เกิดอะไรขึ้น:
วันนี้ (30 มิถุนายน) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณ 2.24 หมื่นล้านบาท ให้แก่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยว ซึ่งประกอบด้วย 2 โครงการ
- โครงการเราเที่ยวด้วยกัน (รวมโครงการ ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ กับโครงการ ‘เที่ยวปันสุข’ ไว้ด้วยกัน) โดยค่าเดินทางจะมีการสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินเพียงอย่างเดียว เนื่องจากไม่สามารถจัดทำแพลตฟอร์มตรวจสอบให้แก่รถโดยสารไม่ประจำทางและรถเช่าได้
สำหรับการช่วยเหลือค่าที่พัก รัฐบาลจะสนับสนุนค่าที่พักอัตรา 40% แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน โดยแต่ละคนจะได้รับสิทธิ์จองห้องพักไม่เกิน 5 คืน และสนับสนุนค่าอาหารและเข้าชมสถานที่รัฐอัตรา 40% แต่ไม่เกิน 600 บาท
สำหรับค่าตัวเครื่องบิน รัฐจะสนับสนุนอัตรา 40% ของตั๋วไป-กลับ ไม่เกิน 1,000 บาทต่อที่นั่ง (รวม 2,000 บาทต่อคน จำกัดจำนวน 2 ล้านใบ)
- โครงการกำลังใจ สำหรับเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจำนวน 1.2 ล้านคน ผ่านบริษัทท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 2 วัน 1 คืน โดยสาธารณสุขจังหวัดจะรวบรวมรายชื่อผู้ที่ได้รับสิทธิ์ และส่งให้ ททท. ประสานไปยังบริษัทท่องเที่ยวต่อไป
โดยธนาคารกรุงไทยจะทำแพลตฟอร์มให้ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร โฮมสเตย์ สถานที่ท่องเที่ยว ลงทะเบียนได้ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ส่วนประชาชนจะลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2563 ทางแอปพลิเคชันเป๋าตัง โดยเข้าไปกรอกข้อมูลส่วนบุคคลก่อน เมื่อได้สิทธิ์แล้วจึงเข้าไปลงทะเบียนทางเว็บไซต์ เราเที่ยวด้วยกัน.com
กระทบอย่างไร:
วันนี้ราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวปรับตัวขึ้น 3.25%DoD โดยเฉลี่ย
– ราคาหุ้น บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) เพิ่มขึ้น 8.74%DoD สู่ระดับ 1.99 บาท
– ราคาหุ้น บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) เพิ่มขึ้น 3.30%DoD สู่ระดับ 3.76 บาท
– ราคาหุ้น บมจ. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) เพิ่มขึ้น 3.05%DoD สู่ระดับ 20.30 บาท
– ราคาหุ้น บมจ. การบินไทย (THAI) เพิ่มขึ้น 2.70%DoD สู่ระดับ 3.80 บาท
– ราคาหุ้น บมจ. โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) เพิ่มขึ้น 2.68%DoD สู่ระดับ 23.00 บาท
– ราคาหุ้น บมจ. แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) เพิ่มขึ้น 2.66%DoD สู่ระดับ 3.86 บาท
– ราคาหุ้น บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) เพิ่มขึ้น 2.11%DoD สู่ระดับ 60.50 บาท
– ราคาหุ้น บมจ. การบินกรุงเทพ (BA) เพิ่มขึ้น 0.81%DoD สู่ระดับ 6.25 บาท
มุมมองระยะสั้น:
SCBS คาดว่า มาตรการนี้จะช่วยบรรเทาผลกะทบต่อหุ้นกลุ่มโรงแรมที่มีสัดส่วนรายได้จากแขกไทยสูง โดยหุ้น ERW คาดว่าจะได้ประโยชน์มากที่สุด เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวไทยราว 18% ตามด้วย CENTEL มีสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวไทย 6% AWC มีสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวไทย 2% และ MINT มีสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวไทย 1% ขณะที่ธุรกิจสายการบินก็จะได้รับประโยชน์จากมาตรการสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินเช่นกัน
อย่างไรก็ดี SCBS มองว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/63 ของหุ้นกลุ่มโรงแรมและสายการบินจะหดตัวลงอย่างรุนแรงและทำจุดต่ำสุดของปีนี้ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่มีการล็อกดาวน์เข้มงวดมากที่สุด แต่อย่างไรก็ดี SCBS เชื่อว่า ราคาหุ้นได้สะท้อนผลประกอบการไตรมาส 2/63 ที่อ่อนแอไว้แล้ว
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/63 คาดว่าจะดีขึ้นจากไตรมาส 2/63 เนื่องจากรัฐบาลได้ผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์มากขึ้น หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศคลี่คลายลง รวมถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจะมีผลในช่วงไตรมาส 3/63
มุมมองระยะยาว:
เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกประเทศยังคงยกระดับความรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง และมีโอกาสที่จะใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งสำหรับกลุ่มประเทศที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มสูงขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผลประกอบการของหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวได้อย่างไม่เต็มที่ จนกว่าการคิดค้นยาต้านโควิด-19 จะเสร็จสิ้น
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล