×

พิชัยลุยสหรัฐฯ ถก USCC-USABC ยักษ์ใหญ่กว่า 26 บริษัท ดึงดูดลงทุนอุตสาหกรรมใหม่

โดย THE STANDARD TEAM
08.02.2025
  • LOADING...

วันนี้ (8 กุมภาพันธ์) พิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือกับภาคเอกชนชั้นนำของสหรัฐฯ ประกอบด้วยคณะนักธุรกิจจากสภาหอการค้าสหรัฐฯ (U.S. Chamber of Commerce: USCC) และสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน (US-ASEAN Business Council: USABC) ณ สำนักงาน U.S. Chamber of Commerce กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา ซึ่งตรงกับวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับรัฐบาลและภาคเอกชนสหรัฐฯ ตามนโยบายของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มุ่งขยายการค้าและการลงทุนของไทย ซึ่งไทยในฐานะพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก มีจุดแข็งที่เอื้อต่อการลงทุน เช่น โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่เหมาะสมกับอุตสาหกรรม Data Center และ AI ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เช่น Google, Microsoft และ Amazon เข้ามาลงทุนในไทยแล้ว

 

พิชัยกล่าวว่า ตนมีโอกาสพบกับ USCC และ USABC ซึ่งในการหารือมีภาคเอกชนกว่า 26 บริษัทมาพบกับตน ทุกคนต่างก็ให้ความสนใจในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ทางรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ก็พยายามส่งเสริมการค้า-ลงทุน และในการพบกับภาคเอกชนรายใหญ่ทั้ง 26 บริษัท เช่น Pepsi, Tyson Foods, Apple และ Cargill ต่างมีความต้องการขยายการลงทุนกับไทย เพราะไทยเป็นหุ้นส่วนที่ดี ทางกระทรวงพาณิชย์ได้เชิญชวนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น โดยอาศัยข้อได้เปรียบของไทยจากข้อตกลง Treaty of Amity ที่ให้สิทธิพิเศษแก่ธุรกิจสหรัฐฯ สามารถถือหุ้น 100% ในไทย ซึ่งเป็นสิทธิที่ไทยไม่เคยมีให้กับประเทศอื่น

 

ขณะที่ภาคเอกชนของสหรัฐฯ ก็ยินดีที่ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการทำ FTA กับ EFTA (สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป ที่มีสมาชิก 4 ประเทศ คือสวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์) และไทยยังมีแผนที่จะทำ FTA กับอีกหลายประเทศ เช่น เกาหลีใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร และโดยเฉพาะกับ EU ที่มีสมาชิกอีกกว่า 27 ประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีเร่งรัดให้สำเร็จภายในปีนี้ และเชื่อว่าภาคเอกชนสหรัฐฯ จะเข้ามาลงทุนมากขึ้นอย่างแน่นอน

 

พิชัยเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในการหารือตนเน้นย้ำถึงโอกาสทางเศรษฐกิจของไทยที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2567 ประเทศไทยมีการขอรับการส่งเสริมการลงทุนปี 2567 มูลค่ากว่า 1.13 ล้านล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี การส่งออกโตปี 2567 โตถึง 5.4% พร้อมชูความพร้อมของไทยในการเป็นศูนย์กลาง Data Center, AI และอุตสาหกรรมอาหาร โดยภาคเอกชนสหรัฐฯ ยังคงจับตานโยบายการค้าของรัฐบาลตนเอง และมุมมองของภาคเอกชนสหรัฐฯ ต่อไทยยังคงเป็นบวก โดยเห็นว่าไทยเป็นพันธมิตรที่สำคัญและเป็นฐานการผลิตที่ดีในภูมิภาค ดังนั้นตนจึงเชิญชวนบริษัทสหรัฐฯ ให้เข้ามาลงทุนเพิ่มเติมในอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น เวชภัณฑ์ พลังงาน ดิจิทัล และเกษตรอาหาร ซึ่งกระทรวงพาณิชย์พร้อมให้การสนับสนุนในด้านนโยบายและสิทธิประโยชน์ต่างๆ อย่างเต็มที่ ในการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับสหรัฐฯ

 

ทั้งนี้ ในการหารือกับ USCC และ USABC มีผู้บริหารจากกว่า 26 บริษัท ได้แก่ Nasdaq, FedEx, The Asia Group, PepsiCo, IBM, Mars, Citi, Organon, Intel, Vriens & Partners, ConocoPhillips, Caterpillar, Seagate, Tyson Foods, Apple, DGA-Albright, Stonebridge Group, BowerGroupAsia, S&P Global, Visa, Boeing, Dow, Cargill, 3M และ Viatris เข้าร่วมด้วย

 

ในปี 2567 สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของไทย (รองจากจีน) ซึ่งมีมูลค่าการค้ารวม 74,484.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปยังสหรัฐฯ เป็นมูลค่า 54,956.21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีสินค้าส่งออกสำคัญ เช่น คอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณี รถยนต์ และเครื่องปรับอากาศ และไทยนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เป็นมูลค่า 19,528.61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีสินค้านำเข้าสำคัญ เช่น น้ำมันดิบ เครื่องจักรกล และเคมีภัณฑ์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising