thailand ทำได้

3. ห้ามลืม Stakeholder คนสำคัญ

ในบรรดา Stakeholder ทั้งหมดที่ Grab ดูแล ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า คนขับ ร้านอาหาร หรือ Strategic Partner สิ่งสำคัญที่ห้ามลืมที่สุดคือ พาร์ตเนอร์ที่ทำให้ธุรกิจโตไปด้วยกัน

คุณธรินทร์บอกว่า Grab เหมือนบริษัทที่มีพนักงานคือ มีคนขับ มีร้านอาหารทั้งเล็ก-ใหญ่ น่าจะมากที่สุดในประเทศไทย เพราะฉะนั้นพาร์ตเนอร์ในมุมมองของ Grab คือ พี่ๆ คนขับรถ เจ้าของร้านอาหาร เขาจะต้องดูแลให้ดีที่สุด ดูแลให้อยู่กับเขาไปนานๆ ไม่เช่นนั้นความสามารถในการแข่งขันจะลดลงทันที ถ้าเจ้าอื่นดึงคนขับหรือว่าร้านอาหารดีๆ ไป เรามักจะหลงลืมเรื่องนี้ เพราะมัวโฟกัสกับการ Customer Centric