มาครงเผย ปูตินจะไม่ยกระดับความตึงเครียดในวิกฤตยูเครน ด้านผู้นำยูเครนระบุ ขอดูสิ่งที่เป็นรูปธรรม

วานนี้ (8 กุมภาพันธ์) ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียกล่าวกับตนว่า ทางการรัสเซียจะไม่ยกระดับความตึงเครียดในวิกฤตยูเครน หลังจากหารือกันในช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมาที่กรุงมอสโก ก่อนที่ผู้นำฝรั่งเศสจะเดินทางต่อไปยังกรุงเคียฟ เพื่อพบประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน

มาครงเผยว่า ทั้งผู้นำรัสเซียและผู้นำยูเครนต่างเห็นพ้องในการปฏิบัติตาม ‘ข้อตกลงมินสก์’ ที่ว่าด้วยการหยุดยิง เมื่อปี 2014 เพื่อปูทางไปสู่การหาทางออกของวิกฤตความตึงเครียดในครั้งนี้

ผู้นำฝรั่งเศสระบุ “การตัดสินใจร่วมกันคือหนทางเดียวที่จะช่วยปูทางให้เราก้าวไปสู่จุดที่สร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นได้ และเป็นหนทางเดียวที่จะสร้างคำตอบทางการเมืองที่สามารถพัฒนาและใช้งานได้ ความสุขุม ความใจเย็น จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่เราต้องการจากทุกๆ ฝ่าย” พร้อมทั้งกล่าวชื่นชมผู้นำและประชาชนชาวยูเครน ที่ยังคงพยายามควบคุมสติและไม่ตื่นตระหนกต่อแรงกดดันทางทหารที่มาประชิดแนวพรมแดนและประเทศของพวกเขา

“เราอาจแก้ไขวิกฤตนี้ไม่ได้ด้วยการพูดคุยกันเพียงไม่กี่ชั่วโมง อาจจะใช้เวลาหลายวัน หลายสัปดาห์ และหลายเดือน ที่จะเปิดโอกาสให้เราผลักดันการหารือให้มีความก้าวหน้า”

ทางด้านประธานาธิบดียูเครนระบุว่า “ผมไม่เชื่อมั่นแค่คำพูดหรือลมปากของคน ผมเชื่อว่านักการเมืองทุกคนสามารถแสดงความจริงใจให้เห็นได้ ด้วยการทำสิ่งต่างๆ ที่เป็นรูปธรรมให้เกิดขึ้นมา”

โดยผู้นำยูเครนคาดหวังว่า การพบปะของเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากฝ่ายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นที่กรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนีในวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ จะปูทางไปสู่การฟื้นคืน ‘เวทีการเจรจานอร์มังดี’ ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2015 ซึ่งมีรัสเซีย ยูเครน ฝรั่งเศส และเยอรมนีร่วมพูดคุยหารือกันในประเด็นความตึงเครียดที่เกิดขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม ดิมิทรี เปสคอฟ โฆษกประจำเครมลินระบุว่า ในช่วงเวลานี้ ทั้งรัฐบาลรัสเซียและรัฐบาลฝรั่งเศสยังไม่ได้บรรลุข้อตกลงใดๆ ร่วมกันทั้งสิ้น โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตยูเครน

บทความที่เกี่ยวข้อง: