×

‘ลูกอีสาน อาหารจริงใจ’ แบรนด์ไส้กรอกอีสานที่ถือกำเนิดจากวิกฤตโควิด และความรักของพนักงานประจำคนหนึ่ง

20.09.2021
  • LOADING...
lookisaander

HIGHLIGHTS

  • เรื่องราวการถือกำเนิดของแบรนด์ไส้กรอกอีสานแช่แข็ง ‘ลูกอีสาน’ เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามปรับตัวของคนที่เคยทำงานเป็นพนักงานประจำมาตลอดทั้งชีวิต เมื่อเจอเข้ากับมรสุมก็หาหนทางสู้วิกฤตโควิดด้วยการสร้างผลิตภัณฑ์ของตัวเองขึ้นมา แสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในการใช้ชีวิตได้อย่างน่าชื่นชม
  • ไส้กรอกอีสาน จากวัตถุดิบคุณภาพที่นอกจากคนกินจะปลอดภัยแล้ว ยังรู้ว่าเงินที่ซื้อจะไปถึงยังอีกหลายๆ ชีวิตในชุมชนผู้ผลิตวัตถุดิบอาหารอินทรีย์อย่างใส่ใจ โดยคำนึงถึงวิถียั่งยืน

lookisaander

ไส้กรอกอีสาน ‘แบรนด์ลูกอีสาน’ จากพนักงานประจำผู้ประสบภัยโควิด

 

ท่ามกลางวิกฤตโควิดที่ดำเนินมาอย่างยาวนานเกือบจะ 2 ปีเต็ม แน่นอนว่าเราได้ยินข่าวคราวของผู้คนจำนวนมากที่ต้องประสบปัญหาจากภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งมีทั้งพนักงานประจำที่ต้องตกงาน โดนลดเงินเดือน หรือโชคร้ายอาจจะต้องถึงขั้นตกงานกันจำนวนไม่น้อย แต่ไม่ว่าจะเจอมรสุมอะไร สิ่งที่สำคัญก็คือต้องปรับตัวหาทางรอดเดินหน้ากันต่อไปให้ได้ เช่นเดียวกับเรื่องราวการถือกำเนิดของแบรนด์ไส้กรอกอีสานแช่แข็ง ‘ลูกอีสาน’ โดย ‘แยม-ปภาอร​ ​สุวรรณ​ธรรมา​’ หญิงสาวเลือดอีสานจากจังหวัดอุดรธานี ผู้ย้ายถิ่นฐานไปตั้งรกรากอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ และเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามปรับตัวของคนที่เคยทำงานเป็นพนักงานประจำมาตลอดทั้งชีวิต เมื่อเจอเข้ากับมรสุมก็หาหนทางสู้วิกฤตด้วยการสร้างผลิตภัณฑ์ของตัวเองขึ้นมา แสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในการใช้ชีวิตได้อย่างน่าชื่นชม

 

lookisaander

แยม-ปภาอร​ ​สุวรรณ​ธรรมา​ หญิงสาวเลือดอีสานจากจังหวัดอุดรธานี ผู้ให้กำเนิดแบรนด์ ‘ลูกอีสาน’

 

ลูกอีสาน ผู้ลงหลักปักฐานที่เชียงใหม่ พนักงานประจำ ผู้ประสบภัยโควิด

“แยมมาอยู่เชียงใหม่ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยเมื่อ 16 ปีที่แล้ว และตกหลุมรักที่นี่ ตอนนั้นเรารู้ตัวเองเลยว่าอยากใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองนี้ พอเรียนจบฝึกงานโรงแรมที่กรุงเทพฯ เสร็จก็ย้ายกลับมาอยู่ที่เชียงใหม่นับแต่นั้น ปัจจุบันและก่อนหน้าที่วิกฤตโควิดจะเกิด แยมเป็นพนักงานประจำสายการโรงแรมที่ทำงานด้านประชาสัมพันธ์ให้กับโรงแรม 5 ดาวแห่งหนึ่ง เคยคิดว่าอนาคตของเรามั่นคง ตอนนั้นใครจะนึกบ้างว่าเมืองท่องเที่ยวอันดับ 1 อย่างเชียงใหม่จะถึงวันที่ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย แยมเคยมั่นใจถึงขนาดบอกกับที่บ้านว่างานที่ทำอยู่ทำจนเกษียณได้เลยนะ เพราะอายุงานของคนส่วนใหญ่ 10-20 ปีด้วยกันทั้งนั้น”

 

อย่างที่หลายๆ คนน่าจะพอทราบ เมื่อวิกฤตโควิดอุบัติขึ้น คนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นกลุ่มแรกๆ ที่ได้รับผลกระทบเข้าอย่างจัง หลายชีวิตมีชะตากรรมคล้ายๆ กัน ไม่ว่าจะโดนลดวันทำงาน ลดเงินเดือน หรือกระทั่งโดนปลดออก แต่ปภาอรยังโชคดีที่เธอแค่โดนลดวันทำงานกับเงินเดือนลงเท่านั้น

“ถึงจะโดนลดวันทำงานและลดเงินเดือนลง แต่โดยส่วนตัวแยมไม่ได้เป็นคนฟูมฟายอยู่แล้ว เราไม่จมอยู่กับวิกฤต ไม่มัวแต่ตั้งคำถามว่าทำไมมันจึงเกิดขึ้น พอเริ่มมีวันหยุดได้อยู่บ้านมากขึ้น ก็เลยมีพี่ที่รู้จักกันคนหนึ่งชื่อพี่แอน (แอน-นฤมล ชมดอก จาก ‘Go2AskAnne’ สื่อออนไลน์ด้านอาหารและไลฟ์สไตล์ชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่) พี่แอนเขาเห็นไลฟ์สไตล์ของแยม ซึ่งจะชอบปลูกต้นไม้ ทำกับข้าว เย็บผ้า ทำขนม ฯลฯ เลยชวนไปทำคลิปรายการด้วยกันสนุกๆ ตอนนั้นเราก็คิดว่าอยู่ว่างๆ มีอะไรให้ลองทำก็ลองทำดู เลยได้ทำรายการที่ชื่อ ‘Home Living with Yam’ แล้วพอดีช่วงนั้นหม้อทอดไร้น้ำมันเริ่มฮิตมาก เราก็มาคิดว่าเมนูอะไรที่น่าจะเหมาะ และแยมก็ชอบกินไส้กรอกอีสาน ก็เลยทำไส้กรอกอีสานอบโชว์ในรายการ จนปิ๊งเป็นไอเดียว่ามันน่าจะเป็นโอกาสที่เราอาจทำไส้กรอกอีสานขายได้ เพราะโควิดทำให้คนเปลี่ยนวิถีชีวิตมาอยู่บ้านกันมากขึ้น ต้องรักษาระยะห่างทางสังคม ออกไปซื้ออะไรกันไม่ค่อยสะดวก ประกอบกับกระแสของหม้อทอดไร้น้ำมันที่ทำให้คนทำอาหารได้ง่าย เลยคิดว่าถ้าทำไส้กรอกเป็นอาหารแช่แข็งส่งเดลิเวอรีก็น่าจะมีโอกาสตรงนี้อยู่ ความคิดที่จะทำ ‘ลูกอีสาน’ เกิดขึ้นในตอนนั้นแหละค่ะ”

 

lookisaander

วัตถุดิบที่คำนึงถึงความยั่งยืน ข้าวเหนียวออร์แกนิกจากชาวนา ซึ่งปลูกข้าวอย่างใส่ใจ

 

แม่ค้าไส้กรอกอีสาน ผู้คำนึงถึงความยั่งยืน 

ด้วยความที่ทำงานประชาสัมพันธ์และสื่อสารการตลาดให้กับแบรนด์โรงแรม 5 ดาวระดับโลกมานาน ฝึกให้ปภาอรค่อนข้างมีหัวทางด้านการตลาดอยู่ไม่น้อย นอกจากลองผิดลองถูกนับครั้งไม่ถ้วน คิดค้นสูตรไส้กรอกอีสานจนสำเร็จแล้ว สิ่งหนึ่งที่หญิงสาวตั้งเป้าเป็นความฝันเอาไว้ตั้งแต่แรกก็คือ อยากจะทำไส้กรอกอีสานเป็นสินค้าแช่แข็ง เพื่อส่งออกขายยังต่างประเทศ แต่สิ่งสำคัญที่ต้องทำให้เสร็จและจบก่อนก็คือการคิด ‘แบรนดิ้ง’

 

“ช่วงที่ทำรายการ Home Living กับพี่แอน ทำให้แยมได้รู้จักธุรกิจอาหารท้องถิ่นค่อนข้างเยอะ โดยแต่ไหนแต่ไรมาแยมเองก็อินกับเรื่องของชุมชนอยู่แล้ว เรารู้สึกสนใจในเรื่องความยั่งยืนด้านอาหาร ดังนั้น ถ้าจะทำผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์อะไรขึ้นมา ก็อยากให้มีส่วนร่วมสนับสนุนเกษตรอินทรีย์ เลือกใช้วัตถุดิบปลอดสารเคมีจากชุมชน เป็นการทำธุรกิจแบบยั่งยืน แยมคิดว่านี่น่าจะเป็นเส้นทางสู่ความสำเร็จของลูกอีสาน”

 

lookisaander

lookisaander

lookisaander

กรรมวิธีผลิตสะอาด จากเนื้อหมูและไก่อนามัยจากฟาร์มในท้องถิ่น

 

‘ลูกอีสาน’ เปิดตัวด้วยไส้กรอกอีสาน 2 สูตร ได้แก่ สูตรหมู และไก่ ภายใต้คอนเซปต์ของการผลิต ‘อาหารจริงใจ’ ทั้งด้านรสชาติและกรรมวิธีการผลิต ไส้กรอกลูกอีสานมีรสเปรี้ยวและเค็มที่กลมกล่อมจากการหมักด้วยกรรมวิธีธรรมชาติ สิ่งสำคัญคือทำด้วยวัตถุดิบคุณภาพจากหลายแหล่งที่เลือกสรรมาเป็นอย่างดี เน้นผู้ผลิตในชุมชน คำนึงถึงวิถียั่งยืน

 

“อย่างไส้กรอกหมู เราใช้เนื้อหมูบดจากฟาร์ม​หมูอนามัยในท้องถิ่น ส่วนไส้กรอกไก่ใช้เนื้อไก่มาตรฐานฮาลาลในจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งสองสูตรมีส่วนประกอบสำคัญคือ​กระเทียมไทยจากเกษตรกรที่ทำการเกษตรปลอดภัยไร้สารเคมี ซึ่งได้รับรองจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดเชียงใหม่ ดอกเกลือทะเลที่ใช้ก็ส่งตรงมาจากชาวนาเกลือเมืองเพชร ส่วนข้าวเหนียวออร์แกนิกก็มาจากนาข้าวของ ‘น้องใบเฟิร์น’ ​ชาวนาในกลุ่มวิสาหกิจอินทรีย์ดอกคำ ซึ่งปลูกข้าวอย่างใส่ใจ ด้านน้ำตาลอ้อยไร้สารเคมีที่ใช้ยังคงรูปแบบการผลิตแบบดั้งเดิมนั้น มาจาก ‘ป้าวรรณ’ แห่งอำเภอพร้าวใน จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งป้าเขาน่ารักมาก ทำน้ำตาลนี้มาถึง 4 ชั่วอายุคนแล้ว ยังคงตื่นทุกเช้ามากวนน้ำตาลเองอยู่เลย และนำไปขายที่ตลาดนัดทุกวัน วัตถุดิบที่เราเลือกนั้นมาจากคนตัวเล็กๆ ในชุมชน ที่เราเห็นจริงๆ ว่าเขาผลิตมันอย่างใส่ใจ และเราก็รับซื้อมาจากในราคาที่เขาพอใจ แยมอยากให้ลูกอีสานเป็นแบบนี้ คือมันเป็นธุรกิจที่เราไม่ได้แค่ตัวเองคนเดียว และคนกินก็ได้รู้ว่าเงินที่เขาซื้อของมารับประทานนั้นยังไปถึงใครอีกหลายคน”

 

 “แยมอยากให้ลูกอีสานเป็นแบบนี้ คือมันเป็นธุรกิจที่เราไม่ได้แค่ตัวเองคนเดียว

และคนกินก็ได้รู้ว่าเงินที่เขาซื้อของมารับประทานนั้นยังไปถึงใครอีกหลายคน”

 

เรียนรู้สร้างผลิตภัณฑ์อาหารด้วยตัวเอง

อย่างที่เกริ่นเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่าปภาอรวาดฝันเอาไว้ว่าอยากจะทำผลิตภัณฑ์ ‘ลูกอีสาน’ ให้เป็นสินค้าอาหารแช่แข็งเพื่อส่งออกไปต่างประเทศ แต่พนักงานประจำคนตัวเล็กๆ อย่างเธอ ผู้ไม่เคยมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมอาหารมาก่อน และไม่ได้มีทุนรอนอะไรมากมายจะไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร นี่คือสิ่งที่เราสนใจ

 

“ตอนเริ่มทำลูกอีสานเนี่ยแยมเองก็มีเงินทุนอยู่ไม่กี่หมื่นหรอกค่ะ ซึ่งสำหรับเราแล้วมันก็เยอะมากนะ แต่ถ้าเทียบกับเป้าหมายการส่งออกแล้วนี่มันน่าจะห่างไกลกันมากเลยใช่ไหมคะ คือแยมเองก็เป็นคนบ้าๆ แบบนี้แหละค่ะ แต่แยมเชื่อนะที่คนเขาพูดกันว่า ‘ฝันมันไม่ต้องเสียสตางค์’ มันเป็นเรื่องจริงสำหรับแยม เราคิดว่าไหนๆ ก็จะลงมือทำทั้งทีแล้ว ก็อยากจะจริงจังไปเลย ไม่อยากจะให้มันเกิดขึ้นจากวิกฤตแล้วก็หายไป เมื่อทำแล้วก็อยากจะให้มันไปต่อได้ ก็เลยคิดว่าฝันใหญ่ๆ ไปก่อนเลยดีกว่า เผื่อในอนาคตมีความพร้อมหรือเจอคนที่อยากจะร่วมทุนได้มันจะได้ง่ายขึ้น แยมก็คิดเอาไว้เลยว่าถ้าจะไปถึงขั้นส่งออก เราจะต้องทำอะไรบ้าง แพ็กเกจจิ้งเราต้องดี ต้องมี อย. นะ เรามีเงินทุนเท่าไรแล้วทำอะไรได้บ้างก็ค่อยๆ ทำไป ซึ่งแน่นอนว่าเรามีหน้าร้านเองไม่ได้อยู่แล้ว สิ่งหนึ่งที่เราจะทำได้เลยก็คือผลิตภัณฑ์ซึ่งเหมาะกับลูกค้าที่เห็นคุณค่าแบบเรา และเป็นลูกค้าที่พร้อมที่จะจ่ายให้กับคุณค่าที่เขาได้กิน ด้วยความที่อาหารของเราไม่ได้เน้นเรื่องของ Mass Production ที่จะต้องผลิตจำนวนเยอะๆ จึงเริ่มต้นจากเล็กๆ ได้ ซึ่งด้วยคอนเซปต์ของลูกอีสาน แยมคิดว่าน่าจะเหมาะกับริมปิงซุปเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่ ก็เลยติดต่อเข้าไปเพื่อที่จะขอนำเสนอสินค้าดู เมื่อเราพรีเซนต์เสร็จ เขาก็ชอบบอกว่าทั้งคอนเซปต์เรื่องราวและบรรจุภัณฑ์มีสัญญาณที่ดีแล้ว แต่ติดปัญหาตรงที่ตอนนั้นยังไม่มี อย. เขาก็เลยให้กลับไปขอ อย. มาก่อน จากที่ไม่เคยมีความรู้ในเรื่องพวกนี้มาก่อนเลยว่าขอ อย. ต้องทำกันอย่างไร แยมก็เข้าไปติดต่อกับสาธารณสุขจังหวัด ซึ่งเขาก็ให้คำแนะนำเรามาว่าในกระบวนการผลิตจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้ได้ตามมาตรฐานของ อย. แยมก็ไปต่อเติมพื้นที่ครัวที่บ้าน และทำให้กระบวนการผลิตของเราเป็นไปตามมาตรฐาน ในที่สุดก็ได้ อย. และได้วางขายในริมปิง

 

“จากกระบวนการทั้งหมด กว่าที่จะพัฒนาสินค้าและวางขายในริมปิงซุปเปอร์มาเก็ต น่าจะใช้เวลาประมาณปีหนึ่ง วันแรกที่เข้าไปส่งของลงขายได้นี่แยมดีใจเหมือนจะลอยได้เลยนะคะ ดีใจจนอยากจะร้องไห้ คือมันเป็นความภูมิใจที่เราได้เห็นสิ่งที่ตัวเองเริ่มต้นจากศูนย์มันเริ่มเห็นผล คือจากแต่ก่อนที่เราเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่ในองค์กรใหญ่มาตลอด สิ่งหนึ่งที่เป็นบทเรียนสำหรับแยมก็คือประสบการณ์อันมีค่าที่เราทำเอง รู้เอง เจ็บเอง ได้เอง แล้วมันเป็นความภูมิใจที่เทียบไม่ได้เลยกับคำชมหรือโบนัสที่ได้จากเจ้านาย เทียบไม่ได้เลยกับเงินเดือนหรือตำแหน่งที่เพิ่มขึ้น มันไม่ได้มีรสชาติแบบนี้ แต่เป็นคนละอย่างกันค่ะ”

 

lookisaander

lookisaander

lookisaander

จากที่ใช้ความพยายามมาร่วมปี

ในที่สุด ‘ลูกอีสาน’ ก็ได้วางขายที่ริมปิงซุปเปอร์มาร์เก็ต

 

ตอนนี้แม้ยอดขายของ ‘ลูกอีสาน’ จะยังไม่ได้มากมายอะไร เพราะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ก็ค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นทีละน้อยพอให้ชื่นใจในทุกเดือน ปภาอรรู้ดีว่ายังมีอีกหลายอย่างที่เธอจะต้องทำและเรียนรู้ในฐานะของเจ้าของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเร่งทำการตลาดและการขายผ่านช่องทางออนไลน์อย่างจริงจังมากขึ้น เช่นเดียวกับการพัฒนาผลิตสินค้าใหม่ๆ เพิ่มเติม ตอนนี้ ‘ลูกอีสาน’ มีแผนที่จะเพิ่มสินค้าออกมาอีกหลายตัว ไม่ว่าจะเป็นไส้กรอกวุ้นเส้นหมู ไส้กรอกวุ้นเส้นไก่ ไส้กรอกมังสวิรัติ และยังจะผลิตขิงดองออร์แกนิกที่เป็นไลน์ต่อยอดสำหรับคนรักสุขภาพออกมาอีก แม้จะยังไม่รู้ว่าลูกอีสานจะประสบความสำเร็จในการได้ขายส่งออกตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้แต่แรกได้เมื่อไร แต่สิ่งหนึ่งที่หญิงสาวคนนี้ได้เรียนรู้ ก็น่าจะเป็นสิ่งมีค่าที่ควรค่าแก่การนำมาบอกเล่าต่อ

 

lookisaander

เอกลักษณ์รสเปรี้ยวและเค็มที่กลมกล่อมจากการหมักโดยธรรมชาติ และส่วนประกอบที่ปลอดภัยมีคุณภาพจากชุมชน

 

“สิ่งหนึ่งที่แยมคิดเกี่ยวกับโควิด คือการที่เราไม่มัวแต่นั่งจมและมองว่ามันเป็นวิกฤตที่หนักหนาสาหัส แต่สิ่งสำคัญที่จะทำให้เราเดินต่อไปได้คือเราต้องพยายามมองให้เห็นว่าเรามีอะไรอยู่ และทำอะไรได้บ้าง ตอนทำลูกอีสานทีแรกๆ แยมเองก็ทำไปกลัวไปนะ คือกลัวว่าตอนเอาไปให้คนอื่นชิมแล้วเขาจะไม่ชอบ กลัวไม่ดี กลัวเสียหน้า กลัวขาดทุน กลัวล้มเหลว แต่ถึงจะรู้สึกอย่างนั้น เราก็ยังต้องทำต่อไป ตอนนี้พอสิ่งที่เราทำเริ่มจะเป็นรูปร่างขึ้นมาในระดับหนึ่งแล้วนึกย้อนกลับไป ก็ทำให้เข้าใจว่ามันจะสำเร็จไม่ได้เลยถ้าเราไม่ก้าวข้ามกรอบคิดเดิมๆ ของตัวเองแล้วลงมือทำ แยมต้องขอขอบคุณเพื่อนคนหนึ่งที่เป็นคนให้ปัญญา คือเขาเคยบอกกับแยมไว้นานแล้วค่ะว่า “อย่ามีมายด์เซ็ตแบบมนุษย์เงินเดือน” ซึ่งทีแรกแยมเองก็ไม่เข้าใจหรอก เราคิดว่าเป็นมนุษย์เงินเดือนมันก็ดีนี่ มีเงินใช้จ่ายทุกเดือนมั่นคงดี แต่พอเจอกับวิกฤตโควิด และได้ลองมาทำลูกอีสานแยมถึงเข้าใจ เพราะมันไม่มีความมั่นคงใดๆ ที่จะคงอยู่ได้ตลอด สิ่งหนึ่งที่ทำได้ก็คืออยู่กับปัจจุบัน และทำในสิ่งที่เราทำได้ อย่าง ‘ลูกอีสาน’ ที่ทำนี่ แยมเองก็คิดแค่ว่าเราทำเพราะชอบกินไส้กรอกอีสาน แล้วเราเป็นใคร เราเป็นลูกอีสาน เราอยากจะกินอะไร และอยากให้คนกินเขาได้รับประทานอาหารที่ปลอดภัย เราก็ซื่อสัตย์ จริงใจ แล้วทำมันไปโดยไม่ไปเบียดเบียนตัวเองหรือคนอื่น”

 

ด้วยความจริงใจ รัก ซื่อสัตย์ และศรัทธาในตัวเอง ตลอดจนความปรารถนาดีต่อผู้อื่น เราคิดว่าแบรนด์ไส้กรอกอีสาน ‘ลูกอีสาน’ จะสามารถค่อยๆ เติบโตขึ้นต่อไปได้

 

ภาพ: มาเรียม บุญมาลีรัตน์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X