×

ONE Championship กับภารกิจปั้นฮีโร่ระดับโลกที่สุภาพ อ่อนน้อม แต่ดุดัน

12.11.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

7 Mins. Read
  • “ONE Champioship ต้องการสร้างฮีโร่ที่มีบุคลิกเรียบร้อย มีความสุภาพ อ่อนน้อม และเป็นสุภาพบุรุษ แต่ดุดันในการต่อสู้ตามกติกา ซึ่งเป็นรากฐานของชาวเอเชียที่เยาวชนก็สามารถมาเชียร์ได้” ชาตรี ศิษย์ยอดธง ซีอีโอ ONE Champioship กล่าวถึงตัวตนของนักชกในศึก ONE
  • ONE Championship เดินหน้าสร้างแรงสั่นสะเทือนในวงการ MMA โลกด้วยการคว้าตัว 2 นักชกจาก UFC ทั้ง ดิมิทรีอุส จอห์นสัน และ เอ็ดดี้ อัลบาเรซ พร้อมกับ มิชา เท็ต อดีตแชมป์ UFC มาเป็นรองประธาน ONE
  • ในปี 2019 ONE Championship เตรียมเปิดตัวการแข่งขัน E-Sport พร้อมทุ่มทุน 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ​เพื่อสนับสนุนวงการ และสร้างโอกาสให้เกิดฮีโร่ในวงการอีสปอร์ต
  • ในช่วงเวลาที่ UFC เตรียมยุติรุ่นฟลายเวต และ HBO ประกาศยุติรายการ HBO Boxing เนื่องจากการขาดนักมวยแม่เหล็ก ตรงกันข้าม ONE กำลังเติบโตขึ้นด้วยการสร้างนักกีฬาที่เป็นฮีโร่สำหรับแฟนมวยในทวีปเอเชีย ซึ่งมีประชากรกว่า 4,200 ล้านคน

วันศุกร์ที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา นับว่าเป็นการเริ่มต้นก้าวสำคัญของวงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวห้างสรรพสินค้า ICONSIAM ปักหมุดสงครามการค้าฝั่งธนบุรี การออกสตาร์ทด้วยสกอร์ 7-0 ของทีมชาติไทยในศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2018 พร้อมกับการที่ อดิศักดิ์ ไกรษร ทำสถิติยิงคนเดียวเยอะสุดในหนึ่งเกมให้กับทีมชาติไทยที่ 6 ประตู

 

แต่มุ่งหน้าไปสู่ประเทศสิงคโปร์ ในวันเดียวกันนี้ได้มีศึก ONE Championship: Heart of the Lion จัดขึ้นที่สนามสิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม ข้างกับสนามกีฬาแห่งชาติ ซึ่งฟุตบอลทีมชาติสิงคโปร์ก็กำลังลงแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่มเช่นกัน

 

 

ก่อนหน้านี้หลายคนคงจะเคยได้ยินการแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบผสม หรือ MMA มาแล้ว ซึ่งแน่นอนรายการที่สร้างชื่อเสียงมาก่อนหน้านี้เป็นเวลาหลายสิบปีคือ UFC จากประเทศสหรัฐฯ​ แต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับก้าวสำคัญต่างๆ ในกรุงเทพฯ​ ONE Championship ก็ได้เริ่มต้นเดินหน้าสร้างปรากฏการณ์ในวงการศิลปะการต่อสู้แบบผสมเช่นกัน

 

ทีมงาน THE STANDARD ได้มีโอกาสร่วมลงพื้นที่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อค้นหาว่า ทำไมรายการ ONE ถึงเป็นที่นิยมในประเทศสิงคโปร์ จุดเริ่มต้นนั้นมาจากไหน และเป้าหมายของผู้ก่อตั้ง ONE Championship

 

Evolve MMA จุดกำเนินของ ONE Championship ในสิงคโปร์

 

 

ค่าย Evolve MMA คือค่ายสอนศิลปะการต่อสู้แบบผสม ซึ่งมีอยู่ถึง 4 สาขาในประเทศสิงโปร์ โดยเมื่อวันที่ 7 พ.ย. ภายหลังจากงานแถลงข่าวที่โรงแรม มาริน่า เบย์ แซนด์ส ทีมงาน THE STANDARD เดินทางไปเยี่ยมค่าย Evolvle MMA สาขาแรก ซึ่งเป็นสถานที่แรกที่ ชาตรี ศิษย์ยอดธง เริ่มต้นธุรกิจเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้แบบผสม ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2009

 

ค่ายฝึกสอนแห่งนี้ ได้รับการยกย่องจาก CNN ให้เป็นองค์กร MMA เบอร์หนึ่งของเอเชีย ทันทีที่เราเดินเข้าไปภายในค่าย เราก็ได้พบกับ ‘ครูรงค์’ เดชดำรงค์ ส. อำนวยศิริโชค นักชกชาวไทย ซึ่งวันนั้นตรงกับวันเกิดครบรอบอายุ 40 ปีพอดี และได้มีลูกศิษย์ซึ่งเป็นชาวสิงคโปร์ ได้จัดเตรียมเค้กวันเกิดไว้ให้

 

“วันนี้เราก็อยากร่วมขอบคุณครูรงค์ที่ช่วยสอนเรามา” ลูกศิษย์ชาวสิงคโปร์ได้ให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD

 

“เราชื่นชอบครูรงค์เพราะเขาเป็นกันเอง และเป็นมิตรกับเรามาก ค่อยๆ สอนจนเราได้เห็นพัฒนาการของตัวเองที่ดีขึ้นเรื่อยๆ”  

 

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความอบอุ่นเล็กๆ น้อยๆ ที่เราได้พบในค่ายมวยแห่งนี้ ซึ่งมีสอนทั้งมวยไทย มวยสากล บราซิลเลียน ยูยิตสู และ MMA ทำให้เข้าใจได้ว่าทำไมค่ายมวยแห่งนี้จึงประสบความสำเร็จ

 

“ตั้งแต่ผมได้มาอยู่ที่นี่ ผมรู้สึกว่า Evolve คือครอบครัว มีคุณชาตรีเป็นที่ปรึกษา ที่นี่มีคนหลายประเทศ ทั้งบราซิล เยอรมนี แต่ว่าเรามาอยู่ที่นี่เหมือนพี่น้อง ครอบครัว และทำงานเป็นทีม” ครูรงค์ให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD ในวันที่เขามีอายุครบ 40 ปีที่สิงคโปร์

 

หากบางคนจำได้ เมื่อปี 2015 ได้มีข่าวอดีตนักมวยไทยคนแรกที่สามารถก้าวขึ้นเวที MMA และคว้าแชมป์โลกของ ONE ได้สำเร็จ ซึ่งเขาคนนั้นก็คือครูรงค์ในวัย 40 ปีในวันนี้ที่ค่าย Evolve

 

จากประสบการณ์ที่ผ่านมา และในฐานะอดีตนักมวยไทยคนแรกๆ ที่ประสบความสำเร็จในเวที MMA ครูรงค์อยากให้คนไทยเปิดใจ และรับชม MMA ซึ่งเป็นกีฬาอีกชนิดหนึ่งที่มีความปลอดภัย และที่สำคัญ ยังมีส่วนในการช่วยส่งเสริมชื่อเสียงให้กับมวยไทย

 

“ตอนนี้ผมว่าคนไทยเริ่มเข้าใจเรื่อง ONE Championship มากขึ้น สมัยก่อนทุกคนคิดว่าการชกมวยกรงเป็นอันตราย แต่พอตัวผมเองได้เรียนรู้ จะค้นพบว่ากีฬานี้มีการเซฟทุกอย่าง ทั้งกรรมการและนักมวยรู้เรื่องกติกาและความปลอดภัย

 

“ผมว่ามันเป็นกีฬาที่มาเสริมให้คนทั่วโลกรู้จักมวยไทยมากขึ้น รวมถึงรายการนี้มอบโอกาสให้นักมวยไทยได้มาชก และหาวิธีสร้างรายได้ช่วยเหลือครอบครัว

 

“ผมอยากให้คนไทยเปิดใจกว้างกับกีฬาชนิดนี้มากขึ้น

 

“มวยไทยอาวุธเราใช้ได้หมด แต่ศิลปะการต่อสู้ทุกแขนงมีความอันตรายหมด ดังนั้นเราต้องหมั่นเรียนรู้ เรานำมาผสมกับมวยไทยของเรา ซึ่งหากเราหมั่นเรียนรู้และนำมาผสมผสานกับมวยไทย ผมว่าของเราเป็นที่หนึ่งได้อยู่แล้ว

 

Global Martial Arts Summit กับการนำแก่นแท้ของศิลปะการต่อสู้ของเอเชียสู่เวทีโลก

 


“5,000 ปีนั้นคือประวัติศาสตร์ของศิลปะการต่อสู้ชนิดต่างๆ ในเอเชีย”

 

ชาตรี ศิษท์ยอดธง ซีอีโอ วัน แชมเปี้ยนชิป ได้ขึ้นกล่าวเปิดงานประชุมเสวนาศิลปะการต่อสู้แบบผสมที่ เจดับบลิว แมริออท สิงคโปร์ เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ภายในงานเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญต่างๆ จากวงการเทคโนโลยี และศิลปะการต่อสู้

 

ซึ่งระหว่างการขึ้นกล่าวเปิดงาน ชาตรีได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นจากวันที่ไม่มีใครเชื่อมั่นว่า เอเชียต้องการมหกรรมการแข่งขันกีฬารายการใหญ่ เนื่องจากในระดับโลกมี รายการอย่าง NFL ศึกอเมริกันฟุตบอล F1 หรือพรีเมียร์ลีกอังกฤษ อยู่ก่อนแล้ว

 

แต่สำหรับเอเชียซึ่งเป็นจุดกำเนิดของศิลปะการต่อสู้ชนิดต่างๆ ทั้งมวยไทยจากประเทศไทย เทควันโดจากเกาหลีใต้ ยูโดจากญี่ปุ่น กังฟูจากจีน และอีกหลากหลายชนิดจากทั่วทั้งเอเชีย ทำให้มีฮีโร่ต่างๆ มากมายที่รอถือกำเนิดขึ้นในวงการศิลปะการต่อสู้ของเอเชีย บวกกับประชากรในเอเชียที่มีขนาดใหญ่ที่ 4,200 ล้านคน โดย 2,200 ล้านคนนั้นอยู่ในช่วงไทม์โซนเดียวกัน ทำให้ One Championship ซึ่งเป็นศูนย์รวมของศิลปะการต่อสู้ทั่วทั้งภูมิภาคคือรายการที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

 

แต่สิ่งที่แตกต่างจากผู้ที่มาก่อนหน้าอย่าง UFC ทางชาตรีได้ให้สัมภาษณ์​อย่างชัดเจนว่าเขาต้องการสร้างฮีโร่ และรายการศิลปะการต่อสู้ที่ทุกคนในครอบครัวสามารถรับชมได้

 

 

“ONE Champioship ต้องการสร้างฮีโร่ที่มีบุคลิกเรียบร้อย มีความสุภาพ อ่อนน้อม และเป็นสุภาพบุรุษ แต่ดุดันในการต่อสู้ตามกติกา ซึ่งเป็นรากฐานของชาวเอเชียที่เยาวชนก็สามารถมาเชียร์ได้ ผู้ปกครองก็สามารถดูได้ ทุกคนในครอบครัวสามารถมาเชียร์ร่วมกันได้”

 

โดยหนึ่งในเหตุการณ์ของการสร้างฮีโร่ในชีวิตจริง ชาตรีได้เล่าถึงวันที่เมียนมาได้แชมป์โลกคนแรกเมื่อปี 2017 เมื่อ ออง ลา นักชกชาวเมียนมาเอาชนะ วิตาลี บิกแดช (Vitaly Bigdash) นักชกชาวรัสเซีย และคว้าแชมป์รุ่นมิดเดิลเวตได้สำเร็จแบบเหนือความคาดหมาย

 

ออง ลา เอ็น ซาง ชาวเมียนมาคนแรกที่คว้าเข็มขัดแชมป์โลก ONE เมื่อปี 2017

 

“สิ่งที่เราอยากจะเห็นคือเด็กคนหนึ่งติดภาพของออง ลา ไว้ในห้องนอน และเมื่อผู้ปกครองเดินเข้ามาในห้องแล้วบอกว่านี่แหละฮีโร่ของเรา โตขึ้นเป็นแบบเขาให้ได้นะ

 

“ไม่ว่าคุณอยากจะเป็นอะไรก็ตามในชีวิต หมอ พยาบาล นักธุรกิจ นักมวย หรือใครก็ตาม ผมอยากให้นักกีฬาของเราช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้คุณไปถึงเป้าหมาย

 

“ผมแค่ต้องการที่จะจากโลกนี้ไปโดยรู้ว่าเราได้ทิ้งโลกที่ดีกว่าตอนที่เราได้เกิดมาเจอมัน”

 

เสียงปรบมือดังขึ้นกลางฮอลล์เมื่อชาตรีกล่าวจบก่อนที่งานเสวนาต่างๆ ที่มีทั้งตัวแทนจากเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และนักกีฬาของ ONE Championship ร่วมเสวนาถึงประสบการณ์ ทั้งการทำธุรกิจ การสื่อสารองค์กรจากบริษัทเทคโนโลยี และ ประสบการณ์การขึ้นชกและสื่อสารกับแฟนๆ ทั่วทั้งเอเชีย จากนักชกต่างๆ

 

ในระหว่างที่ชาตรีขึ้นพูดน้ัน เขาได้กล่าวถึงผู้ที่สอนมวยไทยเขามาตั้งแต่เด็ก นั่นคือ ยอดธง เสนานันท์ หรือ ยอดธง ศรีวราลักษณ์ ครูมวยผู้ปลุกปั้นนักมวยไทย-สากลชื่อดังหลายราย รวมทั้ง ‘สามารถ-ก้องธรณี พยัคฆ์อรุณ’ และ ‘ยอดสนั่น สามเคแบตเตอรี่’ และในวันนี้ชาตรีก็ยอมรับว่า ครูตุ้ย และเฮ็นโซ เกรซี ผู้สอน บราซิลเลียน ยูยิตสู เขา คือผู้ร่วมก่อร่างสร้างฐานให้มี One Championship ในทุกวันนี้ได้

 

“ถ้าผมมองหาคนที่มีอิทธิพลต่อชีวิตผมมากที่สุดนอกจากคนในครอบครัว ก็คือครูยอดธงสำหรับประสบการณ์มวยไทย ขณะที่ บราซิเลียน ยิวยิตสู คือ เฮ็นโซ เกรซี

 

“ครูยอดธงสอนผมในหลายๆ เรื่องในวัยเด็ก เขาไม่ได้สอนผมเพียงแค่การต่อสู้ในเวทีมวย แต่เขาได้สอนผมในการใช้ชีวิตนอกเวทีมวย เกี่ยวกับการตอบแทนสังคม ช่วยเหลือผู้คน เกี่ยวกับการทำสิ่งที่ดี หลักการหลายอย่าง เช่น ความซื่อสัตย์ ความอ่อนน้อมถ่อมตน เกียรติยศ และความเคารพ นั่นคือสิ่งที่ครูยอดธงได้สอนและมอบให้ผมไว้

 

“แม้ว่าเขาจะจากเราไปแล้วหลายปี แต่ผมยังคงคิดถึงเขาเสมอ เพราะหากไม่มีครูยอดธงแล้ว ONE Championship คงไม่มีวันได้กำเนิดขึ้นมา เขามอบบทเรียนและความสวยงามของศิลปะการต่อสู้

 

“จนถึงวันนี้ผมยังคงซ้อมมวยไทยทุกวัน ซ้อมยิวยิตสูทุกสัปดาห์ ศิลปะการต่อสู้คือสิ่งที่ผมรัก และศิลปะการต่อสู้คือตัวตนของผม”

 

“ครูยอดธง เสนานันท์ และ เฮ็นโซ เกรซี คือบิดาผู้ร่วมก่อตั้ง ONE Championship”

 

Heart of the Lion ศึกวันแชมเปี้ยน​ชิปในสิงคโปร์ กับวันที่อดีตนักชก UFC ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าแฟนมวย ONE เป็นครั้งแรก

 

 

“สิงคโปร์พวกคุณสบายดีไหม?”

 

เสียงของอดีตนักชก UFC ดิมิทรีอุส จอห์นสัน ดังไปทั่วสนามสิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม ในวันที่เขาได้ย้ายมาร่วมกับ ONE Championship และได้ปรากฏตัวต่อหน้าแฟนๆ ของ ONE อย่างเป็นทางการ

 

เช่นเดียวกัน วันนี้ทาง เอ็ดดี้ อัลบาเรซ (‘The Underground King’ Eddie Alvarez) ได้เปิดตัวต่อหน้าแฟนๆ เช่นกัน

 

 

แต่ไม่ใช่เพียงแค่นักชกสองคนนี้เท่านั้นที่สร้างปรากฏการณ์ที่ทำให้วงการศิลปะการต่อสู้ทั่วโลกที่หันมาสนใจสิ่งที่เกิดขึ้นที่สิงคโปร์เมื่อวันที่ 9 พ.ย. เพราะภาพที่ปรากฏขึ้นบนจอยักษ์ภายในสนามนั้นคือ มิชา เท็ต อดีตแชมป์ UFC ที่ปรากฏตัวขึ้นด้านข้างชาตรี ในฐานะรองประธาน ONE Championship

 

นับเป็นการปรากฏตัวของอดีตนักชก UFC ถึง 3 คนภายในวันเดียวที่ ONE Championship ซึ่ง 2 ใน 3 นั้นทั้ง DJ ดิมิทรีอุส จอห์นสัน และ เอ็ดดี้ อัลบาเรซ ยังอยู่ในช่วงไพรม์ของอาชีพนักสู้ และเตรียมที่จะขึ้นชกในรายการรูปแบบกรังด์ปรีซ์ในปี 2019 ซึ่งพวกเขาจะต้องเดินทางไปทัวร์ทั่วเอเชีย เพื่อพบกับ 8 นักสู้ที่ดีที่สุดของเอเชีย

 

 

ส่วนผลงานของนักชกไทยในค่ำคืนนั้น นักมวยไทยคนแรกที่ได้โอกาสขึ้นชกในศึก ONE Championship อย่าง เมืองไทย พี.เค. แสนชัยมวยไทยยิม เจ้าของค่าตัว 6 หลักเวทีมาตรฐาน ได้ขึ้นชกศึกซูเปอร์ซีรีส์ มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต และเอาชนะคะแนน ปานิกอส ยูซุฟ ชาวไซปรัสแบบเป็นเอกฉันท์ เช่นเดียวกับ สโม๊คกิ้ง โจ ณัฐวุฒิ ที่ชกชนะคะแนน จอร์จ มานน์ ชาวสกอตแลนด์ เป็นเอกฉันท์

 

 

ขณะที่ ครูรงค์ เดชดำรงค์ ส. อำนวยศิริโชค ที่เดินเข้ามาในเวทีด้วยเสียงเชียร์จากแฟนมวยเจ้าถิ่นจากสิงคโปร์ ก็สามารถเก็บชัยชนะด้วยซับมิสชันเป็นครั้งที่ 3 ในชีวิต เหนือ ฮิมาน ชู เคาชิก ชาวอินเดีย พร้อมฉลองวันเกิดอายุครบ 40 ปี

 

ซึ่งหลังจบไฟต์ ครูรงค์ก็ได้สัญญาว่าต่อจากนี้เป้าหมายคือการนำเข็มขัดแชมป์กลับคืนมาให้ได้

 

ขณะที่คู่เอก เควิน เบลินกอน นักชกชาวฟิลิปปินส์ล้างตาได้สำเร็จหลังจากที่พ่ายให้กับ บีเบียนโน แฟร์นันเดซ ชาวบราซิล นักชกไร้พ่าย 8 ปี ไปด้วยการซับมิสชันครั้งที่แล้ว ครั้งนี้ เบลินกอน แก้เกมการเทกดาวน์หรือจับล็อกของบีเบียนโนได้ตลอดทั้ง 5 ยก บวกกับการดักต่อย และหมุนถีบเข้าเป้าหลายจังหวะ จบสุดท้ายกลายเป็นผู้ชนะคะแนนอย่างเป็นเอกฉันท์ คว้าแชมป์โลกรุ่นแบนตัมเวตไปครองได้สำเร็จ

 

 

นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นของ ONE Championship ในปี 2011 ที่ประเทศสิงคโปร์ ในช่วงเวลาที่ก่อกำเนิดจนถึงวันนี้ ครูรงค์คว้าแชมป์ครั้งแรกในปี 2015 ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่มวยไทยกำลังพัฒนาต่อยอดจากการเติบโตอย่างก้าวกระโดด นับตั้งแต่ภาพยนต์ องค์บาก ที่นำแสดงโดย จา พนม ในปี 2003 บวกกับการสร้างชื่อเสียงให้กับมวยไทยโดย บัวขาว บัญชาเมฆ กับศึก K-1 จนถึงวันนี้ศึก UFC ให้การยอมรับว่า มวยไทยคือศิลปะการต่อสู้รูปแบบยืนที่อันตรายที่สุดชนิดหนึ่ง และเดินทางมาฝึกซ้อมกับค่ายมวยในประเทศไทย

 

ผ่านไป 8 ปีมาถึงวันนี้รายการ ONE Championship ได้สืบทอดหลักการณ์ของ ศิลปะการต่อสู้ที่มีบิดาผู้ร่วมก่อตั้ง ครูยอดธง นั่นเท่ากับว่า ONE กำลังก้าวเข้าสู่ความเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง โดยเฉพาะความสนใจของแฟนกีฬา MMA ที่เปลี่ยนมาจาก UFC สู่ ONE มากขึ้น

 

 

ในขณะที่ UFC ประกาศเตรียมยุติรุ่นฟลายเวต HBO ประกาศยกเลิกถ่ายทอดสด HBO Boxing ด้วยเหตุผลเดียวกันที่ขาดมวยแม่เหล็กในการดึงดูดแฟนกีฬาได้เหมือนในอดีต   

 

 

กลับกันวันนี้ อดีตนักชก UFC ปรากฏพร้อมกับการร่วมงานกับ ONE อย่างเป็นทางการต่อหน้าแฟนกีฬาถึง 3 คนในวันเดียว รวมถึงการประกาศเตรียมรุกตลาดอีสปอร์ตด้วยเม็ดเงิน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ​ร่วมกับบริษัทผลิตอุปกรณ์เกมมิ่ง Razer ในปี 2019 โดยมี DJ ดิมิทรีอุส จอห์นสัน เป็นหัวใจสำคัญของการโปรโมตอีสปอร์ต

 

ทำให้ ONE Championship กำลังเคลื่อนที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ จากการเป็นรายการกีฬาศิลปะป้องกันตัวระดับสากลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเอเชียไปสู่ระดับโลก

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising