ถ้าพูดถึงทรงวาด หลายคนน่าจะนึกถึงร้านค้าขายเก่าๆ กลิ่นอายคนจีนเป็นอันดับแรก จึงอาจยังไม่รู้ว่าท่ามกลางตึกแถวอายุร่วมร้อยปีตลอดถนนเส้นนี้มีการดัดแปลง สอดแทรกความทันสมัยโดยคนรุ่นใหม่เข้าไปอยู่ทุกมุม จนตอนนี้กลายเป็นย่านน่าค้นหาและมีเสน่ห์มากที่สุดแห่งหนึ่งเลยล่ะ
เราจึงจะพาทุกคนไปเดินเล่น ‘ย่านทรงวาด’ ที่ตอนนี้มีอะไรใหม่ๆ น่าสนใจเกิดขึ้นเต็มไปหมด ทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ แกลเลอรี หรือแม้กระทั่งบาร์ก็น่าแวะไปนั่งพักดื่มชิลๆ จนค่ำคืน
ถ้าใครพร้อมเปลี่ยนบรรยากาศไปเดินเท้าถ่ายรูปสตรีท แวะกินขนมจิบกาแฟ และชิมอาหารที่ร้านเด็ดประจำย่านกับเราแล้ว มาดูกันเลยว่าทริป 4 HOURS: ทรงวาด จะพาทุกคนแวะไปไหนกันบ้าง
EAT
เปิดด้วยร้านอาหารเผื่อใครกลัวเดินเล่นแล้วหิว หรือจะเริ่มต้นทริปด้วยร้านเด็ดประจำย่านไปเลยก็ให้มาที่นี่ เพราะ ‘โรงกลั่นเนื้อ’ เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อเปิดใหม่ อยู่ติดริมถนนทรงวาด ร้านเปิดอยู่ในตึกแถวเก่าที่เก็บร่องรอยเดิมเอาไว้ ทั้งบันไดไม้สูงหรือช่องบนพื้นไม้ด้านบนที่บ้านคนจีนสมัยก่อนต้องมีแทบทุกหลัง
เมนูเด็ดของร้านคือก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นซุปไขกระดูก ราคาเริ่มต้น 95-250 บาท อย่าลืมสั่งปาท่องโก๋มากินพร้อมเส้นด้วยล่ะ โดยร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 10.00 น.
ไอศกรีมเกาลัดหิมะหนูรี่
อย่าตกใจว่ากำลังเดินเข้าบ้านใครหรือเปล่า เพราะจริงๆ แล้วที่นี่คือร้านไอศกรีมเกาลัดเจ้าดังเก่าแก่ประจำเยาวราชที่เปิดมานานหลายสิบปี โด่งดังจากเมนูเกาลัดหิมะที่ต้องกินเย็นๆ เท่านั้น
ร้านมีวิธีปรุงเกาลัดให้ได้รสชาติไม่เหมือนใคร เสิร์ฟเป็นท็อปปิ้งแน่นๆ ให้เรากินพร้อมไอศกรีม ราคาเริ่มต้น 40-90 บาท โดยเมนูแนะนำก็คือไอศกรีมเกาลัดวอดก้า
อี_กา
ใครอยากกินข้าวก็ให้เดินเลยมาอีกหน่อย จะมีร้านอาหารไทยโดยทีมร้าน It’s Happened to be A Closet เปิดอยู่ ชื่อว่าร้าน ‘อี_กา’ เสิร์ฟเมนูอาหารไทยจากหลายภาค หลายวัฒนธรรม ชวนให้เราคิดถึงรสชาติที่เคยกินตามสถานที่ต่างๆ ที่เคยเดินทางไป
ถ้าใครมาหลายคนเราแนะนำให้แวะ เพราะจะได้สั่งอาหารหลายๆ อย่างมากินด้วยกัน มีเมนูน่าสนใจ เช่น หมี่กรอบอี_กา (220 บาท) พะโล้ไข่เค็ม (220 บาท) ปลาคังทอดน้ำปลา (490 บาท) โดยร้านเปิดเวลา 10.00 น. และปิดทุกวันพุธ
Potong
ในย่านทรงวาดมีร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งอันโด่งดังอยู่ด้วย เราแนะนำเผื่อว่าใครอยากเดินเล่นแล้วมาจบวันด้วยการกินมื้อค่ำพิเศษๆ ที่นี่ เพราะคอร์สเมนูของ Potong ได้แรงบันดาลใจมาจากย่านทรงวาด รวมถึงวัฒนธรรมอาหารไทย-จีนที่นำมาเล่าใหม่ในรูปแบบ Potong เช่น ขนมไหว้พระจันทร์ไส้ปลาหยอง ราดหน้า น้ำแข็งไส
เราแนะนำให้จองล่วงหน้า ร้านปิดทุกวันอังคาร-พุธ เริ่มเสิร์ฟรอบแรกตั้งแต่เวลาเย็น 17.30 น. และสามารถเดินมาได้จากถนนทรงวาด
เอฟวี
ระหว่างทางก็พักกินของหวาน-ของว่างกันหน่อย ร้านนี้อยู่ไม่ไกลจากร้านอี_กา แค่ลุกแล้วเดินเข้าประตูถัดไปก็เจอเลย ‘เอฟวี’ เป็นคาเฟ่ขนมไทยบรรยากาศสุดเก๋ เพราะผสมความเก่าเข้ากับความทันสมัยได้น่าสนใจมากๆ ตั้งแต่การตกแต่งไปจนถึงเมนู
ร้านจะใช้วัตถุดิบแปลกใหม่หรือวัตถุดิบที่เรามองข้ามมาทำอาหาร เช่น ชาไมยราบ (105 บาท) น้ำผักกระสัง (145 บาท) ไอศกรีมเกล็ดน้ำแข็งแตงโมปลาแห้ง (125 บาท) หรือขนมไทยอย่างโสมนัสก็มี
เข้าไปแล้วจะเห็นบ้านไม้ที่นำเข้ามาตั้งไว้ให้ขึ้นไปนั่งเป็นชั้นสองได้ด้วย บ้านมีความพิเศษตรงเชื่อมต่อโดยไม่ใช้ตะปูตามวิธีคนโบราณ ที่นี่เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 น. เช่นกัน อ้อ! ร้านนี้ไม่มีกาแฟนะ
Vahap
ร้านกาแฟสเปเชียลตี้บนชั้น 3 ของตึกเก่าใจกลางเยาวราช ด้านล่างยังคงเปิดเป็นกิจการร้านรองเท้าของครอบครัวเจ้าของตึก ส่วนด้านบนรีโนเวตใหม่ให้กลายเป็นร้านกาแฟบรรยากาศสงบๆ ที่มาพร้อมแสงแดดและวิวย่านเยาวราชที่คึกคักตลอดกลางวัน
เมล็ดกาแฟที่นี่นำมาจากโรงคั่ว Samadool และมีให้เลือกหลากหลาย มีเครื่องดื่มให้สั่งครบทุกเมนูเบสิก เช่น Iced Long Black (150-180 บาท) แนะนำให้ลองจับคู่กับเบเกอรีเพิ่มความอิ่ม เช่น Sausage Croissant (180 บาท)
Arteasia
อีกร้านที่อยากแนะนำเพราะเต็มไปด้วยเมนูขนมครีเอทีฟ ที่นี่นำเมนูอาหารไทย-จีนมาเล่าใหม่ด้วยการทำเป็นทาร์ต เสิร์ฟให้เรานั่งกินพร้อมชาหอมๆ (175 บาท) ที่มีให้เลือกหลายชนิด เราไปครั้งแรกจึงสั่งชุด Tasting Menu (390 บาท) มาลอง เป็นทาร์ต 5 รสชาติที่ได้แรงบันดาลใจมาจากขนมเทียน เป็ดพะโล้ เปียกปูน มะพร้าวใบเตย และส้มฉุน
Arteasia อยู่ใกล้ร้านก๋วยเตี๋ยวโรงกลั่นเนื้อ ซ่อนอยู่บนชั้น 2 ของตึกเก่าร้อยปี เปิดเวลา 10.00 น. และปิดทุกวันจันทร์
Drink
Photo: Opium Bar / turquoisetruck
BARBON ตั้งอยู่ชั้นบนสุดของโฮสเทลวิวริมแม่น้ำ ไฮไลต์ของที่นี่จึงไม่พ้นระเบียงด้านหลังบาร์ที่มองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาแบบพาโนรามา แถมมาในบรรยากาศสงบ หากวันไหนนักท่องเที่ยวไม่เยอะ
ส่วนเครื่องดื่มจะเน้นเมนูค็อกเทลคลาสสิก และค็อกเทลซิกเนเจอร์ที่มีการปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ให้คนแวะมาได้ไม่เบื่อ หรือใครเป็นคอคราฟต์เบียร์ที่นี่ก็มีเช่นกัน โดยเครื่องดื่มจะเริ่มต้นที่ 220-270 บาท
We Didn’t Land on the Moon Since 1987
ถ้าอยากนั่งพักแบบสบายๆ พร้อมเครื่องดื่มเข้าใจง่ายจิบได้ทั้งคืนขึ้นมาหน่อย แนะนำให้แวะไปบาร์แห่งนี้ที่อิมพอร์ตมาจากเชียงใหม่ เป็นร้านนั่งดื่มสุดจี๊ดที่มาพร้อมไฟนีออนสีแดง และเสิร์ฟเครื่องดื่มไม่ซับซ้อน เช่น ค็อกเทลคลาสสิกหรือเบียร์
บางวันมีดนตรีสดด้วย สามารถติดตามได้ที่เพจของร้าน โดยเปิดเฉพาะวันศุกร์-เสาร์ ตั้งแต่เที่ยงวันจนเที่ยงคืน
Walk
Elephants by ROA
กินจนอิ่มแล้วก็ได้เวลาเดินเล่นแบบจริงจัง ทรงวาดมีสตรีทอาร์ตประจำย่านที่ต้องแวะไปดูให้ได้อยู่ เป็นชิ้นงานรูปช้างสีขาวดำ 2 ตัว วาดโดย ROA ศิลปินชาวเบลเยียมที่มีผลงานเป็นเอกลักษณ์ปรากฏบนกำแพงหลายแห่งทั่วโลก ด้วยการใช้สีโมโนโครมและวาดรูปอย่างมีมิติ
ชิ้นงานนี้จะอยู่บนกำแพงในลานจอดรถริมถนนทรงวาด แวะถ่ายรูปได้แต่ต้องระวังรถเข้า-ออกกันด้วยนะ
PLAY art house
อดีตโกดังเก็บรองเท้าที่ผันตัวมาเป็นแกลเลอรีประจำย่านทรงวาด ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากรูปสตรีทอาร์ตด้านบน สามารถเดินมาได้เพียงอึดใจเดียวเช่นกัน PLAY art house จะมีนิทรรศการหมุนเวียนมาจัดอยู่เรื่อยๆ ให้พวกเราแวะชมได้ฟรีๆ
แกลเลอรีจะสะดุดตาด้วยหน้าตึกสีน้ำเงินที่ดูตัดกับรอบข้าง รับรองหาเจอไม่ยาก โดยเปิดให้บริการตั้งแต่ 11.00 น. และปิดทุกวันจันทร์
ทริปนี้เราใช้เวลาเดินไม่นาน เพราะแต่ละที่อยู่ห่างกันไม่มากเท่าไร ระหว่างทางมีตึกเก่า ตลาดในย่าน หรือร้านต่างๆ ให้แวะกินแวะถ่ายรูปเล่นได้เพลินๆ ทุกคนจะไปตามพิกัดทั้งหมดเลยก็ได้ หรือใครจะแวะเฉพาะจุดที่สนใจก็ไม่ว่ากัน