วานนี้ (31 มกราคม) รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศขยายระยะเวลาภาวะฉุกเฉินต่ออีก 6 เดือน หลังจากที่ประกาศใช้มาตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2021 โดยเป็นความพยายามเพื่อควบคุมอำนาจการปกครอง
Myawaddy สื่อกองทัพเมียนมา เผยแพร่รายงานผ่าน Telegram ระบุว่า “พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย นายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการทหารสูงสุด จำเป็นต้องขยายเวลาภาวะฉุกเฉินออกไป เพื่อดำเนินงานที่จำเป็นในการนำประเทศกลับสู่สภาวะปกติที่มีสันติภาพและเสถียรภาพ”
ประกาศดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์สู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกองกำลังชาติพันธุ์ที่ทวีความตึงเครียดต่อเนื่อง ซึ่งจนถึงตอนนี้ มีรายงานว่ากองกำลังสามารถยึดเมืองต่างๆ ได้แล้ว 35 แห่ง โดยถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของกองทัพเมียนมา
ขณะที่กองทัพรัฐบาลทหารได้ใช้ปืนใหญ่และเครื่องบินรบพยายามปราบปรามกองกำลังชาติพันธุ์ที่จับมือกับรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ หรือรัฐบาลเงา NUG (National Unity Government) ในการรุกคืบเข้ายึดเมืองต่างๆ
NUG พร้อมคุย แต่กองทัพต้องสละอำนาจ
ทั้งนี้ NUG และ 3 กองกำลังชาติพันธุ์ ได้ออกแถลงการณ์ล่าสุดวานนี้ โดยแสดงท่าทีเปิดกว้างสำหรับการเจรจากับกองทัพเมียนมา แต่ต้องเป็นไปภายใต้เงื่อนไข 6 ข้อ รวมถึงการที่กองทัพวางมือจากการเมือง และอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลพลเรือน
ความพ่ายแพ้ในหลายสมรภูมิของกองทัพ ส่งผลให้แรงกดดันในรัฐบาลทหารเมียนมาเพิ่มมากขึ้น โดย ริชาร์ด ฮอร์ซีย์ ที่ปรึกษาอาวุโสด้านเมียนมาของ Crisis Group ชี้ว่าจุดอ่อนของกองทัพถูกเปิดเผยในช่วงหลายเดือนมานี้ จากการสูญเสียทหารและดินแดนต่างๆ ประกอบกับแรงกดดันจากภายในของมิน อ่อง หล่าย
“การกุมอำนาจของกองทัพเมียนมามีความไม่แน่นอนมากกว่าครั้งใดๆ ในช่วง 60 ปีที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนกองทัพมุ่งมั่นที่จะต่อสู้ต่อไป และรักษาขีดความสามารถสำหรับการใช้ความรุนแรง โจมตีพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ที่สูญเสียไป โดยใช้กำลังทางอากาศและปืนใหญ่” เขากล่าว
ภาพ: Lamin Tun / Anadolu Agency / Getty Images
อ้างอิง: