กระแส Plant-Based Milk มาแรง! Oatly บริษัทนมข้าวโอ๊ตที่ใหญ่ที่สุดในโลก เข้า IPO แล้วในอเมริกา แถมหุ้นพุ่งแรงจนมูลค่าบริษัทเพิ่มเป็น 4.3 แสนล้านบาท

Oatly บริษัทนมข้าวโอ๊ตที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเคยได้รับการระดมทุนจากคนดังอย่าง โอปราห์ วินฟรีย์ และ เจย์-ซี ได้เข้า IPO เป็นที่เรียบร้อยแล้วในสหรัฐอเมริกา ด้วยมูลค่าการระดมทุนกว่า 1.43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท

โดยทันทีที่เข้าสู่กระดานหุ้นราคาได้พุ่งจากราคา IPO ที่ 17 ดอลลาร์สหรัฐ มาเป็น 22 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้มูลค่าบริษัทของ Oatly พุ่งขึ้นไปเป็น 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 4.3 แสนล้านบาท

รายงานจาก CNBC ระบุว่า การเข้า IPO ของ Oatly เกิดขึ้นในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญสำหรับตลาด IPO ของสหรัฐฯ ซึ่งกำลังเผชิญกับความผันผวนอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากความกลัวเงินเฟ้อที่บีบให้นักลงทุนละทิ้งหุ้นที่มีการเติบโตสูงไปมุ่งเน้นหุ้นมูลค่าแทน

ขณะเดียวกันการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ภาคอาหารที่ทำจากพืชยังคงดึงดูดความสนใจของนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเครือข่ายฟาสต์ฟู้ดและร้านอาหารหรูต่างสร้างเมนูใหม่ๆ เพื่อดึงดูดผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

ความต้องการอาหารจากพืชส่วนใหญ่นำโดยคนวัยมิลเลนเนียลและผู้บริโภคเจเนอเรชัน Z ซึ่งเต็มใจที่จะใช้จ่ายกับผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนและดีต่อสุขภาพด้วยเช่นกัน

สำหรับ Oatly ก่อตั้งขึ้นในปี 1990 และผลิตนมทางเลือกที่ทำจากข้าวโอ๊ต ซึ่งเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันนมข้าวโอ๊ตมีจำหน่ายใน 60,000 ร้านค้า และร้านกาแฟมากกว่า 32,000 แห่ง ใน 20 ประเทศ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทยังขยายไปถึงโยเกิร์ตและไอศกรีม

BBC รายงานเพิ่มเติมว่า Oatly มีกำหนดจะเปิดโรงงานแห่งแรกในสหราชอาณาจักรในปี 2023 จะสามารถผลิตนมข้าวโอ๊ตได้ถึง 300 ล้านลิตรต่อปี

โดยสาเหตุที่เลือกตั้งโรงงานในสหราชอาณาจักรเป็นเพราะที่นี่เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งนักวิจัยคาดการณ์ว่าตลาดผลิตภัณฑ์นมทางเลือกอาจเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าในช่วง 5 ปีข้างหน้า เนื่องจากการแพ้นมที่เพิ่มขึ้นและความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์นม ทำให้ผู้บริโภคมองหานมทางเลือกจากพืช

อย่างไรก็ตาม Oatly เผชิญกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากผู้บริโภคยักษ์ใหญ่รายอื่น ตัวอย่างเช่น Nestlé เพิ่งเปิดตัวนมที่ทำจากถั่วภายใต้แบรนด์ Wunda ในขณะที่ Ben & Jerry’s ของ Unilever นำเสนอไอศกรีมรุ่นที่ปราศจากนม

และแม้ว่ายอดขายของ Oatly จะเพิ่มขึ้น แต่การขาดทุนก็เพิ่มขึ้น เนื่องจากการใช้จ่ายในแคมเปญการตลาด การวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ และการเปิดโรงงานใหม่ โดยผลขาดทุนสุทธิในปี 2020 มีมูลค่ารวม 60.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีก่อน ในขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า เป็น 421 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.3 หมื่นล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: