×

TASTE: Piccolo Vicolo คาเฟ่ในซอยลึกลับที่เป็นพื้นที่สร้างสรรค์ของคนดีไซน์สองเจเนอเรชัน

04.12.2021
  • LOADING...
Piccolo Vicolo

ในตรอกเล็ก ๆ ย่านราชเทวีมีคาเฟ่ดีไซน์สวยซ่อนอยู่ คาเฟ่แห่งนี้มีชื่อว่า Piccolo Vicolo หรือที่แปลว่า ซอยเล็กๆ ในภาษาอิตาเลียน เข้ากับเรื่องราวของร้าน

 

เมื่อคุณได้ที่จอดรถแล้ว คุณจะต้องมองหาป้ายบอกทางของทางร้าน เดินลัดเลาะเข้ามาตามซอยเล็กๆ ได้เห็นชีวิตผู้คนที่อยู่ในซอย แมวหลายตัว บ้านที่เต็มไปด้วยต้นไม้ และในที่สุดคุณก็จะมาถึง Piccolo Vicolo คาเฟ่เปิดใหม่ดีไซน์ที่มีเรื่องราวซ่อนไว้ในทุกรายละเอียด

 

 

Piccolo Vicolo

บรรยากาศร้าน

 

Piccolo Vicolo เป็นคาเฟ่กว้างใหญ่ขนาดสองชั้นที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ Galileoasis ในพื้นที่นี้มีทั้งคาเฟ่ แกลเลอรี โรงละคร โรงแรม อยู่ด้วยกัน 

 

“คุณพ่อและคุณแม่เป็นคนสายดีไซน์หมดเลย พื้นที่ตรงนี้ก็อยากจะให้มันเป็น Art Space ที่มานั่งชิลก็ได้หรือนั่งทำงานก็ได้”

 

ปั้น-นารา โลจนาทร และ อันนา โลจนาทร สองพี่น้องที่กำลังเรียนอยู่ในคณะเกี่ยวกับงานดีไซน์ ช่วยกันดูแลเรื่องภาพรวม การตกแต่ง เมนู กราฟิกต่างๆ ในร้าน โดยมีพ่อและแม่ที่ทำงานด้านตกแต่งภายในคอยสนับสนุน ปั้นเล่าว่าพื้นที่แห่งนี้เหมือนเป็นจุดกลางที่ความชอบของคนสองเจเนอเรชันมาเจอกัน

 

“เมื่อมันเป็นจุดเชื่อมต่อของสองเจเนอเรชัน เราก็ได้เห็นลูกค้าหลากหลาย มีตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่อายุ 70 ปีเลย”

 

เมื่อมองไปรอบๆ เราจะเห็นทั้งของสะสมเก่าอย่างตู้ไม้ ถ้วยโถโอชาม และเก้าอี้หวายที่ดูวินเทจ แต่ก็เข้ากับสไตล์ลอฟต์แบบโมเดิร์นของร้านได้เป็นอย่างดี ปั้นเล่าว่าวัสดุที่ใช้ ของตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์ในร้านนั้นเป็นของเก่าที่ครอบครัวเก็บสะสมเอาไว้ ปั้นเล่าว่าการทำคาเฟ่ครั้งนี้แทบไม่ได้ซื้ออะไรใหม่เลย มีเพียงกระเบื้องเท่านั้น ปั้นและแม่หัวเราะ พร้อมบอกกับเราว่า “ของที่ซื้อเก็บไว้ เยอะจนเปิดร้านใหม่ได้อีก 3 ร้านแน่ะ”

 

บรรยากาศร้าน

 

“ทุกอย่างในร้านคือตัวเรา บ้านเรา ครอบครัวเรา”

 

ในช่วงที่กำลังตกแต่งร้าน ก็มีบางครั้งที่ความคิดเห็นของคนทั้งสองเจเนอเรชันไม่ตรงกันบ้าง ทุกสิ่งถูกถกเถียงกันมาหมด ด้วยความที่ครอบครัวของปั้นเปิดกว้าง สามารถคุยกันได้ทุกเรื่องเหมือนเพื่อน ดังนั้นแม้ความคิดเห็นจะไม่ค่อยตรงกันบ้าง แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาจะหาจุดกลางได้เสมอ แม่ของปั้นเล่าถึงเรื่องการเลือกสติกเกอร์มาทำสีเครื่องกาแฟว่าเหมือนจะเป็นเรื่องเล็ก แต่นี่คือเรื่องใหญ่ที่ทุกคนในครอบครัวต้องมาช่วยกันเลือกเลยทีเดียว

 

เมื่อเราถามว่าอยากนิยามพื้นที่แห่งนี้ว่าอะไร คำตอบของปั้นและแม่คือโอเอซิสของศิลปะวัฒนธรรมใจกลางเมือง และบรรยากาศของที่นี่ก็ทำให้รู้สึกว่าเป็นแบบนั้นจริงๆ ด้วยการรวบรวมศิลปะวัฒนธรรมที่หลากหลายเอาไว้ การดีไซน์ร้าน เพลงที่เปิดในร้าน โรงละครเล็กๆ พื้นที่สำหรับแสดงงานศิลปะที่กำลังจะเปิด และต้นไม้หลากหลายชนิดที่อยู่รวมกันอย่างลงตัวในพื้นที่แห่งนี้

 

Matcha Coconut (140 บาท)

 

Black Coconut (140 บาท)

 

ในส่วนของเครื่องดื่ม ทางร้านมีทั้งเมนูกาแฟพื้นฐานและเมนูที่พิเศษขึ้นมาหน่อย เมนูที่ทางร้านตั้งใจนำเสนอให้กับเราคือ Matcha Coconut (140 บาท) และ Black Coconut (140 บาท) เครื่องดื่มที่มีน้ำมะพร้าวเป็นพื้นฐาน โดยทางร้านคัดสรรมะพร้าวอย่างดี ให้รสชาติหวานโดยไม่มีการปรุงแต่งเลย

 

“ใจจริงก็อยากจะเอาลูกมะพร้าวมาเฉาะกันให้ดูตรงนี้เลยนะ ว่าความหวานนี่ของจริง”

 

สำหรับ Matcha Coconut ทางร้านเลือกใช้ผงมัทฉะ Ceremony Grade จากเมืองนิชิโอะ ที่เมื่อผสมกับน้ำมะพร้าวแล้วเข้ากันอย่างลงตัว ส่วน Black Coconut ทางร้านใช้เมล็ดกาแฟ House Blend ที่ทางร้านเลือกเป็นเมล็ดกาแฟไทย บราซิล และลาว เพื่อให้ได้รสชาติที่ออกนัตตี้ช็อกโกแลต แต่ก็ยังมีความสดชื่นมาตัดเล็กน้อย

 

Americano (100 บาท)

 

Latte (100 บาท)

 

ส่วนกาแฟพื้นฐานก็มีให้เลือกตามปกติ ในส่วนของ Americano (100 บาท) นั้นทางร้านเลือกใช้ House Blend อีกตัวหนึ่งที่เป็นส่วนผสมของเมล็ดกาแฟเอธิโอเปีย โคลอมเบีย และไทย และ Latte (100 บาท) แก้วนี้ที่ทางร้านเล่าให้ฟังว่าสำหรับเมนูร้อน ทุกคนหาแก้วที่ถูกใจไม่ได้เสียที เลยตัดสินใจออกแบบเองและไปสั่งปั้นเองเป็นแก้วเฉพาะของร้านเลย

 

ขนมของทางร้าน

 

ขนมของทางร้าน

 

Espresso Macadamia Cheesecake

 

Lemon Tart (140 บาท)

 

ในส่วนของขนมก็ได้เพื่อนของพ่อและแม่ของปั้นมาช่วยทำให้ ออกมาเป็นขนมเรียบง่ายน่ารักที่เหมาะจะกินคู่กับกาแฟ ทั้ง Espresso Macadamia Cheesecake ชีสเค้กที่มีกลิ่นรสของเอสเพรสโซแทรกอยู่ในเนื้อนิดหน่อย เติมความหวานมันด้วยคาราเมลแมคคาเดเมียและฐานแครกเกอร์ โรยด้วยผงโกโก้ด้านบน เป็นเมนูเด็ดที่ต้องสั่งเมื่อมาที่ร้าน เพราะเข้ากับกาแฟได้ดี ส่วนใครที่ชอบความสดชื่นตัดกับกาแฟหน่อยก็ต้องเป็น Lemon Tart (140 บาท) เลมอนทาร์ตรสเปรี้ยวหวานกำลังดี หอมกลิ่นเลมอนเตะจมูก

 

การมา Piccolo Vicolo ครั้งนี้ไม่ได้เป็นแค่การมานั่งเล่นที่คาเฟ่ธรรมดา แต่เราได้ซึมซับประสบการณ์ของการเดินเล่นในซอยเล็กๆ ในกรุงเทพฯ ที่วันปกติเราไม่เคยได้เดินเล่นซึมซับบรรยากาศเสียเท่าไร ชมงานดีไซน์ทั้งสถาปัตยกรรม งานศิลปะ และเฟอร์นิเจอร์เก่าสวยๆ เป็นคาเฟ่ที่ควรค่าแก่การมาสักครั้ง

 

Piccolo Vicolo

Open: วันพุธ-จันทร์ เวลา 09.00-17.00 น.

Address: ตรอกพระราม 6 ซอย 17 ถนนเพชรบุรี ราชเทวี กรุงเทพฯ

Budget: 200-400 บาท

Contact: 06 5816 8982

Website: https://www.facebook.com/Piccolo-vicolo-cafe-107153068438516

Map: 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising