หลี่เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีของจีน แสดงความเห็นเมื่อวันพุธที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ว่า ในการเผชิญกับสถานการณ์ระหว่างประเทศและภูมิภาคที่ซับซ้อนในปัจจุบัน ความร่วมมือระหว่างจีนและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อประชาคมโลกในการรับมือความท้าทายที่เกิดขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนมากมาย
ความเห็นดังกล่าวมีขึ้นระหว่างที่หลี่ได้ต่อสายตรงพูดคุยกับ คริสตาลินา จอร์จีวา กรรมการผู้จัดการ IMF โดยนายกรัฐมนตรีจีนเน้นย้ำว่า จีนยินดีที่จะมีบทบาทที่สร้างสรรค์ในการแก้ไขปัญหาหนี้ของประเทศที่เกี่ยวข้องภายในกรอบพหุภาคี และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายดำเนินการร่วมกันและแบ่งปันความรับผิดชอบอย่างเป็นธรรม ในการช่วยให้ประเทศที่มีรายได้น้อยเอาชนะความยากลำบากทางเศรษฐกิจ
หลี่กล่าวว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนกำลังมีเสถียรภาพและเพิ่มขึ้น และมีพื้นที่กว้างสำหรับการพัฒนาในอนาคต เห็นได้จากการที่เศรษฐกิจจีนยังคงเติบโตอย่างมั่นคงในปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังสามารถป้องกันภาวะเงินเฟ้อ โดยดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเพียง 2% เมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกที่สูงมากในเวลานี้
ขณะเดียวกันในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด เศรษฐกิจจีนก็ยังมีการเติบโตในอัตราเฉลี่ยต่อปีที่ 4.5% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลก และขณะนี้ก็กำลังฟื้นตัวอย่างมั่นคง
ด้านจอร์จีวากล่าวว่า เศรษฐกิจของจีนดำเนินไปได้ด้วยดี ก่อนชื่นชมว่า จีนมีส่วนสนับสนุนในเชิงบวกต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโลก และจะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกต่อไป โดย IMF เพิ่งปรับเพิ่มการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนปีนี้ขึ้นมาอยู่ที่ 5.2%
ตงเช่าเผิง นักวิจัยอาวุโสของสถาบัน Chongyang Institute for Financial Studies แห่งมหาวิทยาลัยเหรินหมินของจีน กล่าวว่า จีนทำผลงานได้ดีในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งต้องยกเดรดิตความชอบให้กับมาตรการของรัฐบาลที่สอดคล้องและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้มาตรการควบคุมทั้งในตลาดสปอตในประเทศและตลาดฟิวเจอร์ส เพื่อควบคุมการเก็งกำไรและการกักตุนในตลาด ซึ่งช่วยให้มีการควบคุมการขึ้นราคาอย่างมีประสิทธิภาพในด้านต่างๆ ตั้งแต่สินค้าโภคภัณฑ์ประจำวัน เช่น เนื้อหมู ไปจนถึงสินค้าต้นทุน เช่น ไฟฟ้า
สำหรับมาตรการด้านการเงินนั้นตงชี้ว่า จีนจัดการเน้นไปที่มาตรการเติบโตในระยะยาวที่เหมาะสมและเพียงพอสำหรับการจัดหาเงิน ซึ่งช่วยให้จีนสามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญกว่านั้น ความพยายามในการกลับมาเปิดประเทศและดำเนินกิจกรรมการผลิตอีกครั้ง ยังมีบทบาทสำคัญในการรักษาเสถียรภาพและการจัดหาวัสดุที่ดี เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด
ทั้งนี้ รายงานของ IMF ประจำเดือนกุมภาพันธ์ ระบุว่า เศรษฐกิจจีนคาดว่าจะฟื้นตัวในปีนี้ เนื่องจากการเคลื่อนไหวและกิจกรรมต่างๆ ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโลก โดยเศรษฐกิจจีนจะมีส่วนร่วมถึง 1 ใน 3 ของการเติบโตทั่วโลกในปีนี้
จอร์จีวายังใช้โอกาสนี้กล่าวชื่นชมทัศนคติเชิงบวกและสร้างสรรค์ของจีน รวมถึงความพยายามในการสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาในการแก้ไขปัญหาวิกฤตหนี้ และยินดีที่จะเสริมสร้างการประสานงานและความร่วมมือกับจีนในเรื่องนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ผู้นำ IMF เตือนปี 2023 เศรษฐกิจโลกจะเผชิญกับ ‘ความยากลำบาก’ มากขึ้น
- IMF เตือนการแยกส่วนของเศรษฐกิจโลก อาจสร้างความเสียหายมากถึง 7% ของ GDP โลก
- คริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้นำ IMF ชี้ การเปิดประเทศของจีนจะเป็นกุญแจสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้
อ้างอิง: