สวีเดนพบรอยรั่วรอยใหม่ในท่อส่งก๊าซธรรมชาติใต้ทะเลบอลติกที่ขนส่งก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียไปยังสหภาพยุโรป ซึ่งนับเป็นรอยรั่วรอยที่ 4 ที่ถูกพบในสัปดาห์นี้ หลังจากที่เดนมาร์กและสวีเดนรายงานการรั่วไหลของก๊าซในท่อส่ง Nord Stream หมายเลข 1 และ 2 เมื่อต้นสัปดาห์นี้
หน่วยยามชายฝั่งของสวีเดนเปิดเผยว่า พบรอยรั่วรอยที่ 4 ในท่อส่งก๊าซ Nord Stream 2 ซึ่งใกล้เคียงกับรอยรั่วที่ใหญ่กว่าที่พบก่อนหน้านี้ใน Nord Stream 1
ทั้งนี้ เดนมาร์กและสวีเดนกำลังสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งคาดว่าเกิดจากการระเบิดใต้ทะเล แต่รายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุของการระเบิดนั้นยังไม่ชัดเจน
นายกรัฐมนตรีของทั้งเดนมาร์กและสวีเดนออกมาแถลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (27 กันยายน) ว่าการรั่วไหลน่าจะเป็นผลมาจากการกระทำโดยเจตนาไม่ใช่อุบัติเหตุ และหน่วยงานความมั่นคงของสวีเดนระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (28 กันยายน) ว่าไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ที่ว่ามีมหาอำนาจจากต่างประเทศอยู่เบื้องหลัง
มิเกล เบอร์เกอร์ เอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำสหราชอาณาจักร กล่าวกับ BBC ว่าเห็นได้ชัดว่าตัวแสดงที่ไม่ใช่รัฐ (Non-State Actor) ไม่สามารถอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ได้ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ต้องมีประเทศที่รับผิดชอบ
ขณะที่องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นผลมาจาก ‘การก่อวินาศกรรมที่จงใจ ประมาท และขาดความรับผิดชอบ’
ด้าน ฟาตีห์ ไบรอล ผู้อำนวยการบริหารของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) กล่าวว่า ‘ชัดเจนมาก’ ว่าใครอยู่เบื้องหลังความเสียหายดังกล่าว แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
บรรดาผู้นำสหภาพยุโรป (EU) ออกมาเตือนว่าจะตอบโต้อย่างแข็งกร้าวหากพบว่าโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของทวีปถูกโจมตี โดยที่ผ่านมาสหภาพยุโรปกล่าวหารัสเซียหลายต่อหลายครั้งว่าใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นอาวุธโจมตีชาติตะวันตก เพื่อตอบโต้ที่ชาติตะวันตกสนับสนุนยูเครน
อย่างไรก็ตาม รัสเซียออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้โจมตีท่อส่งก๊าซของตนเอง พร้อมทั้งระบุว่าข้อกล่าวหาเหล่านั้นโง่เง่า และคาดเดาได้อยู่แล้วว่ารัสเซียต้องถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลัง ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังกล่าวไปในทางตรงกันข้ามว่าเหตุระเบิดใต้ทะเลซึ่งอาจเป็นสาเหตุของรอยรั่วนั้น เกิดขึ้นในพื้นที่ที่หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ควบคุมอยู่
โฆษกเครมลิน ดมิทรี เปสคอฟ กล่าวว่า เขากังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับรอยรั่วเหล่านี้ พร้อมทั้งกล่าวด้วยว่าไม่สามารถตัดข้อสงสัยที่ว่ารอยรั่วอาจเกิดจากการโจมตีโดยเจตนา
อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่อาวุโสของชาติตะวันตกออกมากล่าวโทษรัสเซียหรือประเทศอื่นใดว่าเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีท่อส่งก๊าซ
ขณะเดียวกัน CNN รายงานว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงยุโรปสังเกตเห็นเรือของกองทัพเรือรัสเซียใกล้กับท่อส่งก๊าซ Nord Stream เมื่อวันจันทร์และวันอังคารที่ผ่านมา นอกจากนี้เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองคนหนึ่งยังเผยด้วยว่าพบเรือดำน้ำของรัสเซียอยู่ไม่ไกลจากพื้นที่เกิดเหตุเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวกล่าวว่าไม่ชัดเจนว่าเรือเหล่านั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการระเบิดใต้ทะเลหรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ 3 คนกล่าวว่าสหรัฐฯ ยังไม่มีคำอธิบายโดยละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารเดนมาร์กนายหนึ่งกล่าวว่าเรือของรัสเซียปฏิบัติการในพื้นที่เป็นประจำอยู่แล้ว พร้อมกับเน้นย้ำว่าการพบเห็นเรือรัสเซียใกล้บริเวณที่เกิดเหตุไม่จำเป็นต้องหมายความว่ารัสเซียเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
ขณะนี้ Nord Stream ทั้งหมายเลข 1 และ 2 ไม่ได้ขนส่งก๊าซ โดยท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 ซึ่งทอดยาวจากชายฝั่งรัสเซียใกล้เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของเยอรมนี เป็นระยะทาง 1,200 กิโลเมตร ไม่ได้ขนส่งก๊าซมาตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม เนื่องจากรัสเซียปิดท่อก๊าซ โดยอ้างว่าเพื่อทำการบำรุงรักษา ส่วนท่อส่ง Nord Stream 2 ถูกระงับการขนส่งก๊าซ หลังจากรัสเซียบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์
ภาพ: กระทรวงกลาโหมเดนมาร์ก via Twitter
อ้างอิง: