6 ประเภทความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ ตัวฉุดชีวิตให้ไม่ Productive

เคยมีงานวิจัยกล่าวไว้ว่า คนที่มีความสุขที่สุดคือ คนที่มีความสัมพันธ์กับคนรอบข้างดีที่สุด

แต่ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยติดกับดักอยู่ในความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ ทำให้ชีวิตไม่มีความสุข ทุกข์ใจ กังวล สูญเสียความมั่นใจ ไม่กล้าเป็นตัวของตัวเอง และท้ายที่สุดก็ส่งผลให้ชีวิตด้านอื่นไม่ Productive ตามไปด้วย

SUPER PRODUCTIVE เอพิโสดนี้ รวิศ หาญอุตสาหะ เล่าถึง 6 นิสัยความสัมพันธ์ที่ควรหลีกเลี่ยง พร้อมวิธีแก้ไขให้ชีวิตคู่ราบรื่น

โรเบิร์ต วาลดิงเจอร์ (Robert Waldinger) เคยพูดไว้ใน TEDxBeaconstreet เกี่ยวกับงานวิจัยที่ได้ติดตามคู่สมรสกว่า 700 คน รวมไปถึงลูกหลานของพวกเขา ยาวนานหลายสิบปีจนถึงปัจจุบัน ผลวิจัยชี้ให้เห็นชัดว่า คนที่มีความสุขที่สุขคือ คนที่มีความสัมพันธ์กับคนรอบข้างดีที่สุด

‘ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง’ ในที่นี้ไม่ใช่การมีเพื่อนเยอะ แต่เป็นความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นกับคนสำคัญของตัวเอง สิ่งนี้ทำให้คนเรามีสุขภาพกายและใจที่ดี มีความเสี่ยงเรื่องโรคภัยไข้เจ็บน้อยกว่า รวมถึงปัญหาเรื่องสุขภาพจิตด้วย

เช่นเดียวกัน ยังมีผลวิจัยระบุไว้อีกว่า ความเหงาเป็นเรื่องที่อันตรายต่อสุขภาพไม่ต่างจากการติดเหล้าหรือบุหรี่ ฉะนั้น การมีความสัมพันธ์ที่ดี จึงส่งเสริมชีวิตมากกว่าแค่เรื่องความรักอย่างแน่นอน

ลองสำรวจกันดูว่าใน 6 ประเภทความสัมพันธ์ที่ควรหลีกเลี่ยง คุณกำลังเผชิญเรื่องไหนอยู่หรือเปล่า

1. Scorecard Relationship

ถ้าคุณอยู่ในความสัมพันธ์ประเภทที่ทั้งคู่ชอบเก็บแต้มความผิดของอีกฝ่าย และพร้อมขุดปัญหาในอดีตขึ้นมาทะเลาะกันเป็นประจำ ทำให้ต้องเสียทั้งพลังงานและสุขภาพจิต ไม่ยึดติดอยู่กับปัจจุบัน

ทางแก้ไข ลองทำข้อตกลงให้ชัดเจนเลยว่า ถ้าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ห้ามยกประเด็นนั้นขึ้นมาเป็นปัญหาเด็ดขาด

2. Passive-Aggressive Relationship

ถ้าคนรักของคุณไม่ชอบพูดตรงไปตรงมา แต่ใช้วิธีอื่นที่มีอิทธิพลเหนือกว่าคุณเข้ามากดดันทางอ้อม เช่น ภรรยาไม่เคยต่อว่าที่สามีกลับบ้านดึก แต่ให้ลูกโทร.ไปร้องไห้งอแง เนื่องจากไม่อยากขัดแย้งเมื่อต้องเผชิญหน้ากัน

ทางแก้ไข คุณต้องพูดกันตรงๆ ถึงเหตุผลที่ไม่พอใจในสิ่งที่อีกฝ่ายทำ พยายามหาทางแก้ไข และสรุปเป็นข้อตกลงที่สองฝ่ายยอมรับร่วมกัน ไม่ใช่การบังคับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

3. จับความสัมพันธ์เป็นตัวประกัน

ถ้าคุณหรือคนรักมักพูดบ่อยๆ ว่าอยากหาคนใหม่ที่ตอบโจทย์มากกว่า หรือมีปัญหานิดหน่อยก็พร้อมจะบอกเลิกได้ตลอดเวลา เชื่อไหมว่าความสัมพันธ์แบบนี้เป็นพิษอย่างมาก เพราะมันจะค่อยๆ สะสม จนเกิดเป็นความไม่ไว้วางใจกัน ไม่อยากทุ่มเทให้อีกฝ่ายเต็มร้อย

ทางแก้ไข ยอมรับเถอะว่าไม่มีใครเพอร์เฟกต์ อย่าคาดหวังว่าคนอื่นจะต้องทำตามที่คิดได้ทั้งหมด ทุกคนมีสิทธิ์ไม่ชอบในบางเรื่องของคนรัก เช่นเดียวกับคุณที่มีโอกาสทำอะไรผิดพลาด ฉะนั้น ถ้าเจอสิ่งที่ไม่ถูกใจ ลองให้ฟีดแบ็กกันตรงๆ และหาวิธีแก้ไขร่วมกันจะดีที่สุด

4. โยนความผิดให้อีกฝ่าย

ยังมีคนบางประเภทที่เมื่อไรเจอวันแย่ๆ หรือแค่อารมณ์ไม่ดี แล้วต้องการแอ็กชันจากอีกฝ่าย เพื่อเป็นสัญญาณให้ตัวเองรู้สึกว่าได้รับการดูแลเอาใจใส่ แต่เมื่อเขาไม่พร้อมทำเช่นนั้น อาจกำลังติดธุระอยู่หรือไม่สะดวกจริงๆ คุณกลับตั้งคำถามว่า “ทำไมไม่สนใจ” จนเป็นเหตุให้ต้องทะเลาะกันใหญ่โต และสุดท้ายก็ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตามใจอีกคนจนไม่เป็นตัวเองในที่สุด

ทางแก้ไข คิดไว้เสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราต้องเป็นคนรับผิดชอบอารมณ์ตัวเองให้ได้ และไม่ควรโยนความผิดใส่คนอื่นเด็ดขาด

5. ขี้หึงเกินความจำเป็น

การหึงหวงเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อไรที่มันเลยเถิดเกินจำเป็น ต้องควรระวัง เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องของความรัก แต่เป็นเรื่องของการพยายามควบคุมคนอื่น โดยการทำให้ตัวเองมีอิทธิพลเหนือกว่า

ทางแก้ไข เชื่อใจคู่ของตัวเอง แม้จะเป็นคำพูดที่ฟังดูง่าย แต่ทำจริงยาก แต่ถ้าคุณเลือกที่จะอยู่กับคนนี้แล้ว สิ่งที่ทำได้และดีที่สุดคือ การไว้ใจ เพราะเมื่อไรที่เราแสดงความไม่ไว้ใจบ่อยครั้ง นั่นแปลว่า คุณกำลังกล่าวหาว่าเขาโกหก และไม่มีความสามารถในการควบคุมตนเอง

6. หนีปัญหาตลอดเวลา

คุณอาจเคยเจอคนรักประเภทที่มีสารพัดวิธีหนีปัญหา ไม่ยอมพูดคุยกันตรงๆ จนนำไปสู่การสะสมเหมือนดินพอกหางหมู

ทางแก้ไข มีอะไรต้องรีบเคลียร์ เพราะเรื่องที่ไม่ถูกเคลียร์จะค่อยๆ ใหญ่ขึ้นด้วยตัวของมันเอง