×

ไปเรียน อินเดีย จนได้เรื่องมาเล่าเป็นเพจฮิต ‘ตามติดชีวิตอินเดีย’

24.11.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

Time index

01.34 ทำไมไปเรียนที่อินเดีย

02.48 ก่อนจะเป็นนักเรียนนอก

02.37 บรรยากาศการเรียนที่อินเดีย

09.18 มหาวิทยาลัยไมซอร์

17.30 ปฏิสัมพันธ์กับคนอินเดีย

22.56 เพื่อนๆ ชาวอินเดีย

27.17 มุมมองของอินเดียเมื่อได้ไปอยู่

     

ขิม-พัทธมญส์ กาญจนพันธุ์ ไปเรียนที่เมืองไมซอร์ ประเทศ อินเดีย แล้วนำเรื่องราวสุดเฮฮาป่าแตกของชีวิตที่ อินเดีย มาเล่าลงเพจ ‘ตามติดชีวิตอินเดีย’ จนเป็นที่พูดถึงและติดตามของคนไทยจำนวนมาก ยอดไลก์เพจของขิมสูงกว่า 200,000 ไลก์ พร้อมกับที่เธอมีผลงานหนังสือ ตามติดชีวิตอินเดีย ออกมาเล่าชีวิตในอินเดียอีกหนึ่งเล่ม

     

คราวนี้เธอจะมาเล่าด้วยเสียงบ้างว่า ระหว่างทางชีวิตใน อินเดีย ที่เขาว่าแสนจะไม่สะดวกสบายนั้นเป็นอย่างไร

 


 

ทำไมไป อินเดีย

ตอนแรกทำงานแล้วเบื่อ เลยอยากหาที่เรียนภาษา ที่อังกฤษ แคนาดา อเมริกาก็แพง แต่ก็ไปเจอว่างบที่มีสามารถเรียนที่ อินเดีย ได้ 3 เดือนเลย รวมค่าที่พัก ค่าเรียน ค่าน้ำ ค่าไฟ ถูกมาก แถมน่าจะสนุกด้วย เพราะเคยดูหนังเรื่อง The Office หนังอินเดีย ตลกมาก เลยคิดว่าคนอินเดียน่าจะตลกเหมือนในหนัง เลยไป อินเดีย

     

ตอนแรกก็ไปเรียนภาษาที่บังกาลอร์ เป็นเมืองใหญ่ เจริญ มีผับ มีห้าง ใหญ่กว่ากรุงเทพฯ อีก แต่ก็ไม่ได้เจริญอย่างทั่วถึงทุกส่วน เพราะมันก็มีย่านยากจนบ้างแถบริมเมือง

 

 

เรียนภาษาอังกฤษที่อินเดีย

ส่วนมากคนที่เรียนภาษาที่นี่จะเป็นพวกอาหรับตะวันออกกลาง ซาอุดีอาระเบีย เยเมน ซูดาน อิรัก อิหร่าน ซึ่งเคยไปถามเพื่อนว่าทำไมไม่ไปเรียนอเมริกาหรืออังกฤษ เขาก็บอกว่าแถวนั้นมีกฎเกณฑ์เยอะ ส่วนที่นี่จะฟรีๆ กฎหมายไม่เคร่งครัดมาก

     

ส่วนการเรียนภาษาอังกฤษที่บังกาลอร์ก็พอได้อยู่ ครูเป็นคนอินเดีย แกรมมาร์แน่นเลย แต่ก็ต้องปรับตัวกับสำเนียงอินเดียเหมือนกัน คำศัพท์ต่างๆ ก็จะสอนเป็นแบบบริติช เวลาจะขอยืมไม้บรรทัด ไปพูด ruler เขาไม่เข้าใจ ต้องเรียกว่า scale แว่นกันแดดเราเรียก sunglasses เขาจะเรียกว่า shade ก็งง แต่สักเดือนสองเดือนก็ปรับตัวได้ การเรียนเน้นที่คำศัพท์กับการเขียนเป็นหลัก

 

บรรยากาศการใช้ชีวิตในอินเดีย

ห้องน้ำหายากมาก ไม่ค่อยมีส้วมสาธารณะ เคยฉี่แตกกลางถนนระหว่างจะกลับบ้านไปเข้าห้องน้ำ ตอนนั้นขี่มอเตอร์ไซค์อยู่ก็ไม่ทัน

     

การคมนาคมที่นั่นมีรถออโต้ หน้าตาเหมือนตุ๊กตุ๊ก มีแท็กซี่ มีทุกอย่าง มีอูเบอร์ด้วย ถ้าไปอยู่แป๊บๆ ก็ไม่ต้องซื้อรถก็ได้ แต่ขิมซื้อมอเตอร์ไซค์ พอย้ายเมืองเรียนก็ไปซื้อรถยนต์

     

ย้ายจากบังกาลอร์ไปเรียนที่เมืองไมซอร์ เพราะเรียนไปสักพักแล้วไม่ชอบเท่าไร ตอนแรกไปเรียนคณะบริหาร พอหลังจากเปิดเพจเขียนหนังสือก็พบว่าอยากไปเรียนวิชาเกี่ยวกับการเขียนแทน เลยลาออกแล้วไปเรียนคณะวารสารศาสตร์ที่ไมซอร์ เพราะสอบติดที่นี่ เป็นเมืองเล็กๆ รถไม่ติดเท่าไร

     

พอย้ายไปก็ซื้อหมามาเลี้ยงตัวหนึ่ง เพราะเหงา

 

 

มหาวิทยาลัยไมซอร์

บรรยากาศเปลี่ยนไปเลย จากเมืองเก่าที่เคยเปิดประตูบ้านออกมามีแมคโดนัลด์ มีเคเอฟซี มีร้านอาหารแฟรนไชส์ ที่ไมซอร์ไม่มีเลย ซึ่งด้วยความที่มีร้านฟู้ดเชนเหล่านี้ก็เลยทำให้ช่วงแรกกินแต่เคเอฟซีจนเงินหมด เลยต้องเริ่มทำอาหารด้วยตัวเอง

     

ไมซอร์เป็นเมืองเล็กมาก ไม่มีอะไรเลย มีที่เที่ยวแค่พระราชวังไมซอร์ แต่ไม่มีปัญหาเรื่องรถติด ขับจากมุมเมืองหนึ่งไปอีกมุมหนึ่งก็แค่ 45 นาที ถนนที่ไมซอร์ช่วงในเมืองก็สะดวกสบาย เพราะถ้าออกนอกเมืองหน่อยก็เป็นดินฝุ่นๆ แดงๆ ที่ถ้าขี่มอเตอร์ไซค์ก็ตัวแดงทั้งตัว

     

มหาวิทยาลัยไมซอร์ก็ค่อนข้างใหญ่ มีหลายคณะ คณะที่ขิมไปเรียนมีนักเรียน 35 คน เป็นคนอินเดียเกือบหมดเลย มีแค่ขิมที่เป็นคนไทย และอีกคนเป็นอินโดนีเซีย เลยมักโดนเรียกไปตอบคำถามหน้าห้องบ่อย

     

ที่นี่เรียนยากเหมือนกัน เพราะต้องเขียนตามครูพูด ไม่มีสไลด์ ไม่มีจดขึ้นกระดาน แต่สาขาสื่อสารมวลชนไม่ค่อยมีคนเรียนเท่าไร ส่วนมากจะเรียนไปทางสาขาไอที เพราะได้เงินเดือนเยอะกว่า

     

เพื่อนๆ ก็ใจดี ด้วยความที่ขิมเป็นคนต่างชาติ บางคนก็ช่วยสอน บางคนก็เปิดข้อสอบให้ลอกเลยก็มี ซึ่งให้เขียนสอบเป็นภาษาอังกฤษก็ได้ นอกนั้นเขียนภาษากันนาดา ซึ่งเป็นภาษาประจำรัฐ

 

 

ปฏิสัมพันธ์คนอินเดีย

คนที่นี่ชอบผัดวันประกันพรุ่ง ชอบโกง พอเห็นขิมเป็นชาวต่างชาติก็พยายามโกงเงินค่าซ่อมรถอะไรงี้ แต่เพื่อนอินเดียก็คอยช่วย คอยบอก สมมติเอาตู้เย็นไปซ่อม บอกว่าได้วันจันทร์ พอไปตรงวันก็เลื่อนไปอีกวัน พอไปรับอีกทีก็เลื่อนไปอีกวันจนต้องก้าวร้าวใส่ ขู่ว่าจะเรียกตำรวจ โวยวาย เคยมีน้องคนหนึ่งเป็นคนเรียบร้อยอ่อนหวาน แต่พอมาอินเดียปุ๊บกลายเป็นคนก้าวร้าวเลย ไม่งั้นจะโดนเอาเปรียบได้

 

“เราต้องแข็ง คนไทยน่ะหัวอ่อน ปกติหนูก็จะ ‘ค่ะ ได้ค่ะ’ แต่มาอยู่ที่นี่โดนเอาเปรียบตลอดเวลา”

 

เพื่อนๆ ชาวอินเดีย

มีเพื่อนสนิทชาวอินเดียเหมือนกัน ชวนไปเที่ยวกัน แต่ที่เมืองนี้ไม่มีผับเลย ก็ปาร์ตี้กันที่บ้าน เพราะเมืองนี้เงียบ เหมือนเป็นเมืองที่คนแก่เกษียณแล้วมาอยู่กัน ไม่ค่อยมีอาชญากรรมเท่าไร

     

เพื่อนกลุ่มนี้เป็นเพื่อนที่น่ารักมาก เป็นผู้ชาย แต่มักจะมาช่วยเหลือเวลาเราลำบาก เช่น รถยางรั่วก็โทรบอกให้มาช่วยเปลี่ยนล้อได้ เขาก็รู้สึกว่าการมีเราเป็นเพื่อนต่างชาติก็เท่ดี

     

มีเพื่อนคนหนึ่งเป็นนักการเมืองชื่อเบเรตต้า เขาก็ชอบพูดไปเรื่อย ขี้โม้ ภาษาอังกฤษก็ไม่แข็งแรง แต่ก็พูด “ทูเดย์ ขิม คัมมิ่ง ทูอัส แฮปปี้”

 

“มาอยู่ที่นี่ทำให้เรากลายเป็นคนใจเย็นลงเหมือนกัน เพราะวีนไปก็เหมือนเดิม ถ้างั้นก็ยังไงก็ได้ เอาตามนั้นเลย”

 

 


 

Credits

The Host ธัชนนท์ จารุพัชนี

The Guest พัทธมญส์ กาญจนพันธุ์

Show Creator ภูมิชาย บุญสินสุข

Episode Producers ภูมิชาย บุญสินสุข

นทธัญ แสงไชย

อธิษฐาน กาญจนพงศ์

ปวริศา ตั้งตุลานนท์

Episode Editor นทธัญ แสงไชย

Sound Designer & Engineer ศุภณัฐ เดชะอำไพ

Coordinator & Admin อภิสิทธิ์​ หรรษาภิรมย์โชค

Art Director กริณ ลีราภิรมย์

Graphic Designer เทียนจรัส วงศ์พิเศษกุล

Proofreader ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
Music Westonemusic.com

  • LOADING...

READ MORE

MOST POPULAR



Close Advertising