วันนี้ (2 มกราคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าการสรรหาประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ภายหลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่ได้รับการคัดเลือก แต่ขาดคุณสมบัติไป โดยระบุว่า จะต้องสอบถามคณะกรรมการสรรหาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ส่วนกรณี ปรเมธี วิมลศิริ รักษาการประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย จะสิ้นสุดการรักษาการกลางเดือนมกราคมนี้ พิชัยกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับปรเมธีว่าจะลาออกหรือไม่ หากไม่ลาออกก็สามารถรักษาการต่อได้ แต่หากลาออกก็ต้องรีบดำเนินการสรรหา โดยการสรรหาครั้งนี้จะดำเนินการให้เร็วกว่าเดิม เนื่องจากเห็นแล้วว่ามีคุณสมบัติอย่างไร
ส่วนจะเสนอชื่อบุคคลที่เคยเสนอก่อนหน้านี้หรือไม่ก็ขอพิจารณาก่อน ให้เป็นไปตามระเบียบ
สำหรับกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่า ปี 2568 เศรษฐกิจจะฟื้น เป็นโอกาสทองนั้น พิชัยกล่าวว่า หากความเชื่อมั่นค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามลำดับ และสถาบันการเงินเห็นภาพเดียวกับรัฐบาล คงเป็นโอกาสให้สามารถปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น
พิชัยระบุด้วยว่า นโยบายด้านการเงินในปี 2568 ก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาร่วมด้วย ซึ่งหากเศรษฐกิจฟื้นช้าคงต้องลดดอกเบี้ย แต่หากฟื้นเร็วก็อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งคณะกรรมการด้านการเงินประชุมกันทุกๆ 2 เดือนอยู่แล้ว
ขณะที่การพูดคุยกับ ธปท. พิชัยกล่าวว่า หลังปีใหม่จะสรุปภาพรวมทั้งหมด และพูดคุยกับทุกฝ่าย ทั้ง ธปท. ธนาคารพาณิชย์ และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ว่าทิศทางหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร รวมถึงในส่วนของงบประมาณว่าจะเป็นอย่างไร
อย่างไรก็ตาม เมื่อสื่อมวลชนถามถึงเงินดิจิทัล 10,000 บาท ระยะ 2 ว่าจะอนุมัติได้ในวันที่ 29 มกราคมนี้ใช่หรือไม่ พิชัยไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว