ถ้าหันหลังให้ถนนเลียบคลองทวีวัฒนา ด้านหน้าคือร้านอาหาร Anya’s Place ที่เปิดบริการมากว่า 15 ปี ถัดเข้าไปคือร้าน Tora Izayaka ร้านกินดื่มที่ซ่อนตัวอยู่ด้านใน และด้านข้างคือร้าน SMOKED ร้านเนื้อรมควันสไตล์เท็กซัส ทั้งหมดแทบมองไม่ออกเลยว่าด้านในสุดอดีตเคยเป็นที่ตั้งโรงงานขนาดใหญ่ที่ถูกปรับปรุงเป็นที่อยู่อาศัย ทั้งหมดคืออาณาจักรครอบครัวของต่อ-บุญปิติ สุนทรญาณกิจ และเชฟแพม-พิชญา อุทาธรรม เชฟหญิงแถวหน้าระดับโลก
เรารู้จักเชฟแพมในฐานะเชฟหญิงที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2025 (The World’s Best Female Chef 2025) ซึ่งถือเป็นเชฟเอเชียคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้ หรือในฐานะเจ้าของร้านอาหาร Potong ร้านไฟน์ไดน์นิงที่ได้รับรางวัลมิชลินไกด์ และบางคนอาจคุ้นหน้าคุ้นตาเชฟแพมจากรายการ Top Chef Thailand และรายการ The Restaurant War Thailand ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ผู้หญิงคนหนึ่งได้รับรางวัลการเป็นเชฟแถวหน้า เพราะชีวิตของเชฟแพมถูกหล่อหลอมด้วยอาหารมาตั้งแต่เด็ก
เชฟแพมเกิดและเติบโตมาในคอนโดมิเนียมใจกลางสุขุมวิท ก่อนที่จะย้ายมาอยู่บ้านที่ตั้งอยู่ข้างๆ ตั้งแต่เด็กทุกคนในครอบครัวจะขลุกตัวกันอยู่ในห้องครัวเพื่อดูแม่ทำอาหารแทนการนั่งเล่นในห้องรับแขก รวมถึงการมีเชื้อสายจีนที่ให้ความสำคัญกับการกิน ทำให้เป็นจุดตั้งต้นในความคุ้นเคยกับอาหาร จนวันหนึ่งเมื่อเชฟแพมเรียนชั้นปี 2 คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เธอตัดสินใจเดินไปบอกพ่อแม่ว่าจะเอาจริงเอาจังในด้านนี้ และทุกคนก็สนับสนุน แต่เธอเลือกที่จะเรียนในมหาวิทยาลัยและแบ่งเวลาเสาร์-อาทิตย์เพื่อเรียนทำอาหาร จนเรียนจบเธอจึงได้ไปศึกษาต่อพร้อมฝึกงานที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และได้กลับมาเปิด Chef’s Table ที่เมืองไทย
เชฟแพมได้ตัดสินใจสร้างครอบครัวกับต่อ บุญปิติ โดยได้ทำการรีโนเวตชั้นดาดฟ้าของอาคารโรงงานครอบครัวสามีเป็นที่อยู่อาศัย พร้อมกับมีลูกสาวอันเป็นที่รักด้วยกัน
เมื่อเปิดเข้าไปภายในบ้านที่ต่อเติมเราจะพบกับห้องโถงขนาดกว้างจรดระเบียงที่ภายในมุมด้วยหลังคาสูง มุมซ้ายมือต้อนรับผู้มาเยือนด้วยชุดกลองขนาดเล็กที่พ่อใช้เล่นกับลูกสาว ถัดเข้าไปเป็นมุมโทรทัศน์และของเล่นเด็กที่เรียงรายอย่างแน่นขนัด

จุดที่เด่นที่สุดของโถงนี้คือโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ที่รองรับได้กว่า 10 ที่นั่ง ทอดยาวไปตามตัวอาคาร โดยเชฟแพมตั้งใจให้เป็นจุดศูนย์กลางของบ้าน ให้ทุกคนได้นั่งเล่น ชวนเพื่อนมาสังสรรค์ รวมถึงใช้เป็นที่รับประทานอาหารของครอบครัว

ด้านในสุดของบ้านคือครัว ที่แม้ไม่ได้ใหญ่โตมากนักแต่รองรับการทำอาหารมื้อดึก มื้อวันหยุด หรือใช้เป็นที่ทดสอบอาหารของเชฟแพม มีทั้งเตาอบอัจฉริยะ และเครื่องปรุงต่างๆ ที่ติดป้ายไว้อย่างเป็นระเบียบ และเลยออกไปคือระเบียงขนาดใหญ่ที่มีโซฟาและเก้าอี้ม้าโยกไว้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ

เหนือศีรษะคือชั้นลอยของบ้านที่แต่เดิมออกแบบไว้เป็นห้องสำหรับดูโทรทัศน์ ปูพรมและบุเสียงโดยรอบ แต่ปัจจุบันใช้เก็บหนังสือการ์ตูนซึ่งเป็นของสะสมของสามี และเป็นที่คลี่กระเป๋าเดินทางเมื่อเชฟแพมต้องเดินทางไปต่างประเทศ
ที่อยู่ในขนาดกะทัดรัดของทั้ง 3 คน เป็นส่วนหนึ่งของอาคารโรงงานใหญ่ที่อีกฟากเป็นที่อยู่ของครอบครัวญาติผู้เป็นสามี โดยแต่ละบ้านจะมีทางขึ้น-ลงของตัวเอง แต่ก็ยังมีพื้นที่ส่วนกลางของชั้นล่างที่ทำให้ทุกคนได้มาเจอกัน โดยเฉพาะห้องตีกอล์ฟที่ทุกคนมักใช้เวลาว่างในการพัตต์กอล์ฟพร้อมคุยงานไปด้วย
ชั้นล่างสุดของอาคารมีทั้งครัวกลางสำหรับเตรียมอาหารเพื่อส่งไปยังสาขาต่างๆ ห้องแช่แข็งที่เป็นเหมือนตู้เย็นขนาดใหญ่ใช้สำหรับถนอมอาหาร มีความเย็นตั้งแต่ 5 ถึง -20 องศาเซลเซียส รวมถึงห้องรมควันสำหรับเนื้อร้าน SMOKED

ดูเหมือนบ้านของเชฟแพมจะรวมองค์ประกอบของคนคนหนึ่งเอาไว้ในพื้นที่เดียวกัน ทั้งชีวิตครอบครัว การทำงานร่วมกันกับคนรัก การทำอาหารซึ่งถือเป็นความฝันและอาชีพ และที่อยู่อาศัย สำหรับบางคนพื้นที่ทับซ้อนอาจต้องสวมหลายบทบาทที่สับสน แต่สำหรับเชฟแพมแล้วเธอสามารถเรียกรวมทั้งหมดได้ว่าความสุข โดยเธอเองก็ไม่รู้คำตอบเหมือนกันว่าอะไรที่ทำให้เธอทำได้ บางทีคำตอบอาจเพราะว่าทั้งหมดคือสิ่งที่เธอรัก
รับชมบ้านที่รวมทั้งงาน ความรัก และแพสชันของเชฟแพม ได้ในรายการ HOW DO YOU LIVE? ทาง YouTube ของ THE STANDARD LIFE คลิกชมได้ที่: https://www.youtube.com/watch?v=E6GerdGrPD8


