เชื่อว่าใครที่ไถฟีด TikTok เป็นประจำคงจะต้องเคยเห็นแพทย์หนุ่มหน้าใสคนหนึ่งตอบประเด็นคำถามชวนสงสัยจากทางบ้านด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลน่าฟัง สีหน้าแววตาที่เป็นมิตรผนวกกับทักษะการเล่าเรื่องยากๆ ในวงการแพทย์ได้อย่างสนุกและเข้าใจง่าย ทำให้แอ็กเคานต์แพทย์ท่านนี้มีผู้ติดตามกว่า 2.3 ล้านคน ใช่แล้ว เรากำลังพูดถึง ‘พี่กลาง หอสมุดแห่งชาติ’
ช่อง TikTok ของ หมอกลาง-นพ.ณัฐณกัณฑ์ พิชยะวงศ์ภัค ถูกเปรียบเปรยเป็นหอสมุดแห่งชาติ ด้วยความรอบรู้ของหมอกลางในการนำเสนอความรู้ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และหลายต่อหลายครั้งก็สร้างความใจฟูแก่ลูกเพจด้วยกำลังใจและแง่คิดดีๆ มากมาย
@d_klang Replying to @อาลิซ ออนทัวร์ การเดินทางที่แสนพิเศษ #พี่กลางหอสมุดแห่งชาติ #tiktokuni #กําลังใจ #ปฏิสนธิ
นอกจากการเป็นอินฟลูเอ็นเซอร์แล้ว หมอกลางยังเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามประจำคลินิก Dermatige Aesthetics ที่ก่อตั้งโดยเพื่อนซี้ทั้งสาม คือตัวหมอกลางเองร่วมกับ หมอต่อ-นพ.ภาณุพงศ์ ภัทรกุลทวี และ ยาย่า-เขมณัฏฐ์ ชุลีเกียรติ
ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมในแวดวงความงามมากว่า 12 ปี เราเลยถือโอกาสชวนหมอกลางมาจับเข่าคุยแบบเพลินๆ ตั้งแต่เส้นทางการเป็นหมอด้านความงาม ประเด็นที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับความงามชนิดที่จำได้ไม่ลืม เคสเสี่ยงที่เกิดขึ้นจริงในคลินิก รวมถึงเกร็ดความรู้ดีๆ อีกเพียบที่จะช่วยให้ทุกคนสวยและดูดีขึ้นได้อย่างปลอดภัย
การเป็นหมอด้านความงามเป็นความตั้งใจแรกของหมอกลางเลยไหม
ความจริงเรื่องของความงามไม่เคยอยู่ในหัวเลย เรายังเคยแอนตี้ด้วยซ้ำว่าเราจะทำไปทำไม เพราะเมื่อก่อนเราทำงานที่โรงพยาบาลภาคเหนือในจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน เราเห็นในวอร์ดก็มีแต่เรื่องการรักษาคนไข้ ผู้ป่วยติดเตียง 5 เดือนก็มี แต่ด้วยความที่ยุคนั้นคลินิกเสริมความงามมีน้อย อาจารย์ที่รู้จักท่านก็เปิดแล้วชวนให้เราไปช่วยทำงาน พอเราไปลองทำแล้วก็รู้สึกว่ามันสนุกกว่าที่คิด รู้สึกไม่เครียด
ก็เลยตัดสินใจเปิดคลินิก
ยังครับ ตอนนั้นรู้สึกว่าการเป็นเจ้าของอะไรสักอย่างหนึ่งมันเครียด ก็ทำงานในคลินิกอื่นมา 10 ปี ได้ลองทำอะไรหลายๆ อย่างเยอะมาก สั่งสมประสบการณ์มาอย่างพรั่งพรู จนสุดท้ายก็ตัดสินใจเปิดคลินิกของตัวเอง ตอนแรกที่เปิดก็กลัวนะครับ แต่ด้วยความที่เรามีหุ้นส่วนเราก็รู้สึกว่าหุ้นส่วนเราเก่งนะ คือเรา 3 คนเก่งคนละด้านเลย
ที่จริงแล้วเราเปิดคลินิกเพื่อทำหน้าตัวเอง (ยิ้ม) เราคุยกัน 3 คนว่าเออเราลองมาทำหน้าตัวเองกันก่อนไหม คนไข้ไม่มีก็ไม่เป็นไร ขอให้มีกินมีใช้พอ ด้วยความเป็นเจ้าของเราก็ต้องพัฒนาที่ตัวเองก่อน ความเป๊ะความงามเป็นเรื่องละเอียดมาก อันนี้คือสิ่งที่เราเริ่มจริงๆ แต่จริงๆ ทั้ง 3 คนคือ Perfectionist ถึงปากจะบอกว่าไม่เป็นไรก็เถอะ
อย่างหมอเอง เรื่องการแพทย์ เรื่องการรักษานั้นซีเรียสมาก เวลาใครทำงานพลาดนิดเดียวจะโดนดุเลย ผู้ช่วยแพทย์ก็ยังโดนตำหนิเลย สงสารน้องนะ แต่เราปล่อยไม่ได้ แล้วพอมาเรื่องความงามมันจะต้องเป๊ะ คือเราอยากสวยแบบนี้ คนไข้ก็ต้องสวยแบบนี้ แปลว่าทุกคนมั่นใจได้ว่าทุกยา ทุกเครื่อง มันผ่านหน้าหมอกลาง หมอต่อ ยาย่าไปหมดแล้ว และเดี๋ยวนี้พอหมอเยอะขึ้นก็ผ่านหน้าหมอทุกคนแล้วด้วยนะครับ
View this post on Instagram
แล้วช่อง ‘พี่กลาง หอสมุดแห่งชาติ’ มาตอนไหน
จริงๆ โดนบังคับให้ทำช่องโดยยาย่า สมัยก่อนเปิด Dermatige Aesthetics ด้วยซ้ำ คือสมัยก่อนที่เรามาร่วมทำงานด้วยกัน เราก็แบ่งหน้าที่ตามความถนัดของแต่ละคน ต่างฝ่ายต่างช่วยซัพพอร์ต ทั้งการทำคอนเทนต์ การขาย และการโปรโมต
ย่าก็บอกว่า “ตอนนี้ TikTok มันมามากเลยนะ เธอสองคนต้องทำช่อง” ยังตีกันอยู่เลยว่า เราเป็นหมอ ทำไมต้องทำ ก็ให้มาร์เก็ตติ้งทำช่องไปสิ ยังไปด่าเขาอยู่ แต่พอกลับไปบ้านแล้วก็ฉุกคิดว่า “แต่ยาย่าเขาเป็นคนที่ประสบความสำเร็จนะ”
View this post on Instagram
ถ้าคนที่ประสบความสำเร็จบอกให้เราทำ ทำไมเราไม่ลองล่ะ ต้องขอบคุณเขา เพราะเป็นมายด์เซ็ตที่ได้จากเขา เราก็เลยลองทำดู แรกๆ ก็ทำเรื่องคลินิกก่อนครับ ยังไม่ใช่พี่กลาง หอสมุดแห่งชาติ เป็นอีกชื่อหนึ่ง ทำเรื่องคลินิกไปเรื่อยๆ ตัน ไม่มีอะไรจะพูด เครื่องมันหมดแล้ว มีแค่นี้ ฟิลเลอร์ก็มีอยู่แค่นี้ จะไปพูดเรื่องคิ้วตงคิ้วตก คนไข้จะกลัวไหมเนี่ย อะไรอย่างนี้
แล้วมันมาจุดประกายตอนที่เราทำเคส คลินิกเราจริงๆ เหมือนร้านทำเล็บ เหมือนร้านทำผม คือเราเมาท์ไปด้วย กลางกับต่อนี่ขี้เมาท์ เมาท์ๆๆ ไป น้องผู้ช่วยบอกว่า คุณหมอเรื่องนี้มันมากเลยนะ เอาไปเล่าใน TikTok สิ
เราก็ “จริงเหรอ…” มันเป็นเรื่องผี เราก็ “ยาย่า ฉันเอาเรื่องผีไปเล่าดีไหม” อะไรอย่างนี้ ย่าก็ “จะบ้าเหรอเสียภาพลักษณ์หรือเปล่า” ก็คิดหลายอารมณ์อยู่…สุดท้ายก็ช่างมันปะไร ชื่อช่องก็ชื่อเรา ไม่ใช่ชื่อคลินิกซะหน่อย ก็เลยลองเล่าเรื่องแรกดู เรื่องอาจารย์ใหญ่ คืนเดียว…คนตามเพิ่มขึ้นแสนห้า
@d_klang Reply to @pongsmile เพื่อนผมไปซื้อแฮนดี้แคมยังเจอดีครับ😰😅 #tiktokuni #เรียนหมอ #ชีวิตหมอ #เรื่องผี #เล่าเรื่องผี
เรื่องนี้เป็นบทสรุปว่าคนไทยอินเรื่องผี
โอ้โห ตายแล้ว รู้งี้ฉันเล่าเรื่องผีแต่แรก (ยิ้ม) ก็เริ่มเล่าเรื่องประสบการณ์ตอนเรียนแพทย์ ทั้งเศร้า ทั้งมัน คือเล่าทุกเรื่องที่อยู่รอบตัวเรา แล้วก็เล่าให้ความรู้ ปรากฏว่า เฮ้ย คนดูรู้สึกว่าหมอกลางเขาเป็นคนที่พูดภาษาคนรู้เรื่อง แล้วพอคนถามอะไรมาเราตอบได้ เขาก็เลยเรียกว่า ‘หอสมุดแห่งชาติ’ อันนั้นคือครั้งแรกที่เราเปลี่ยนชื่อ
พอหมอตอบได้ทุกเรื่องทางบ้านก็ยิ่งส่งคำถามมาให้ด้วย
ใช่ คำถามตอนนี้ติดอยู่ประมาณ 1,800 ข้อที่เซฟไว้ ก็น่าจะทำได้อีกจนอายุประมาณ 90 ปี (หัวเราะ)
เชื่อว่าคำถามเกี่ยวกับความงามคงถูกส่งเข้ามาไม่น้อย มีประเด็นที่คนมักเข้าใจผิดอยู่บ้างไหม
โอ้โห เยอะมาก อันนี้น่าจะพีคสุด คือเอารกมากินแล้วจะทำให้ผิวคุณแม่หลังคลอดสวยขึ้น เราก็เลยไปรีเสิร์ช พบว่าฝรั่งเขาทำกันเยอะมาก แล้วเขาไม่ได้เอาไปทำให้ถูกสุขลักษณะ เขาเอามากินสด เอาไปปั่นกับผลไม้ทำเป็นสมูทตี้อะไรอย่างนี้ เราก็อุ๊ย หลอนเนอะ
@d_klang Replying to @tutatuta123451 กินรกแล้วสุขภาพดีจริงหรือ!? #พี่กลางหอสมุดแห่งชาติ #เซรั่มรกแกะ #เซรั่มซิสส์ #SISS #sissthailand
♬ original sound – พี่กลาง หอสมุดแห่งชาติ – พี่กลาง หอสมุดแห่งชาติ
นอกจากนี้ก็มีนอนห้อยหัวเพื่อให้เลือดไปเลี้ยงที่หน้า ให้สมองดีขึ้นและหน้าใสด้วย ซึ่งความเป็นจริงแล้ว..
ไม่เกี่ยวเลย หน้าแดงเฉยๆ แล้วเลือดมันก็ไม่ได้เข้าสมองมากขึ้น มันกรองก่อนเข้าสมอง
@d_klang Replying to @อกาธา นอนห้อยหัวแล้วหน้าใส!? #พี่กลางหอสมุดแห่งชาติ น้ำตบโสมแดง#น้ําตบโสมแดงงCellxosome #กระชับอิ่มฟูดูอ่อนเยาว์ #sewainsamessences #sewainsamessencecellxosome #sewathailand
♬ original sound – พี่กลาง หอสมุดแห่งชาติ – พี่กลาง หอสมุดแห่งชาติ
ยังมีประเด็นเข้าใจผิดที่หมอกลางจำได้ไม่ลืมอีกบ้างไหม
เมื่อก่อนที่เขาเชื่อกัน แค่เอาเข็มมากระแทกหน้าก็หน้าใสแล้ว ที่เห็น Derma Roller คือมันพัฒนามาจากการเอาเข็มกระแทกหน้าตัวเอง ตามหลักการมันก็ดี เป็นเรื่องการสร้างเซลล์ผิวใหม่ แต่พอตอนปฏิบัติจริงๆ เนี่ย ถ้าเข็มใหญ่เกินไป ไม่ละเอียดพอ ก็เสี่ยงติดเชื้อได้ มันเลยไม่ค่อยเวิร์ก
เขาก็ต้องพัฒนาขึ้นมาอีกเป็นเข็มที่มัน Sterile ขึ้น ละเอียดขึ้น เลยกลายเป็น Microneedle RF ในปัจจุบัน
ซึ่งต้องให้หมอทำให้
ใช่ครับ
แสดงว่าการซื้อ Derma Roller มาทำเองที่บ้าน หมอไม่แนะนำ
ไม่ค่อยแนะนำ ก็ดีบ้าง แต่เสียมากกว่า แล้วตัวยาที่เอามาหยดก็ไม่ได้ Sterile บางคนเขาจะเอายาราดหน้าแล้วก็ใช้โรลเลอร์ไถหน้าตัวเอง
เพราะฉะนั้นคนที่หวังจะพึ่งหัตถการสไตล์นี้ แนะนำมาทำ Microneedle กับหมอดีกว่า
เวิร์กกว่า แล้วเดี๋ยวนี้มันเป็น Microneedle ผสม RF แปลว่ามันไม่ใช่แค่เอาเข็มมาจิ้ม เอาตัวยาหยด มันมีคลื่นพลังงานใส่ลงไปในเข็มเรื่อยๆ มันใช้รักษาโรคได้จริงครับ รักษาสิวได้ เพราะมันไปรีโมเดลตัวต่อมไขมันในผิวหมดเลย แล้วบางเครื่องก็ปรับคลื่นให้รักษาฝ้าได้แล้ว
ล่าสุดของของเกาหลีกับอินโดนีเซียเขากำลังทดลองอยู่ ใช้ Microneedle RF นี่แหละ ยิงไปในชั้นที่สเต็มเซลล์ของเซลล์ผมอยู่ แต่ยิงเบาๆ นะ ผมขึ้น ไม่ต้องปลูกผม เดี๋ยวนี้มันไปไกลกว่าที่เราคิดเยอะ แต่มันก็ยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัยครับ น่าสนใจ
พูดถึงการใช้ Derma Roller กับใบหน้าแล้ว ปัจจุบันมีการนำมาใช้กับหนังศีรษะด้วยเช่นกัน กรณีนี้หมอกลางยังคงไม่แนะนำเหมือนกันไหม
ใช่ ถ้าความลึกมันไม่ใช่มันก็ไม่โดนสเต็มเซลล์ แต่ยังดีตรงที่ว่ามันไม่ได้มีคลื่นพลังงานแปลกๆ ใส่ลงไป ถ้าเกิดใส่ลงไปแล้วกลายเป็นสเต็มเซลล์ตายผมร่วงเลย หย่อมนั้นพังไปเลย อันนี้แค่เอาไปทำให้เจ็บเล่นๆ เฉยๆ (หัวเราะ)
มันเสี่ยงติดเชื้อได้อีกเหมือนกันใช่ไหม
เสี่ยงติดเชื้อได้ ถ้าเทียบกับหน้าตรงหัวเสี่ยงติดเชื้อมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะมันฆ่าเชื้อยากกว่า
แบบนี้ที่เราเห็นรีวิวตาม TikTok ว่าเวิร์กก็ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของแต่ละบุคคลด้วยไหม
แล้วแต่คนครับ แล้วจริงๆ มันก็ไม่ได้วัดผลได้อย่างแน่นอน เป็นความรู้สึกของเขา ก็เลี่ยงดีกว่า ปลอดภัยไว้ก่อน
มีอีกประเด็นที่ถกเถียงในโลกออนไลน์อย่างการใช้สาร Minoxidil ปลูกผม บ้างเห็นด้วย บ้างไม่เห็นด้วย หมอกลางคิดอย่างไร
Minoxidil เวิร์กอยู่แล้วด้วยตัวมันเอง จริงๆ มันเป็นยาขับปัสสาวะ แต่ผลข้างเคียงคือขนขึ้น เขาก็เลยเอามาใช้รักษาเรื่องผมร่วง มีทั้งแบบทาและแบบกินเลย ราคาก็ดี แต่จริงๆ แบบกินน่ะเห็นผลกว่าเยอะ แต่ข้อเสียคือขนจะขึ้นทั้งตัว ทาก็ได้ แต่ต้องทาตลอดไปนะ คือมันไม่เหมือนเราปลูกผม ถ้าเราปลูกผมเราย้ายรากปักเลยมันก็จะอยู่ตลอดไป แต่ยาคือต้องพึ่งยาตลอด หยุดไม่ได้ ทั้งยากินและยาทาครับ
พูดถึงเรื่องคลินิกกันบ้าง ปัจจุบันคนหันมาดูแลตัวเอง เข้าคลินิกกันไวขึ้น แต่ละคนอาจมีปัญหาไม่เหมือนกัน แต่หากให้หมอกลางเลือกแนะนำหัตถการแรกเริ่มสำหรับคนที่เริ่มอยากเข้าวงการด้วยงบที่จำกัดจะแนะนำอะไร
จริงๆ เด็กๆ ควรเริ่มด้วยโปรแกรมโบท็อกซ์
บางคนอาจบอกว่าตัวเองยังไม่มีริ้วรอยเลย
เดี๋ยวนี้ตามเปเปอร์ โปรแกรมโบท็อกซ์คือฉีดเพื่อป้องกันริ้วรอยในอนาคต ไม่ใช่ว่าฉันเป็นรอยหนักแล้วมาฉีด เพราะว่ารอยมันหายได้แค่ 50% แต่ถ้าเกิดเราไม่เป็นรอยแล้วเราไปหยุดมันไว้บ้าง กล้ามเนื้อขยับน้อยลง มันก็สร้างรอยใหม่น้อยลง นี่แหละ อนาคตจะไม่แก่
หมอฉีดครั้งแรกตอนอายุ 25 ปี เพราะว่าตอนที่เราเรียนหมอเรายังต่อต้าน แต่หมอต่อเขาอีกเจนแล้ว คือเป็นเจนที่ทุกคนน่ะถ้ากินได้กินแล้ว โปรแกรมโบท็อกซ์หมอต่อฉีดตอนอายุ 20 ปี เห็นไหมว่าทุกวันนี้หน้าหมอต่อก็เลยวิงก์กว่าเพื่อน เรื่องการป้องกันนี่เป็นเรื่องจริงนะครับ เพราะฉะนั้นแล้วการที่เรายังไม่มีริ้วรอยนี่แหละคือสิ่งที่เราต้องทำอย่างแรก
แล้วถ้างบไม่ใช่ปัญหา นวัตกรรมตัวไหนในสมัยนี้ที่หมอกลางแนะนำบ้าง
ต้องดูปัญหาละ ถ้างบไม่เกี่ยง ได้หมด แต่ถ้าจะเอาคุ้มๆ สมัยนี้ก็คงเป็น Biostimulator เพราะมันทนกว่าเพื่อน แล้วมันช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้เยอะมาก เยอะกว่าเครื่อง เพราะฉะนั้นแก่ไปเราอาจไม่ต้องไปดึงหน้าก็ได้
เหมือนว่าพอมีตัวนี้มันไปช่วยลดการต้องทำอะไรเยอะๆ ในอนาคต
ใช่ เด็กๆ ใช้โดสน้อย พอยิ่งแก้ปัญหาเยอะก็ยิ่งใช้โดสเยอะ มันเปลืองเงิน
แล้วมีข้อกำหนดไหมว่าควรจะเริ่มฉีด Biostimulator ตอนอายุเท่าไร หรือขึ้นอยู่กับปัญหาผิว
เขาก็จะมี Average Dose เด็กๆ วัย 20 ก็ใช้ 2 ขวด แล้ว 2 ปีทำที
@d_klang Replying to @Sky ที่แปลว่า ท้องฟ้า Sculptra vs Radiesse ควรทำตัวไหน #หมอกลาง #หอสมุดแห่งชาติ #Tiktokuni #sculptra #radiesse @Dermatige_official
จะมีคำพูดที่ว่า ตอนนี้อายุยังน้อยอย่าเพิ่งไปทำ เพราะเดี๋ยวตอนแก่แล้วไปทำจะไม่ได้ผล หมอกลางคิดอย่างไร
คิดว่าไม่จริง จริงๆ ทำตอนนี้ตอนแก่ไม่ต้องทำเยอะก็ได้ เช่น ถ้าไม่ทำตอนนี้แล้วปล่อยเลย โดนดึงหน้าแน่ตอนแก่ ถ้าทำตอนนี้ไปเรื่อยๆ อาจไม่ต้องดึงหน้าในอนาคต แต่ถามว่าที่ทำมาต้องทำต่อไหม ก็ต้องทำ เพราะมันคือ Maintenance
ปัญหาของเด็กคืออย่างนี้ครับ เด็กสมัยนี้ไม่กลัวที่จะทำ แต่เขาเชื่อในมาร์เก็ตติ้งบางอย่างที่มันมากเกินไป เช่น อายุ 20 ปี ฉันต้องทำ Ultherapy ไม่อย่างนั้นฉันจะต้องไปดึงหน้าในตอนแก่ อันนี้มากเกินไป
ถามว่า SMAS ต้องยิงด้วย Ultherapy เสมอไปไหม ไม่ ยิงด้วยเครื่องอะไรก็ได้ แต่ Ultherapy มันยิงแล้วแรงสุด เพราะเม็ดพลังงานมันใหญ่กว่าเพื่อนแค่นั้น แต่ถามว่าจำเป็นต้องใหญ่ขนาดนั้นไหม ไม่ต้องหรอกลูก เปลืองเงินด้วย Ultherapy ช็อตแพง ทำที่มันรองลงมาก่อนได้ แล้วเดี๋ยวถ้าเกิดแก่กว่านั้นน่ะ ถ้าจำเป็นต้องทำ หมอจะบอกเอง
แสดงว่าจริงๆ ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไรก็ตาม สุดท้ายแล้วคนที่จะวิเคราะห์ได้ดีที่สุดคือหมอ
ใช่ คือทำได้ แต่เอาที่เหมาะ
เคยมีเคสคนไข้ที่พีคๆ ต้องรักษาโดยด่วนที่สุดบ้างไหม
จะเป็นเคสที่ฟิลเลอร์อุดตัน ซึ่งมันเกิดได้อยู่แล้ว บางคนจะบอกว่า ฟิลเลอร์อุดตันแสดงว่าหมอไม่ดี ไม่ใช่ จริงๆ เป็นโชค เพราะเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าวันดีคืนดีมันจะอุดตันเมื่อไร อันนี้เป็นอะไรต้องรีบที่สุดในโลก เพราะพอจะเริ่มอุดตันปุ๊บ เส้นเลือดที่มันเลี้ยงเนื้อเยื่ออยู่เป็นเหมือนต้นไม้ครับ เนื้อมันจะตายไปตามต้นไม้นี้เลย แล้วมันจะเห็นกับตาเลยว่ามันซีด
ซึ่งอุดตันไม่เหมือนกับกรณีบูดเบี้ยว
ยังไม่เบี้ยว มันเกือบจะตาย เพราะว่าเลือดไม่ไปเลี้ยง ต้องทำอย่างไรก็ได้ให้มันเลิกอุดตันแล้วให้เลือดไปเลี้ยงอย่างเร็ว
อาการส่วนใหญ่เป็นอย่างไร
คนไข้จะปวดมากๆ แล้วก็จะซีดไปตามเส้นเลือดที่เลี้ยงเลยครับ อันนี้เป็นเคสของน้องหมอท่านหนึ่ง ตอนนั้นอยู่ด้วยพอดีก็เลยได้ช่วยน้อง ยังดีที่เร็ว ไม่อย่างนั้นคนไข้เขาจะแย่เร็วมาก ถ้าปล่อยตายปุ๊บตรงที่เนื้อตายไปแล้วมันจะเป็นโต๊ะจีนของแบคทีเรีย มันจะมากิน มันจะเกิดแผลเรื้อรัง แล้วสุดท้ายระยะยาวจะผิดรูปได้เพราะมันเกิดพังผืด
เคยมีเคสเมื่อ 8 ปีที่แล้วของคลินิกหนึ่ง แต่เราไม่ได้ไปมีส่วนด้วยหรอกครับ คนไข้เป็นคนลาว จะแต่งงานก็เลยมาฉีดฟิลเลอร์ที่เมืองไทย ทีนี้ฉีดไปปุ๊บหมอดีเท็กต์ไม่ได้ว่าเข้าเส้นเลือดแล้วปล่อยกลับบ้านที่ลาว กว่าจะตามตัวกลับมาได้ 2 สัปดาห์ แปลว่าเนื้อมันตายไปเยอะแล้ว ตอนที่คนไข้มาคนไข้เนื้อตายเป็นสีดำแล้วก็ขึ้นเป็นเม็ดหนอง
หมอ 5 คนช่วยกันรักษา คลินิกเขาไม่ได้ปล่อย เขาก็ช่วยกันจนคนไข้ดีแล้วก็โล่งอก คนไข้ดีกว่าที่คิด ปรากฏว่า 1 ปีผ่านไปพังผืดมันเกิด คนไข้จมูกบิดเบี้ยวไปหมดเลย
แสดงว่าถ้ามาทันท่วงทียังแก้ทัน
ต้องแก้ตอนนั้นเลย จริงๆ มันเห็นเลย ถ้าหมอดีเท็กต์ได้มันแก้เดี๋ยวนั้นได้เลย
ต่อให้หมอเก่ง เคสนี้มันก็เกิดขึ้นได้อีกเหมือนกัน
ระดับอาจารย์ก็เกิดบ่อย เพราะว่ายิ่งฉีดเร็วเท่าไรยิ่งเกิดได้ง่าย ความเร็วนี่แหละสำคัญที่สุด เรื่อง Anatomy ด้วย ว่าหมอแม่นแค่ไหน แต่แม่นแค่ไหน ถ้าโชคร้ายมันก็เกิดได้
ซึ่งต่างกับเคสของการฉีดแล้วเป็นก้อน
อันนี้อีกเรื่องหนึ่ง คือฉีดเยอะไป
วางเลเยอร์ผิดเกี่ยวด้วยไหม
เกี่ยว แต่โปรดักต์ก็เกี่ยว โปรดักต์สมัยก่อนมันโบราณ มันไม่ได้เนียนเท่าทุกวันนี้ คือสมัยก่อนมันมีแต่ตัวแข็งหมดเลย ฉีดใต้ตาก็แข็ง หรือถ้าแย่กว่านั้น สมัยก่อนยังไม่มีฟิลเลอร์ที่เป็น Hya เลย มีแต่ฟิลเลอร์ที่มาจากคอลลาเจนจากหนังควายอะไรอย่างนี้ ก็ทำอะไรไม่ได้ แต่เดี๋ยวนี้โชคดีมากเลยครับ มี Biostimulator แล้ว เริ่มใช้ฟิลเลอร์น้อยลง
@d_klang Replying to @Khunkaew04 เรเดี๊ยน vs สารเติมเต็ม #พี่กลางหอสมุดแห่งชาติ #tiktokuni @Dermatige_official
♬ original sound – พี่กลาง หอสมุดแห่งชาติ – พี่กลาง หอสมุดแห่งชาติ
คิดอย่างไรกับการที่คลินิกบอกว่า หัตถการไม่เห็นผลย้ำฟรี
มันแล้วแต่กรณี ถ้าเป็นกรณีที่ทำแล้วไม่ค่อยเวิร์ก เป็นเรื่องเทคนิค เราต้องจัดการ มันเป็นหน้าที่รับผิดชอบของเรา แต่สมมติบางกรณีทำแล้วคนไข้หายไปเลย 6 เดือน แล้วบอกว่าผลลัพธ์หายไปแล้ว อันนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง กรณีมันไปแล้วจริงๆ ก็ต้องคุยกันแหละ เราอยากให้คนไข้สวยเหมือนเรานะ (ยิ้ม)
ถ้าเป็นเราก็คงจะก็คุยกับหมอตรงๆ เหมือนกันว่า ทำไมมันได้แค่นี้เหรอ แต่สมมติหมอบอกว่า แต่หมอกลางอายุ 36 ปีแล้วนะ ช็อตที่ใช้มันก็เท่านี้นะ เราก็คงต้องยอมรับครับ มันมีหลายกรณี ก็ต้องคุยกัน
แสดงว่าจริงๆ ต่อให้หมอเก่งแค่ไหนสุดท้ายมันต้องดูที่อายุ ต้องดูที่ปัญหาของคนไข้ด้วย แต่ละคนปัญหาไม่เท่ากัน
อายุส่งผลอย่างมากในเรื่องความงาม เอาอยู่เอาไม่อยู่เนี่ย อายุนี่แหละสำคัญ อารมณ์ประมาณว่า เราเป็นเบาหวานแล้วเราก็ไปหาหมอ หมอให้ยามา “ทำไมน้ำตาลฉันไม่ลงล่ะ” แต่ฉันกินข้าวเหนียวเปียกลำไยทุกวันเลย อะไรแบบนี้ครับ
เรียกว่ามีหลายปัจจัยที่จะส่งผลให้เห็นผลหรือไม่เห็นผล
ถูก เราก็เต็มที่ แต่บางทีคอลลาเจนคนไข้เป็นคนสร้างเองนะ ก็ต้องช่วยๆ กัน
จริงไหมที่คนอายุเยอะใช้เครื่องยกหน้าแล้วไม่รอด ต้องผ่าตัดดึงหน้าเท่านั้น
มีส่วนที่จริงนะ อาจารย์บางท่าน ถ้าคนไข้อายุ 65 ปี ไม่ให้ทำแม้แต่ Ultherapy แล้ว เพราะเขารู้สึกว่าจะเสียชื่อเขา การที่หมอทำมันเหมือนหมอแค่หว่านเมล็ดลงไป คนสร้างคอลลาเจนคือคนไข้
พอคนไข้อายุเยอะจัดๆ บางคนสร้างคอลลาเจนได้แย่มาก ผลมันก็น้อย อาจต้องมีหัตถการอย่างอื่นช่วย อาจใช้เข็มบ้าง แล้วก็ต้องผ่าบ้าง
มีเคสหนึ่ง ยิง Ultherapy เท่าไรก็ไม่เห็นผลสักที เขาก็เลยไปดึงหน้า ผ่าเข้าไป SMAS หลุด! อันนั้นต้องตัดเย็บ แต่ถามว่าผ่าแล้วจบไหม ไม่จบนะ ต้องทำเครื่องต่อ เพราะสุดท้ายผิวมันก็แย่ลงทุกวัน ถ้าปล่อยไว้ไม่ทำอะไรเลยมันก็ต้องไปดึงใหม่ หมอศัลย์เขาก็จะมี 2 แบบ แบบที่ว่าไปทำมาก่อนให้ตึงทุกชั้นก่อนแล้วเดี๋ยวฉันดึงช่วยให้ นี่แบบที่ 1 แบบที่ 2 คือ ไม่ ฉันทำก่อน เพราะบางทีเธอไปสร้างคอลลาเจนเยอะหน้าเหนียวเกินฉันทำงานยาก อันนี้แตกเป็น 2 ฝั่งชัดเจน
เราคุยกันถึงการดูแลตัวเองด้วยการเข้าคลินิกไปแล้ว ถ้าเป็นการดูแลตัวเองด้วยสกินแคร์ ไม่ว่าจะวัยเลข 2 3 4 สกินแคร์ชิ้นที่หมอกลางแนะนำให้ควรมีติดโต๊ะเสมอ
กันแดดสำคัญสุด เพราะมันตัดต้นตอ ถ้าเด็กน้อย มีวิตามินซี มอยส์เจอไรเซอร์ติดไว้โอเคแล้วนะ ทุกคนจะรู้สึกว่าวิตามินซีกระจอก ใครๆ ก็ใส่วิตามินซีเข้ามาเป็นส่วนผสม จริงๆ มันเก่งนะ แล้วมันทำงานได้หลายอย่าง มันกระตุ้นคอลลาเจนได้ ลดเม็ดสีได้ มันทำให้ผิวแข็งแรง คือมันเป็นแอนติออกซิแดนต์ คุ้มจะตาย ถ้าเรามีปัญหาผิวอื่น เช่น เป็นสิว เราก็ใช้เพิ่มตามอาการ
@d_klang Replying to @ต้นไม้ใบหญ้า ทาวิตซีดีจริงหรือ ??? #การ์นิเย่ไนท์เซรั่ม #กันซีนจุดใหม่ไม่ได้เกิด #หมอกลาง #หอสมุดแห่งชาติ #tiktokuni #เรื่องผิว
♬ original sound – พี่กลาง หอสมุดแห่งชาติ – พี่กลาง หอสมุดแห่งชาติ
ส่วนอายุ 30 ปีขึ้นไป อาจสวนกระแสนิดหนึ่ง เพราะว่าช่วงนี้เขาโจมตีเรตินอล แต่ส่วนตัวเรตินอลมันเป็นเครื่องสำอาง เป็น Ingredient ที่ดีนะ และเห็นผลในระยะยาว เพียงแต่ว่าใช้เป็นหรือเปล่า ถ้าใช้ไม่เป็นมันก็หน้าแหกได้จริงๆ แล้วมันเห็นผลใน 12 สัปดาห์ แปลว่าเราต้องทาเรื่อยๆ ยิ่งถ้าเราผิวบอบบางยิ่งต้องทาตัวเปอร์เซ็นต์เบาๆ ผลที่ได้ต้องรอนานกว่านี้อีก ครีมลดริ้วรอยก็ควรต้องมี
@d_klang Replying to @hNa.songg เรตินอลหน้าแหกจริงมั้ย #หอสมุดแห่งชาติ #เรตินอล #yerpallเรตินอล
♬ original sound – พี่กลาง หอสมุดแห่งชาติ – พี่กลาง หอสมุดแห่งชาติ
เรตินอลไม่เหมาะกับใครบ้างไหม
ถ้าเราซีเรียสกับการดูแลตัวเองมากๆ เราอยากผิวกระชับมากๆ รูขุมขนดีมากๆ ริ้วรอยน้อยมากๆ ก็ใช้เรตินอลช่วยได้ แต่เราต้องเข้าใจว่าเรตินอลไม่ใช่ยา ถ้าฟอร์มยามันคือ Retinoic Acid เป็นแอ็กทีฟฟอร์ม หมายความว่า ทาปุ๊บออกฤทธิ์ทันที อันนี้เป็นยา ต้องมี อย. มารับรอง มีการพิสูจน์เรียบร้อยแล้วว่ารักษาริ้วรอยและสิวได้ แต่เรตินอลไม่ใช่ มันเป็นแค่เครื่องสำอาง
@d_klang Replying to @เจี๊ยบที่ผมบ๊อบๆ มือใหม่ใช้เรตินอลยังไง? #พี่กลางหอสมุดแห่งชาติ #Retinol #เรตินอล #ผิวกลาสสกิน #SKINOXY #ProRetinolSerum เรตินอลสำหรับมือใหม่ #รีวิวเรตินอล #รีวิวบิวตี้
♬ original sound – พี่กลาง หอสมุดแห่งชาติ – พี่กลาง หอสมุดแห่งชาติ
ถ้าพูดถึงกรณีของคนที่ยังไม่อยากพึ่งคลินิกเลยหันไปใช้อุปกรณ์ต่างๆ อย่าง กัวซา ลูกกลิ้งหยก ดูแลผิวหน้า หมอกลางคิดอย่างไรกับอุปกรณ์เหล่านี้
ศาสตร์จีนน่ะเป็นอะไรที่ดีกว่าที่พวกเราคนสมัยใหม่คิด ไม่อย่างนั้นมันอยู่ไม่ได้มา 2,000 ปี มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ตอนนั้นยังเป็นลูกจ้างอยู่ ไม่รู้เป็นอะไรคือคลั่งศาสตร์จีนมาก เพราะว่าเราไปฝังเข็มแล้วเราหาย ออฟฟิศซินโดรม นอนไม่หลับ คือหาย เลยลาออกแล้วไปเรียนฝังเข็มที่จีน
มันทำให้เรารู้ว่ามันมีศาสตร์ที่อธิบายแบบอื่น เรียนแบบ 5 ธาตุ เส้นลมปราณ ไม่ได้เรียน Anatomy แบบเรา มันเป็นเรื่องของพลังงานและฟังก์ชัน อย่างกัวซาต้องทำบ่อยๆ เห็นผลแน่นอน ทั้งเรื่องยกแล้วก็เรื่องผิวที่ดีขึ้นด้วย เห็นจากพี่ที่เป็นคนไข้หลายๆ คนนะ ไม่เคยเข้าคลินิกเลย อายุ 50 ปี แต่หน้าเด็กเท่าเรา เขากัวซาทุกวัน ถ้ามันไม่เห็นผลมันก็ต้องแก่ไปแล้ว มันดีจริง แต่ต้องขยันทำ เดี๋ยวนี้มีกัวซาแบบที่ใส่พลังงาน RF ลงไป กระตุ้นให้เห็นผลเร็วขึ้น แต่มันต้องทำทุกวันเหมือนเดิม
@d_klang Replying to @เก่งที่สุด กัวซาหน้ายกจริงหรือ ?? #หมอกลาง #หอสมุดแห่งชาติ #tiktokuni #กัวซา #นวดหน้ากัวซา #FULICO #สาระ #รักสุขภาพ
♬ original sound – พี่กลาง หอสมุดแห่งชาติ – พี่กลาง หอสมุดแห่งชาติ
เหมือนพวก Microcurrent ที่ทำแล้วจี๊ดๆ ที่หน้าด้วยไหม
เหมือนกัน พวกนี้ก็ต้องทำทุกวัน
แสดงว่าอุปกรณ์ที่เป็น Home Device ใช้ได้ แต่คุณต้องทำทุกวัน
แยกง่ายๆ เลยถ้าเกิดว่าเป็น Clinic Device อยู่ได้นาน แต่มันมีความอันตราย เพราะฉะนั้นคนทำก็ต้องเป็นคนที่เชี่ยวชาญ เขาเลยต้องเอามาไว้ในคลินิกครับ Home Device อย. เขาให้ผ่านแล้ว มันไม่อันตราย คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวยังพอทำเองได้ อันตรายน้อย เพราะฉะนั้นมันจะเบามาก ต้องทำทุกวัน
จากที่หมอกลางมองว่าการฝังเข็มนั้นได้ผล อย่างที่มีการฝังเข็มหน้าใส ลดกระ พวกนี้เวิร์กจริงไหม
เวิร์กแต่ทำสัปดาห์ละ 3 รอบ ก็เอาเรื่องอยู่นะ เจ็บอยู่นะ เพราะมันต้องมี 16 จุด ฉีดทนกว่าเยอะเลยครับ (หัวเราะ)
จากทั้งหมดที่พูดคุยกันมาแล้ว สุดท้ายการจะมีสุขภาพผิวที่ดีมันต้องฟื้นฟูจากภายในไปด้วย
อันนี้เรื่องจริงนะ เพราะว่าโรคหลายโรค ถ้าเป็นมันจะมีสัญญาณที่ผิว เช่น เบาหวานก็มีเป็นปื้นดำๆ จากฮอร์โมนที่ผิดปกติ หรือโรคไตระยะสุดท้ายก็ออกที่ผิวเหมือนกัน ความเครียดก็เกี่ยวกับผิว
@d_klang Replying to @น้องแหมว ความเครียดทำให้หน้าดำจริงหรือ #พี่กลางหอสมุดแห่งชาติ #pwpthailand #Productofthailand #Collagenserum
♬ original sound – พี่กลาง หอสมุดแห่งชาติ – พี่กลาง หอสมุดแห่งชาติ
มันเป็นเรื่องลึกลับทางการแพทย์ คือตอนที่เรายังเป็นตัวอ่อนในท้องแม่ เนื้อเยื่อเราจะแบ่งเป็น 3 ชั้น ชั้นนอกสุดเจริญไปเป็นผิวกับระบบประสาท มันทำให้โรคทางระบบประสาทหลายๆ โรคมาแสดงออกที่ผิวด้วย เช่น บางคนชักแล้วมีปานขึ้นมา ดูเป็นเรื่องศาสตร์มืด แต่มันเป็นเรื่องจริง เพราะว่ามันเคยอยู่ด้วยกันมาตอนอยู่ในท้องแม่
เพราะฉะนั้นถ้าเกิดข้างในมันไม่ดี ข้างนอกมันจะดีไม่ได้ ต้องทำให้ข้างในดี พอข้างในดีปุ๊บ ข้างนอกพอมาทำอะไรมันจะง่าย มีเคสหนึ่งเป็นคนไข้หมอเอง VIP มาก ฉีดฟิลเลอร์ทุก 2 เดือน เพราะอะไรรู้ไหม มันสลายหมด เขาสูบบุหรี่จัดมาก ฟิลเลอร์ปกติอยู่ได้ 2 ปี
คุณพี่อยู่ได้ 2 เดือน ถามว่าคนไข้รู้ตัวไหม รู้ แต่เลิกบุหรี่ไม่ได้ คนไข้บอก “ไม่เป็นไรหมอกลาง พี่รวย เติมไปเลย ไม่อย่างนั้นหน้าพี่ก็เหี่ยว” ยังดีที่คนไข้เข้าใจ
@d_klang Replying to @LV lover ฟิลเลอร์สลายได้ไง #หมอกลาง #หอสมุดแห่งชาติ #tiktokuni #สาระ #ฟิลเลอร์
ถ้าข้างในมันมีสารพิษ ข้างนอกมันจะดีไม่ได้ ฟิลเลอร์มันยังไม่อยู่กับเรา
อีกอันหนึ่ง คนไข้ที่คลินิกของเรามีเยอะมากคือคนไข้ที่เป็นมะเร็ง รักษาหายแล้วบ้าง หรือว่ายังให้คีโมอยู่บ้าง แต่ปกติถ้าให้คีโมอยู่เราจะไม่ทำอะไรเลย เพราะคีโมจะทำให้ทุกอย่างสลายหมด คนไข้กลุ่มนี้ หนึ่ง น่ารักเพราะเหมือนเขาเข้าใจโลกมากขึ้น สองคือ น่าสงสาร เขาเห็นเราเป็นที่พึ่ง พูดแล้วจะร้องไห้ (น้ำตาคลอ) คือดีใจที่เขาเห็นเราเป็นที่พึ่ง เขาบอกว่าไม่รู้จะมีชีวิตอยู่อีกนานแค่ไหน ขอทำสวยได้ไหม…พูดอย่างนี้ทุกคน ดีใจที่เขาเลือกเรา
เรียกว่าเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ประทับใจที่สุด
ใช่เลยครับ จริงๆ ก็มีอีกเหตุการณ์ที่เกิดจากการที่เราทำช่องด้วย เหตุการณ์ต่างๆ ที่นำมาเล่าในช่องช่วยให้คนบางคนฉุกคิดได้ ต้องขอบคุณที่พอใครสงสัยอะไรแล้วเขาเข้ามาถามเรา มันเป็นอะไรที่เราก็สนุกแล้วเขาก็ได้ความรู้ ดีใจที่หลายๆ คนฟังเรื่องของเราแล้วเอามาใช้ในชีวิตประจำวัน บางคนเอาไปเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตก็มี
มีเคสหนึ่งที่สามีสูบบุหรี่จัดมาก ปรากฏว่าแฟนเลิกบุหรี่เพราะฟังเรา เขาเพิ่งรู้ว่า อ๋อ ภรรยาฉันน่ะโดนบุหรี่ยิ่งกว่าฉันอีกนะ แล้วคนที่แย่กว่าคือลูกในท้อง คือเขาน่ารักมาก ทำเพื่อลูกกับภรรยา
การเลิกบุหรี่คือสิ่งดีที่สุดแล้ว เพราะส่วนตัวคุณพ่อก็สูบบุหรี่จัดครับ แล้วเขาก็เลิกเพราะคุณแม่กับหมอ ดีใจครับที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หลายๆ คนมีความสุข ขอบคุณที่ฟังแล้วได้อะไรกลับไปครับ
Dermatige Aesthetics
Open: ทุกวัน เวลา 12.00-20.00 น.
Address: เลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา, Stadium One, Future Park Rangsit, Siam Square One, Central Pinklao
Tel.: 0 2096 6660
Instagram: https://www.instagram.com/dermatige_aesthetics/
Facebook: https://www.facebook.com/dermatige