×

สตาร์ทอัพจาก ‘มาเลเซีย-ฟิลิปปินส์’ ตัวเต็งรับสปอตไลต์จาก VC ครั้งใหม่ หลังวิกฤตโควิดสิ้นสุด

08.04.2023
  • LOADING...

สตาร์ทอัพเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ซ่อนอยู่ในมาเลเซีย-ฟิลิปปินส์ กำลังถูกจับตาจากนักลงทุนทั่วโลกที่หาผลตอบแทนที่มั่นคง สะท้อนจากมุมมอง VC ที่มองว่าสตาร์ทอัพจากสองประเทศอาเซียนนี้จะกลับมาเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ หลัง 2 ปีที่ผ่านมาประสบภาวะชะลอการเติบโต ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะการแพร่ระบาดของโควิดที่กดดันเศรษฐกิจโดยรวม และเมื่อเจาะลึกรายประเทศจะพบว่ามาเลเซียมีจุดแข็งอยู่ที่ต้นทุนอินเทอร์เน็ตต่ำ ขณะที่ฟิลิปปินส์โดดเด่นด้วยจำนวนคนหนุ่มสาวที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ดีมีจำนวนมาก จึงเข้าถึงเทคโนโลยีดีกว่า 

 

อุตสาหกรรมดิจิทัลและเทคโนโลยีของภูมิภาคอาเซียน กำลังกลับมาร้อนแรงและเติบโตอีกครั้ง จะเห็นได้จากบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ระดับโลกหลายบริษัทตั้งออฟฟิศและศูนย์ปฏิบัติงานที่รู้จักกันดีที่เป็นระดับยูนิคอร์นในอาเซียนเพื่อนบ้านของเรา อย่าง Grab, Gojek และ Bukalapak ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในอินโดนีเซีย สิงคโปร์ แต่ในวันนี้หลายคนอาจไม่รู้ว่าบรรดาสตาร์ทอัพเทคโนโลยีใหม่ๆ กำลังซ่อนอยู่ในมาเลเซียและฟิลิปปินส์

 

สำนักข่าว Nikkei รายงานว่า แหล่งข่าวบริษัทร่วมทุนชั้นนำในภูมิภาคเปิดเผยว่า Ecosystem สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีของฟิลิปปินส์และมาเลเซียกำลังกลายเป็นตลาดสตาร์ทอัพใหม่ๆ ที่มาแรง แม้ว่าก่อนหน้านี้จะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนัก แต่ขณะนี้กำลังเป็นประเทศที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่แสวงหาผลตอบแทนที่มั่นคงจากบริษัทด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ  

 

Vishal Harnal หนึ่งในหุ้นส่วนผู้จัดการระดับโลกของ 500 Global ซึ่งเป็น VC ผู้ให้เงินทุนสตาร์ทอัพมากกว่า 340 รายในตลาดอาเซียน กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มประเทศอาเซียนกลับมามีสตาร์ทอัพที่เติบโตอย่างน่าสนใจ โดยฟิลิปปินส์กำลังอยู่บน ‘จุดเปลี่ยน’ ในขณะที่มาเลเซียเองก็กำลังเป็น ‘ฮีโร่ที่ไม่มีใครรู้จัก’ ของภูมิภาคนี้ โดยจะเห็นได้จากจุดเริ่มต้นที่มาเลเซียมีบริษัทรายใหญ่ Grab เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค หรือแม้แต่ Bukalapak ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซก็ตั้งอยู่ที่อินโดนีเซีย 

 

ดังนั้นเพื่อขยายการเติบโตของภูมิภาคนี้ จึงแต่งตั้ง Martin Cu อดีตหัวหน้า Ninja Van สาขาฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นยูนิคอร์นด้านโลจิสติกส์ในสิงคโปร์ เข้ามาเป็นหนึ่งในพันธมิตรใหม่ ที่จะเข้าไปดูแลการลงทุนของ 500 Global ในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์อีกด้วย ซึ่งจะทุ่มลงทุนมากขึ้นใน 2 ตลาดนี้ (มาเลเซียและฟิลิปปินส์) 

 

“การลงทุนครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่มีจุดมุ่งหมายสำคัญ เพราะเรามองว่าเราต้องการตัวแทนอาวุโสจากผู้ประกอบการและนักลงทุนที่เชี่ยวชาญเพื่อสร้างจุดแข็งตลาดสตาร์ทอัพในฟิลิปปินส์” Harnal กล่าว

 

จุดเด่นอยู่ที่ต้นทุน และประชากรที่ ‘อิน’ กับเทคโนโลยี

 

Harnal มองว่ามาเลเซียและฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีจุดเด่นในด้านต้นทุน ด้วยต้นทุนอินเทอร์เน็ตที่ต่ำ หากเทียบกับประเทศอื่นในอาเซียนที่ค่อนข้างสูงกว่า อีกทั้งฟิลิปปินส์มีประชากรวัยหนุ่มสาวที่พูดภาษาอังกฤษได้อย่างดี จึงสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้กว้างขึ้นมากกว่าด้วย

 

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของ DealStreetAsia ระบุว่า ระดมทุนสตาร์ทอัพได้ทั้งหมด 1.582 หมื่นล้านดอลลาร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อปีที่ผ่านมา โดย บริษัทในฟิลิปปินส์และมาเลเซียมีสัดส่วนเพียง 3.9% และ 3.3% ตามลำดับ ขณะที่บริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ ครองส่วนแบ่งที่ใหญ่ที่สุดที่ 61.9% ของทั้งหมด รองลงมาคืออินโดนีเซียที่ 23.8% และเวียดนามที่ 4.5%

 

โดยอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของมาเลเซียถือว่าโดดเด่นและบริษัทจะให้ความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากมาเลเซียถือว่ามีธุรกิจสตาร์ทอัพศูนย์กลางอาเซียนอย่าง Grab เป็นจุดแข็ง

 

และบริษัทเองยังได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหุ้นส่วนในมาเลเซีย โดยมี Shahril Ibrahim อดีตผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนและหัวหน้าของ Khazanah Americas ภายใต้กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของมาเลเซียอีกด้วย

 

ข้อมูลจาก DealStreetAsia ยังระบุอีกว่า 500 Global มีความมุ่งมั่นในการลงทุนในภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่การระดมทุนสตาร์ทอัพชะลอตัว หลังจากการระบาดของโควิดปีที่แล้ว โดยบริษัทสตาร์ทอัพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ระดมทุนได้รวม 1.78 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 31% จากปีก่อนหน้า จากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ 

 

ส่งผลให้ช่วงที่ผ่านมาได้ชะลอการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพระดับภูมิภาคในปี 2564-2565 โดย Harnal กล่าวว่า “เรารู้สึกว่ามันร้อนแรงเกินไปและราคาก็ไม่สมเหตุสมผล แต่ในขณะนี้ในปี 2023 เราเห็นว่าการประเมินมูลค่าของสตาร์ทอัพเริ่มกลับมาอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเราได้วางแผนอย่างรอบคอบมากขึ้นเกี่ยวกับการใช้เงินทุนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จึงมั่นใจว่าจะสามารถลงทุนเชิงรุกกับบริษัทต่างๆ อย่างจริงจัง” Harnal กล่าว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising