×

ขายฝันให้นักลงทุน? เมื่อ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เรียกปี 2023 ว่า ‘ปีแห่งประสิทธิภาพ’ เน้นลดค่าใช้จ่าย นำ AI มาช่วย แม้ยังขาดทุนจาก Metaverse กว่า 4.5 แสนล้านบาท

02.02.2023
  • LOADING...
Mark Zuckerberg

หุ้นที่ดิ่งอย่างหนักเป็นประวัติศาสตร์ในปีที่ผ่านมาจนมาร์เก็ตแคปหายไป 6 แสนล้านดอลลาร์ ทำให้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ‘Mark Zuckerberg’ ต้องออกมาสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนด้วยการเรียกปี 2023 ว่า ‘ปีแห่งประสิทธิภาพ’ โดยมุ่งเน้นการเป็นองค์กรที่แข็งแกร่งและว่องไวมากขึ้น

 

หลังจากที่ราคาหุ้นของ Meta ลดลง 64% ในปี 2022 Wall Street ก็สนับสนุนคำพูดดังกล่าว ทำให้หุ้นขึ้นเกือบ 20% เป็นการซื้อขายที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2022

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


 

การเติบโตไม่ใช่สิ่งที่ทำให้นักลงทุนตื่นเต้น เพราะแม้ Meta รายงานรายรับที่ดีกว่าที่คาดไว้ในไตรมาส 4 แต่ยอดขายยังคงลดลง 4% จากปีก่อนหน้า ซึ่งนับเป็นการลดลง 3 ไตรมาสติดต่อกัน

 

รายได้ในไตรมาส 4 อยู่ที่ 3.22 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1.05 ล้านล้านบาท ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินว่าจะมีรายได้อยู่ที่ราว 2.56-2.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่กำไรอยู่ที่ 4.7 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 55% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

 

ธุรกิจโฆษณายังติดลบ

จำนวนผู้ใช้ของ Meta ยังเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจซึ่งเกิดขึ้นในไตรมาสที่ผ่านมา โดย Facebook มีผู้ใช้งาน 2 พันล้านคนต่อวัน และกลุ่มแอปพลิเคชันของ Meta เพิ่มจำนวนผู้ใช้งานรายวัน 5% เป็น 2.96 พันล้านคน ซึ่งเป็นสัญญาณที่น่ายินดี หลังจากความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของผู้ใช้ที่ซบเซาในปีที่แล้ว

 

ธุรกิจโฆษณาหลักลดลงกว่า 4% เป็น 3.13 หมื่นล้านดอลลาร์ อันเป็นผลลัพธ์ที่ ‘ดีกว่าที่คาดไว้’ ซึ่ง “น่าจะหักล้างความกังวลเกี่ยวกับสถานะของอุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัล” Jesse Cohen นักวิเคราะห์อาวุโสของ Investing.com กล่าว

 

ถึงกระนั้นราคาเฉลี่ยต่อโฆษณาของ Meta ลดลง 22% เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วงไตรมาสเดือนธันวาคม และลดลง 16% เมื่อรวมค่าเฉลี่ยในปี 2022 เนื่องจากบริษัทต้องต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงการติดตามแอปของ Apple และการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นของ TikTok 

 

แม้ Meta ได้ปรับปรุงระบบโฆษณาออนไลน์ แต่การอัปเดตของ Apple นั้น “ยังคงเป็นอุปสรรคต่อตัวเลขรายได้ของเราอย่างแน่นอน” Susan Li ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินกล่าว

 

เดินหน้าปรับโครงสร้างให้มีประสิทธิภาพ

“เรากำลังพยายามทำให้โครงสร้างองค์กรของเราแบนราบ และถอดชั้นของผู้บริหารระดับกลางออกเพื่อให้ตัดสินใจได้รวดเร็วขึ้น เช่นเดียวกับการปรับใช้เครื่องมือ AI เพื่อช่วยให้วิศวกรของเรามีประสิทธิผลมากขึ้น” Zuckerberg กล่าวกับนักลงทุน “จะมีอีกหลายอย่างที่เราสามารถทำได้ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ความเร็ว และโครงสร้างต้นทุนของเรา”

 

Zuckerberg ย้ำว่า Meta กำลังใช้ AI เพื่อปรับปรุงวิธีการแนะนำเนื้อหา ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการทำให้แพลตฟอร์มน่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้และผู้ลงโฆษณา แม้ Meta ยังคงประสบปัญหาจากความต้องการโฆษณาดิจิทัลที่ตกต่ำซึ่งเป็นส่วนที่สร้างรายได้หลัก โดยเฉพาะจากลูกค้าด้านการเงินและเทคโนโลยี แต่บริษัทยังชี้ให้เห็นถึงบางอุตสาหกรรม เช่น สุขภาพและการเดินทาง ซึ่งธุรกิจต่างๆ กำลังใช้จ่ายมากขึ้น

 

ถึง Zuckerberg จะพูดถึงเรื่องการนำ AI มาใช้เพื่อช่วยพัฒนาธุรกิจ ซึ่งตอนนี้ปัญญาประดิษฐ์กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในซิลิคอนแวลลีย์ แต่เขาได้ตอบคำถามว่า Meta กำลังแสวงหาโอกาสเกี่ยวกับ AI แต่ต้องไม่รีบร้อนจนเกินไป เพราะการใช้งานโปรแกรมเหล่านี้มีราคาแพง และ Meta จำเป็นต้องมั่นใจว่าสามารถพัฒนาโปรแกรมเหล่านี้ได้ในราคาประหยัด

 

ในขณะที่ Meta กำลังค้นคว้าวิธีที่ดีที่สุดในการรวมเทคโนโลยีใหม่เข้าด้วยกัน Zuckerberg ได้ย้ำว่าเขาต้องระมัดระวังการพัฒนาไม่ให้ล้ำหน้าจนเกินไป

 

สำหรับไตรมาสแรกของปี 2023 Meta คาดว่ารายรับจะอยู่ระหว่าง 2.6-28.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งหากทำได้ถึงตัวเลขที่มองไว้สูงสุดจะเป็นการลบการลดลงของรายได้ประจำไตรมาส

 

ในการพูดคุยกับนักวิเคราะห์ Zuckerberg ได้ยอมรับว่า ในช่วง 18 ปีแรกของบริษัท รายได้ของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในแต่ละปี “และเห็นได้ชัดว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในปี 2022 ซึ่งรายได้ของเราเติบโตติดลบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งเราไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้นอีก“

 

Metaverse ฝันที่ยังเลือนลาง

ปลายปีที่ผ่านมา Meta ประกาศแผนการเลิกจ้างพนักงานประมาณ 11,000 คนในเดือนพฤศจิกายน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการหยุดการจ้างงานในวงกว้าง และวางแผนที่จะจำกัดการจ้างงานตลอดทั้งปี

 

ในรายงานผลประกอบการ Meta กล่าวว่าได้ลดคำแนะนำสำหรับรายจ่ายสำหรับเงินลงทุนสำหรับปี 2023 ลงเล็กน้อยเหลือ 3-3.3 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยอ้างถึงแผนการลดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างศูนย์ข้อมูล 

 

นอกจากนี้ยังเสริมว่า “ค่าใช้จ่ายด้านทุนทั้งหมดของเรายังคงสนับสนุน Family of Apps ต่อไป” ซึ่งเป็นคำที่หมายถึง Facebook, Instagram และ WhatsApp ซึ่งอาจจะเป็นความพยายามที่จะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนที่ไม่เชื่อใน Metaverse

 

ไม่แปลกที่นักลงทุนจะกังวัลกับการเผาเงินไปกับ Metaverse เพราะจากรายงานของ Meta เองเผยว่า Reality Labs ที่ดูแลธุรกิจนี้โดยตรงขาดทุนรวมในปี 2022 กว่า 1.372 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือกว่า 4.5 แสนล้านบาท

 

ย้อนกลับไป Zuckerberg เคยให้สัมภาษณ์กับ CNBC ไว้ว่า เขาหวังให้ Metaverse ที่พัฒนาขึ้น ‘เข้าถึงผู้คนประมาณพันล้านคน’ ในช่วงภายในครึ่งหลังของทศวรรษ

 

แต่ก่อนที่ความฝันของผู้ก่อตั้ง Facebook จะเป็นจริง Meta ต้องใช้เงินหลายพันล้านดอลลาร์ในการพัฒนา VR และเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อสร้าง Metaverse ให้เกิดขึ้น และที่สำคัญคือ ‘มีผู้ใช้งานจริง’

 

ภาพ: Riccardo Savi / Getty Images for Facebook

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising