ช่วงนี้ดูเหมือนว่าชั้น 55 ของ Empire Tower จะคึกคักด้วยร้านรวงใหม่ที่เข้ามาเติมเต็มสเปซมากขึ้น แต่ถ้าช่วงเย็นยาวไปจนถึงค่ำดูคึกคักมากเป็นพิเศษนั้นให้สันนิษฐานได้เลยว่า ‘Invitation Only’ เป็นเหตุ
The Vibe
Invitation Only เป็นค็อกเทลบาร์น้องใหม่ภายใต้การบริหารของทีม The Cassette Music Bar ที่อยากให้พื้นที่แห่งนี้กลายเป็นพื้นที่ให้ Mingle & Unwind กับเพื่อนๆ และแน่นอนว่าเน้นความ High-End มากขึ้น ทั้งดีไซน์และเก้าอี้กำมะหยี่สีแดงคุมโทน โดยภาพรวม Invitation Only ยังคงถูกถ่ายทอดด้วยคอนเซปต์ย้อนยุคล้อไปกับ DNA ของ The Cassette Music Bar แต่ทวิสต์ให้เป็นเวอร์ชันสากลแทน
นอกจากดีไซน์ที่สะดุดตาแล้ว สิ่งที่ทำให้ใครต่อใครสะดุดตายิ่งกว่าก็คือวิวหลักล้านตรงหน้า ซึ่งเชื่อว่าใครเห็นก็ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเก็บภาพ
หากมาในช่วงร้านเปิด 17.00 น. ก็จะเห็นพระอาทิตย์ที่กำลังจะลาลับทอแสงลอดหมู่เมฆจนทั้งผืนฟ้ากลายเป็นภาพแคนวาสผืนสวย
พอนั่งยาวไปจนพลบค่ำก็ได้บรรยากาศความเป็น Night Life City และยังคึกคักขึ้นเมื่อมี Live DJ
The Taste
ค็อกเทลที่นี่จะเน้นความคราฟต์ในเรื่องวัตถุดิบเพื่อให้ได้รสที่ธรรมชาติที่สุด อย่างความหวานที่ได้ในแต่ละแก้วนั้นส่วนใหญ่จะมาจากผลไม้สดที่นำมาแปรรูป โดยจะพยายามเลี่ยงการใช้ไซรัปให้มากที่สุด ในแง่ของสปิริตที่ใช้ก็จะเน้นตัวที่มีความยูนีก ไม่แมส หาซื้อได้ตามท้องตลาด และที่สำคัญคือแต่ละแก้วจะต้องเข้าใจง่าย แพริ่งกับการ์นิชที่เห็นได้หมด
“เราไม่อยากให้ลูกค้ารู้สึกสงสัยว่ากำลังดื่มอะไรอยู่” หัวหน้าทีมบาร์เทนเดอร์กล่าว
มาทั้งทีก็คงต้องลองลิสต์จากหน้า Signature Cocktail กันหน่อย สามแก้วที่เราได้ลองในวันนี้ล้วนเป็นแก้วที่มีดาวติดทั้งสิ้น เริ่มที่ Sangria-O-La (380 บาท) เบสแก้วนี้เป็นจินแบล็กเคอร์แรนต์ จิบแรกจะได้ความเปรี้ยวสดชื่นจากสับปะรดที่นำไปคราฟต์ ตามมาด้วยโน้ตหอมๆ สไตล์ฟลอรัลและกุหลาบ และไวน์แดงที่ท็อปอยู่ด้านบน เชื่อว่าแก้วนี้จะเป็นแก้วโปรดของสาวก Sangria แน่นอน
Invitation Only (380 บาท) เห็นสีสันของแก้วนี้ก็รู้ได้ทันทีว่าแรงบันดาลใจมาจากไหน เบสเป็นฟลอรัลและพิงก์จิน จิบแรกสำหรับเราคือความ ‘เอ๊ะ’ ถึงเอเลเมนต์บางอย่างในแก้วที่ชวนให้นึกถึงรสชาติความเป็นไทย พอได้คุยกับบาร์เทนเดอร์เลยรู้ว่าแก้วนี้มีการใช้น้ำมะพร้าวมิกซ์กับไวน์แดง และมีการตัดรสเพิ่มความสดชื่นด้วยแอปเปิ้ลเขียวคราฟต์ ทิ้งท้ายด้วยโน้ตกุหลาบอีกเช่นกัน
คนที่ต้องการดริงก์แนวรีเฟรชชิ่งมากเป็นพิเศษ แนะนำให้ลองแก้วนี้ Fresh Like a Daisy (380 บาท) ที่มีเบสเป็นไวต์รัม ซึ่งตัวที่ช่วยชูความสดชื่นได้ดีสุดๆ คือแตงกวาซูกินีบดผสมใบสเปียร์มินต์ และแอปเปิ้ลเขียวที่นำไปคราฟต์กับส้มยูซุ
ในส่วนของอาหารที่ร้านนั้นก็มีทั้งหมวด Cold Plate, Hot Plate, Salad และ Pasta และเน้นเป็นอะไรที่กินง่าย
ไม่ว่าจะเป็น Piri-Piri Chicken (240 บาท / 3 ไม้) ไก่พิริพิริหอมเครื่องเทศที่ย่างมาได้นุ่มกำลังดี
Salmon Salad Bites (360 บาท) สลัดแซลมอนคานาเป้อร่อยแบบพอดีคำ แชร์กับเพื่อนได้เพลินๆ
แต่ถ้าเน้นจานที่หนักขึ้นมาหน่อย แนะนำว่าจานนี้คือ A Must! Spaghetti Chilli Shrimp Paste with Ebiko (360 บาท) สปาเกตตีน้ำพริกนรกมันกุ้งไข่กุ้งหก นี่คือชื่อเมนูจริง และก็ต้องบอกว่าไข่กุ้งดูหกสมชื่อจริง
‘เผ็ดเป๊าะแป๊ะ’ ความรู้สึกแรกที่เราม้วนเส้นเข้าปาก รสชาติของน้ำพริกนรกถือว่าเผ็ดจัดจ้านใช้ได้ และไม่ว่าจะกินคำไหนก็จะได้เท็กซ์เจอร์เป๊าะแป๊ะของไข่กุ้งที่เกาะทุกอณูของเส้น
Good For
ใครที่ชอบบาร์แบบ Sky-High และเพลงแนวย้อนยุค จะต้องตกหลุมรักกับไวบ์ที่นี่แน่นอน โดยเฉพาะช่วงที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน จะมานั่งคนเดียวหน้าบาร์ก็ได้ หรือจะชวนเพื่อนมาแฮงก์เอาต์ยาวไปทั้งคืนก็เหมาะ
Invitation Only
Open: เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป (แนะนำให้จองก่อน)
Address: Empire Tower, Sathorn
Facebook: www.facebook.com/invitation.only.bkk (tag page)
Instagram: www.instagram.com/invitation.only.bkk/
Budget: ค็อกเทลเริ่มต้นที่ 360 บาท อาหารเริ่มต้นที่ 240 บาท