Neuronox หรือ นิวโรน็อกซ์ แบรนด์โบท็อกซ์เกาหลีตัวแรกในไทยที่ขึ้นชื่อสโลแกนทางการค้าว่า The First Choice of Botulinum Toxin Type A เพราะจุดขายที่เน้นชัดเรื่องคุณภาพมาตรฐานโลก และราคาที่เป็นมิตรกับผู้ใช้
สิ่งที่น่าจับตาคือหลังจากวิกฤตการโจมตีการค้าครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ที่ใช้เวลายาวนานถึง 3 ปี ตอนนี้ Neuronox ได้กลับมาผงาดขึ้นราวกับนกฟีนิกซ์ที่จุติจากเถ้าถ่าน
วิกฤตครั้งนี้คืออะไร และ Neuronox กลับมาได้อย่างไร นี่ถือเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาในแวดวงธุรกิจที่น่าสนใจไม่น้อย
ย้อนกลับไป Neuronox เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายในหมู่แพทย์กลุ่มความงามด้วยการเป็นแบรนด์เกาหลีตัวแรกที่เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2012 ด้วยจุดเด่นที่มีสายพันธุ์ออริจินัล Hall A Hyper ที่มีมหาวิทยาลัยวิสคอนซินเป็นเจ้าของเชื้อ เหมือนกับแบรนด์ต้นตำรับอย่าง Botox ของบริษัท Allergan สหรัฐฯ และมีข้อบ่งชี้ในการรักษาโรคถึง 8 โรค
ที่สำคัญการที่มีราคาจับต้องได้มากกว่าแบรนด์ต้นตำรับหลายเท่าตัว ทำให้ Neuronox เติบโตเป็นเจ้าตลาดความงามได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่ปี และกินเวลายาวนานถึง 8 ปีในการเป็นเจ้าตลาดโบท็อกซ์เกาหลีท่ามกลางสงครามคู่แข่งโบท็อกซ์เกาหลีมากมายในตอนนั้น
ทั้งที่ธุรกิจกำลังเป็นกราฟที่ไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ แต่กระแสกลับเปลี่ยนไปเมื่อ Neuronox วางจำหน่ายในเกาหลีได้ไม่นาน และมีแบรนด์คู่แข่งเกิดขึ้นมากมาย เช่น NABOTA จากบริษัท แดวูง และ Hugel และ Aestox จากบริษัท ฮูเจล
จุดนี้เองทำให้ ดร.ฮุนโฮจอง ผู้เป็นซีอีโอ Medytox ได้ทำเรื่องฟ้องร้องไปที่ศาลแขวงเกาหลี และคณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USITC) ว่าบริษัท Daewoong Pharmaceutical ขโมยสายพันธุ์ของ Neuronox โดยส่งนักวิจัยเข้าไปขโมยในห้องทดลอง และนำไปผลิตสินค้าก๊อบปี้ชื่อว่า Nabota และอ้างว่าได้เชื้อ Hall A มาจากอานม้า ซึ่งในความเป็นจริงชนิด Hall A ต้องค้นพบได้จากห้องทดลองเท่านั้น นั่นจึงเป็นต้นเหตุของสงครามโบท็อกซ์เกาหลีครั้งใหญ่ และการโจมตีทางการค้าที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ความงาม
สถานการณ์ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นในปี 2020 บริษัทคู่แข่งอย่างแดวูง ได้แจ้งเรื่องไปทาง อย.เกาหลี ว่า Neuronox ได้เปลี่ยนแปลงสารสำคัญในล็อตยาปี 2008 โดยไม่รายงานให้ อย.เกาหลีทราบก่อน ซึ่งทาง อย.เกาหลีรับเรื่องพิจารณาและขอใช้เวลาในการตรวจสอบเป็นเวลาเพียง 6 เดือน
ในประเทศไทย ผลกระทบนั้นร้ายแรงกว่ามาก ‘Medyceles’ บริษัทที่รับผิดชอบการนำเข้าและจัดจำหน่าย Neuronox ในประเทศ ต้องใช้มาตรการที่รุนแรง ด้วยการระงับการนำเข้าและจัดจำหน่าย และเริ่มเรียกคืนผลิตภัณฑ์จากคลินิกมากกว่า 700 แห่ง ซึ่งหมายถึงการคืนเงินให้กับลูกค้ากว่า 110 ล้านบาท และทำลายยาที่คงเหลือในสต๊อกที่มีมูลค่ากว่า 100 ล้านบาทภายใน 30 วัน
ที่น่าสนใจคือภายหลัง 6 เดือนหลังพิจารณา อย.เกาหลีได้ยกฟ้องข้อกล่าวหาทั้งหมด และอนุญาตให้ Medytox สามารถจำหน่ายสินค้าได้ตามเดิม รวมถึงประเทศอื่นกว่า 27 ประเทศทั่วโลก ในขณะที่ประเทศไทยใช้เวลาถึง 3 ปี ในการพิจารณาขึ้นทะเบียนยาใหม่
เมื่อเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่นี้ Medyceles จึงดำเนินเรื่องถอนทะเบียนยาและทำเรื่องขึ้นทะเบียนใหม่ รวมถึงรับสินค้าและคืนเงินลูกค้าทั้งหมด ส่งผลให้ Medyceles ต้องมาโฟกัสกับสินค้ากลุ่มอื่นๆ แทน อาทิ ฟิลเลอร์ Neuramis
ทว่าในวิกฤตยังมีโอกาสเสมอ ตลอดเวลา 3 ปี Neuramis ขึ้นมาเป็นแบรนด์ฟิลเลอร์เกาหลีอันดับ 1 ด้วยคุณภาพที่เทียบเท่ากับแบรนด์ต้นตำรับและราคาจับต้องได้ ทำให้ Medyceles ยังสามารถประกอบกิจการและเติบโตได้ด้วยตนเองถึงแม้จะขาดสินค้าหลักไป
วันนี้หลังจาก 3 ปีที่ยาวนาน Neuronox กลับมาแล้วด้วยความถูกต้องและภาคภูมิใจ แม้ว่าจะหายไปพักหนึ่ง แต่ Medyceles เชื่อว่าคุณภาพที่เป็นของแท้ Hall A Hyper และมาตรฐานการทำงานของทีมงาน Medyceles ที่เป็นมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลลูกค้า หรือทีมการตลาดระดับหัวกะทิ จะทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นและกลับมาใช้อย่างแน่นอน
โดยมั่นใจว่าลูกค้ารับรู้ถึงสาเหตุการหายไป และอะไรคือความจริงที่อยู่เบื้องหลัง วันนี้พิสูจน์แล้วว่าวิกฤตจะหนักแค่ไหน หรือต้องต่อสู้กับมือที่มองไม่เห็น Medyceles จะผ่านไปได้อย่างแน่นอน
