จากเมนูยอดฮิตอย่างหมี่ไก่ฉีก สู่ร้านอาหารแห่งแรก ‘House of Emily’

เชื่อว่าหลายคนต้องเคยชิมหมี่คลุกไก่ฉีกเจ้าดังอย่าง Emily’s เพราะด้วยรสชาติที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน Emily’s จึงเป็นอีกหนึ่งร้านที่หลายคนโปรดปรานและมีคนต่อแถวยาวตลอดเวลาไม่ว่าจะไปเปิดป๊อปอัพที่ไหนก็ตาม (แม้กระทั่งไกลถึงต่างประเทศ)

และด้วยความรู้สึกอยากต่อยอดเมนูเส้นหมี่ให้จับคู่กินกับเมนูอาหารไทยอื่นๆ ได้หลากหลาย พร้อมอยากส่งต่อรสชาติที่ทำกินเองในครอบครัวด้วย ‘เพ็บ-นัยนชนก ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา’ จากตระกูลเจ้าของสูตรหมี่ไก่ฉีก และ ‘ภัทร์-ธภรัท เวโรจน์ฤดี’ ผู้ร่วมให้กำเนิดแบรนด์ Emily’s จึงลงมือเปิดร้านอาหารแห่งนี้ขึ้นมาในชื่อว่า ‘House of Emily’ ร้านอาหารไทยฟิวชันที่มีเส้นหมี่ซิกเนเจอร์เป็นตัวชูโรง มาพร้อมบรรยากาศราวกับเดินเข้ามานั่งกินข้าวที่บ้านของพวกเขา

House of Emily ตั้งอยู่ในโครงการ Yard 49 ซอยสุขุมวิท 49 ร้านเปิดอยู่ด้านหน้าโครงการหาเจอไม่ยากแน่นอน เมื่อเดินเข้ามาทุกคนจะรู้สึกถึงความเรียบหรู แต่เป็นกันเอง และมีพนักงานคอยดูแลทุกคนตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในร้าน ส่วนโต๊ะอาหารมีทั้งโต๊ะแบบธรรมดาสำหรับคนสั่งเมนูอาลาคาร์ต และที่นั่งหน้าเคาน์เตอร์บาร์สำหรับคนอยากลองชิมอาหารสไตล์ Tasting Menu ซึ่งตรงนั้นจะเป็นพื้นที่ชงเครื่องดื่มที่ใช้ชาประจำร้านจาก Emily’s ด้วย

เมนูของร้านเป็นอาหารไทยจับคู่กับเส้นหมี่ เราชิมแล้วชอบหลายเมนูเพราะทุกจานรสชาติลงตัวมาก เมนูที่แนะนำให้ลอง ได้แก่ ‘Emily In Bangkok (495 บาท)’ หมี่คลุกเนื้อปูที่เป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Emily’s จานนี้เป็นเมนูซิกเนเจอร์ประจำร้าน ใส่เนื้อปูก้อนใหญ่ หมึกกรอบ และน้ำพริกหนังปลาแซลมอนที่หลายคนน่าจะติดใจ

‘Chiang Mai Sunset (590 บาท)’ เส้นหมี่กับน่องเป็ดกงฟีต์และซอสข้าวซอย มีเส้นหมี่กรอบๆ กับผักดองช่วยตัดเลี่ยนด้วย จานนี้หลายคนน่าจะติดใจเช่นกัน เพราะเนื้อเป็ดนุ่มฉ่ำเข้ากับซอสที่หอมเข้มข้น

ใครชอบกินกุ้งแม่น้ำต้องลอง ‘River Prawn Tom Yum (1,090 บาท)’ เส้นหมี่น้ำพริกหนังปลาแซลมอนกับกุ้งแม่น้ำตัวโตเนื้อเด้งพร้อมมันกุ้งเยิ้มๆ แนะนำให้กินตอนเสิร์ฟร้อนๆ แล้วคลุกทุกอย่างกินพร้อมกันในคำเดียว รับรองจะฟินสุดๆ แถมยังมีน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรประจำตระกูลและน้ำซุปให้ด้วย

แล้วถ้าใครกลัวกินเมนูเส้นหมี่อย่างเดียวจะเลี่ยนไป ให้สั่ง ‘Not A Normal Caesar (หมู 320 บาท / เนื้อ 350 บาท)’ ซีซาร์สลัดที่มาพร้อมหมี่กรอบแทนครูตองซ์ และใช้เนื้อเค็มแทนเบคอน เวลากินให้คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน จานนี้กินเพลินเพราะผักสดกรอบ ช่วยตัดรสจานอื่นๆ ได้ดีเลย

หรือถ้าใครอยากสั่งเมนูเส้นหมี่มากินด้วยกัน ก็มี ‘Heritage Lobster Nam Prik (1,890 บาท สำหรับ 1-2 คน)’ เส้นหมี่กับเนื้อล็อบสเตอร์ชิ้นโตที่มาพร้อมผักทอด กุ้งเทมปุระ ไข่ต้ม และน้ำพริกรสกลมกล่อม หรืออีกเมนูแนะนำ ‘Scallop Krapaow (690 บาท)’ เส้นหมี่กับหอยเชลล์ที่นำไปเซียร์บนกระทะพร้อมสมุนไพร ด้านบนมีอิกุระช่วยเพิ่มรสชาติ เป็นอีกจานรสชาติเบาๆ กลมกล่อม สำหรับคนไม่อยากกินเผ็ด

มาต่อกันที่ของหวานบ้าง ซึ่งเป็นสูตรประจำครอบครัวเช่นกัน ที่ห้ามพลาดเลยก็คือ ‘Ba-anna (150 บาท)’ กล้วยบวชชีรสหอมหวานกลมกล่อม เสิร์ฟมาอุ่นๆ กินแล้วสบายท้อง ‘Chocolate & Berry (220 บาท)’ ช็อกโกแลตกานาชเนื้อแน่นหนึบรสเข้มข้น กินคู่กับซอสเบอร์รีและสตรอว์เบอร์รีเปรี้ยวสดชื่นแล้วเข้ากันมากๆ สุดท้าย ‘Suzette for Two Sisters (425 บาท สำหรับ 1-2 คน)’ เครปฝรั่งเศสสไตล์ House of Emily ที่รสชาติสดชื่นด้วยส้มและมาพร้อมไอศกรีมวานิลลา กินตอนอุ่นๆ ตัดด้วยรสเย็นๆ เป็นเมนูปิดท้ายที่ดีเหมือนกัน

Good for

ใครเป็นแฟนคลับหมี่คลุกไก่ฉีกของ Emily’s และอยากลองเมนูใหม่ๆ จากพวกเขาต้องมาที่นี่เลย เราเชื่อว่าเป็นรสชาติที่กินได้ทุกคน แถมยังมีความสนุกขึ้นและเป็นอาหารไทยที่ใช้สูตรลับของครอบครัวมาเสิร์ฟให้ชิมด้วย ส่วนเรื่องการบริการรับรองว่าทุกคนต้องประทับใจ ถ้าไม่เชื่อรีบจองโต๊ะไปชิมได้เลย