×

MINT เผยผลกำไรสุทธิปี 2566 เติบโต 3 เท่า ที่ 7.1 พันล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เล็งลงทุนอีก 3 หมื่นล้านบาทใน 3 ปี

12.02.2024
  • LOADING...
MINT

หลังจากผ่านวิกฤตโควิด ทิศทางของบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ก็กลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งเรื่อยมา ซึ่งสิ่งที่สะท้อนได้ดีที่สุดคือ ‘ผลประกอบการ’

 

MINT รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ระบุว่า ในปี 2566 นั้นรายได้จากการดำเนินงานของทั้งกลุ่มอยู่ที่ 153,486 ล้านบาท เติบโต 22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมาจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของกลุ่มธุรกิจโรงแรมที่มีความต้องการการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นและกลยุทธ์การตั้งราคา อีกทั้งการฟื้นตัวของการรับประทานอาหารภายในร้านและการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมใหม่ ส่งผลให้การดำเนินงานของกลุ่มร้านอาหารเติบโตขึ้น

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


 

ทั้งหมดนี้ได้สะท้อนออกมายังการรายงานผลกำไรสุทธิจากการดำเนินงานเติบโต 3 เท่า ที่ 7,100 ล้านบาท สร้างบรรทัดฐานใหม่สำหรับผลกำไรสุทธิประจำปีสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของ MINT ที่ได้รับประโยชน์จากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในทวีปยุโรปในขณะเดียวกันกับการฟื้นตัวของการเดินทางในประเทศไทย

 

ในไตรมาส 4/66 ไมเนอร์ โฮเทลส์รายงานรายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนของโรงแรมในประเทศไทยและทวีปยุโรปและลาตินอเมริกา เติบโตที่ 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงกว่าปี 2562 ที่ 23% และ 27% ตามลำดับ ตลอดทั้งปี 2566 ไมเนอร์ โฮเทลส์มีรายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนทั้งหมดมากกว่าปี 2565 และปี 2562 ที่ 30% และ 31% ตามลำดับ ในขณะเดียวกันไมเนอร์ ฟู้ดรายงานยอดขายโดยรวมทุกสาขาในปี 2566 เติบโต 11% โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของกิจกรรมการรับประทานอาหารภายในร้าน ตลอดจนกลยุทธ์ด้านการเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ และการตลาดของธุรกิจในทุกประเทศ

 

“สำหรับภาพรวมด้านการท่องเที่ยว เชื่อมั่นว่าสถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น โดยในปี 2567 MINT มีรายได้จากห้องพักในเดือนมกราคมและรายได้จากการจองห้องพักล่วงหน้าในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมสูงกว่าระดับของปี 2566 ในช่วงเวลาเดียวกันถึง 39% สำหรับประเทศไทย และที่ 20% สำหรับทวีปยุโรป” ดิลลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มของ MINT กล่าว

 

สำหรับปี 2567 เป้าหมายของ MINT คือการเร่งสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ โดยในส่วนของธุรกิจโรงแรมจะมุ่งไปที่การรีโนเวต รีแบรนด์ เพื่อรองรับดีมานด์ของตลาด ภายใต้การดำเนินงานด้วยกลยุทธ์หลัก 3 ด้าน ประกอบด้วย 

 

  1. มุ่งขยายธุรกิจ ภายใน 3 ปีมีแผนขยายโรงแรมถึง 780 แห่ง ขณะที่ร้านอาหารมีแผนขยายถึง 3,700 สาขา มีสัดส่วนของภาพรวมในธุรกิจโฮเทลแบ่งเป็น 90% สำหรับต่างประเทศ และ 10% สำหรับประเทศไทย ในส่วนของธุรกิจฟู้ดแบ่งเป็น 60% สำหรับประเทศไทย และ 40% สำหรับต่างประเทศ

 

  1. การเร่งลดภาระหนี้ เพื่อเพิ่มผลกำไรให้เติบโตมากขึ้น โดยตั้งเป้าลดอัตราหนี้สินจาก 1 เท่า ลดลงเหลือเพียง 0.8 เท่าภายในสิ้นปี 2567

 

  1. เน้นกลยุทธ์ Asset Light ขยายธุรกิจการรับจ้างบริหารโรงแรมและการขยายแฟรนไชส์เพื่อลดต้นทุนด้านธุรกิจ ซึ่งจะทำให้ไมเนอร์ โฮเทลส์เป็นเจ้าของหรือถือสิทธิ์สัญญาเช่าเกือบ 70% ของโรงแรม 540 แห่งทั่วโลกในปัจจุบัน ซึ่งสัดส่วนดังกล่าวคาดว่าจะลดลงเหลือประมาณ 50% จากการปรับสมดุลของสัดส่วนรูปแบบธุรกิจแบบรับบริหารและแบบแฟรนไชส์ 

 

โดยไมเนอร์ตั้งเป้าที่จะรับบริหารโรงแรมมากกว่า 150 แห่งในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้ส่วนแบ่งของการดำเนินธุรกิจในรูปแบบผสมเติบโตจาก 19% ในปี 2566 เป็น 38% ในปี 2569 นอกจากนี้ไมเนอร์ได้ตั้งเป้าการทำสัญญาแบบแฟรนไชส์พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตด้านการลงทุนในพอร์ตโฟลิโอโรงแรมอย่างต่อเนื่อง

 

“สำหรับปี 2567 เรากรอบลงทุนอยู่ที่ 10,000-13,000 ล้านบาท และสำหรับปี 2567-2569 กรอบลงทุนอยู่ที่ 30,000 ล้านบาท”

 

สิ่งที่น่าสนใจคือไมเนอร์ โฮเทลส์ยังมีแผนที่จะปรับเปลี่ยนสัดส่วนตามภูมิศาสตร์ด้วยการกระจายโรงแรมและรีสอร์ตไปทั่วโลกให้ทั่วถึง โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งของโรงแรมกว่า 200 แห่งที่ตั้งเป้าเปิดให้บริการภายในปี 2569 จะอยู่ในภูมิภาคเอเชีย 

 

ในขณะที่โรงแรมเปิดใหม่ในยุโรปและตะวันออกกลางจะมีจำนวนมากกว่า 50 แห่งในแต่ละภูมิภาค และยังจะเปิดโรงแรมใหม่ภายใต้แบรนด์ต่างๆ ของเครือในภูมิภาคอื่นๆ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ทวีปอเมริกา และทวีปแอฟริกา

 

กลยุทธ์ดังกล่าวจะทำให้การกระจายสัดส่วนโรงแรมทั่วโลกสมดุลยิ่งขึ้น โดยคาดว่าสัดส่วนห้องพักในเอเชียต่อสัดส่วนห้องพักทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นจาก 12% เป็น 23% และจาก 9% เป็น 16% สำหรับภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาภายในปี 2569 การเติบโตอย่างก้าวกระโดดในภูมิภาคอื่นคาดว่าจะส่งผลให้สัดส่วนห้องพักในยุโรปลดลงเหลือ 45% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 60%

 

“ท่ามกลางสถานการณ์ที่ผันผวน MINT เติบโตสวนกระแสด้วยการบริหารจัดการธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ ความท้าทายแรกคือการมุ่งขับเคลื่อนธุรกิจบุกเข้าไปยังตลาดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องทั้งกลุ่มโรงแรมและอาหาร เพื่อสร้างการเติบโตให้เป็นไปตามเป้าหมาย ในขณะเดียวกันอีกความท้าทายคือการให้ความสำคัญด้านการพัฒนาบุคลากรให้เพียงพอและมีศักยภาพในการรองรับการให้บริการในทุกกลุ่มธุรกิจ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน” ดิลลิปกล่าว 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising