ราคาน้ำมันดิบโลกพุ่งขึ้นตามความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในรัสเซียที่ยังมีความไม่แน่นอน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน โดยล่าสุดราคาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับสูงขึ้นราว 1% ไปอยู่ที่ระดับใกล้เคียง 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สวนทางกับความเคลื่อนไหวในสัปดาห์ก่อนที่ราคาปรับลดลงมา 4% ขณะที่ราคาน้ำมันเบรนต์ทะเลเหนือขยับขึ้นมาใกล้เคียงกันที่ 0.95%
“มีความกังวลว่าปัญหาในรัสเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อาจส่งผลต่ออุปทานในตลาดโลก ความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นจึงส่งผลให้ต่อราคาในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์” Chris Iggo หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนของ AXA กล่าว
ความวุ่นวายในรัสเซียเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กองทหารรับจ้างวากเนอร์ภายใต้การนำของ เยฟเกนี พริโกซิน ได้ก่อเหตุจลาจลและพยายามจะโค่นล้มผู้นำทางทหารของรัสเซีย โดยนำกำลังเข้ายึดครองจุดเมืองรอสตอฟออนดอน ซึ่งอยู่ใกล้กับทะเลดำ
ห่างจากเขตรอสตอฟออนดอนลงมาทางใต้ราว 200 ไมล์ จะมีเมืองสำคัญอีกแห่งหนึ่งของรัสเซียที่ชื่อว่าโนโวรอสซีสค์ตั้งอยู่ โดยเมืองแห่งนี้มีความสำคัญในแง่การเป็นฮับในการส่งออกน้ำมันของรัสเซียและกลุ่มประเทศในเอเชียกลาง
อย่างไรก็ดี สถานการณ์วุ่นวายในรัสเซียสงบลงอย่างรวดเร็ว หลังพริโกซินแถลงการตัดสินใจยุติการเคลื่อนกำลังทหารพร้อมขบวนรถถังและรถหุ้มเกราะจำนวนมากเข้าสู่กรุงมอสโก และถอนกำลังกลับสู่ฐานที่ตั้ง ภายหลังการเจรจากับประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ของเบลารุส ซึ่งทำหน้าที่ตัวกลางไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่างเครมลินกับวากเนอร์
แม้ว่าสถานการณ์ล่าสุดในรัสเซียจะกลับคืนสู่ความสงบแล้ว แต่มาตรการรักษาความปลอดภัยฉุกเฉินยังคงมีอยู่ในมอสโก ซึ่งสร้างความสั่นคลอนให้กับตำแหน่งประธานาธิบดีของวลาดิเมียร์ ปูติน
หลายฝ่ายมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความบอบช้ำให้กับผู้นำรัสเซียอย่างมาก คำถามที่หลายฝ่ายสนใจในขณะนี้ก็คือจะเกิดอะไรขึ้นกับปูตินหลังจากนี้ บางส่วนคาดว่าปูตินน่าจะจัดการเด็ดขาดด้วยการลงมือโจมตีไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการใช้กำลังทหารในยูเครน หรือจัดการกับพวกเห็นต่างภายในรัสเซีย
ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในรัสเซียทำให้ตลาดเงิน ตลาดทุน และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกต่างเฝ้าจับตาดูความคืบหน้าของสถานการณ์ในแดนหมีขาวกันอย่างใกล้ชิด
อ้างอิง:
