นาทีนี้บอกได้เลยว่าไม่มีอะไรฮอตไปกว่าการเปิดตัวของ ‘ล้ง 1919’ ไลฟ์สไตล์ คอมมูนิตี้แห่งใหม่ที่ทำให้ย่านเก่าอย่างคลองสาน และท่าดินแดงกลับมาอยู่ในสปอตไลต์ของกรุงเทพฯ อีกครั้ง หลังจากเคยเฟื่องฟูอย่างสูงสุดในสมัยรัชกาลที่ 4 ในฐานะสถานที่ตั้งของ ‘ฮวง จุ่ง ล้ง’ ท่าเรือกลไฟขนาดใหญ่ที่นำสินค้าจากไทยโดยเฉพาะข้าวส่งไปขายไกลยังสิงคโปร์, ฮ่องกง และจีน ซึ่งนั่นทำให้พื้นที่ฝั่งตรงข้ามตลาดน้อย เยาวราชเป็นอีกชุมชนชาวจีนที่เข้มแข็ง โดยมีความคึกคักของฮวย จุ่ง ล้ง ขนาด 6 ไร่เป็นศูนย์กลาง
หลายคนรู้จักล้งว่าเป็นบ้านเก่าแก่ของตระกูลหวั่งหลี ทว่าผู้ก่อตั้งฮวย จุ่ง ล้ง ได้แก่ พระยาพิศาลศุภผล ต้นตระกูลพิศาลบุตร ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการโรงสีใหญ่สมัยนั้น ต่อมาเมื่อรัฐบาลก่อตั้งการท่าเรือแห่งประเทศไทยขึ้น ท่าเรือกลไฟของเอกชนฮวย จุ่ง ล้ง จึงลดบทบาทลงและเปลี่ยนมือมาเป็นของ นายตัน ลิบ บ๊วย ต้นตระกูลหวั่งหลี เพื่อใช้เป็นโกดังเก็บสินค้าของตระกูล ก่อนที่จะมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ เปลี่ยนจากที่อยู่อาศัยและโกดังสินค้าเป็น ‘ล้ง 1919’ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ครบเครื่องทั้งเรื่องประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม งานศิลปะ อาหาร ร้านช้อปปิ้ง กิจกรรมเด่นเหล่านี้ที่เราได้ปักหมุดให้เป็นเช็กลิสต์ห้ามพลาดประจำ ‘ล้ง 1919’
1. สักการะเจ้าแม่หม่าโจ้ว 3 ปาง
อย่าแปลกใจหากเข้าไปในร้านขายของที่ระลึกประจำ ล้ง 1919 แล้วจะพบกับเซตธูปไหว้เจ้า ตั้งแต่ราคาหลักสิบไปจนถึงหลักร้อย เพราะ ล้ง 1919 เป็นสถานที่ตั้งของศาลเจ้าแม่หม่าโจ้วมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 โดยเจ้าแม่หม่าโจ้วนั้นเป็นเทพด้านการเดินทะเลของชาวฮกเกี้ยนและแต้จิ๋ว ส่วนความแตกต่างของศาลเจ้าแม่หม่าโจ้วแห่งคลองสานก็คือเป็นที่ประดิษฐานครบทั้ง 3 ปางตามความเชื่อของชาวจีน คือ ปางเด็กสาว หรือ ‘จุ้ยบ๋วยเนี้ย’ ซึ่งชาวจีนนิยมมาขอพรเรื่องความรัก การมีบุตร และการเดินทางที่ราบรื่น ต่อมาคือ ปางผู้ใหญ่ หรือ ‘ให่ตั้งหม่า’ ซึ่งประทานพรด้านโชคลาภ เงินทอง การทำมาค้าขาย ส่วนปางที่สามเป็นปางเทพ หรือ ‘เทียนโหวเชี่ยบ้อ’ ซึ่งเป็นปางที่ประทับอยู่บนสวรรค์ ให้พรเรื่องสุขภาพที่แข็งแรง ครอบครัวอบอุ่น และเป็นเทพที่เชื่อกันว่าจะรักษาทรัพย์ให้ลูกหลาน โดยองค์หม่าโจ้วทั้ง 3 ปางนี้ถูกอัญเชิญมาจากเมืองจีน แกะสลักจากไม้งดงามมาก
2. ชมสถาปัตยกรรมจีนโบราณ ซาน เหอ ย่วน
แม้ ล้ง1919 จะเป็นอาคารเก่าแก่ที่มีกลิ่นอายความเป็นจีนเหมือนอาคารในแถบเยาวราช ทว่ากลับแตกต่างด้วยสถาปัตยกรรมจีนโบราณที่เรียกว่า ‘ซาน เหอ ย่วน’ หมายถึงการสร้างอาคาร 3 หลังที่เชื่อมถึงกันได้เป็นรูปตัว U มีสนามหน้าอยู่ตรงกลาง ทั้งยังหันหน้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เรียกว่าถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยจีนในทุกกระเบียด โดยอาคารทั้ง 3 ก่ออิฐถือปูนมีพื้นและเสาเป็นไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งยังคงความแข็งแรงมาจนถึงปัจจุบัน และอีกสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะพบเจอในกลุ่มอาคารจีนโบราณ ฮวย จุ่ง ล้ง ก็คือภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังบริเวณขอบหน้าต่างและประตู ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิต และธรรมชาติในเมืองจีน โดยส่วนหนึ่งของภาพเขียนฝาผนังอายุ 167 ปีเหล่านี้ได้ซ่อนอยู่ใต้ชั้นสี ที่ผู้อยู่อาศัยก่อนหน้านี้ได้ทาทับผนังไว้ และหนึ่งในบุคคลสำคัญที่มาร่วมบูรณะภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ ล้ง 1919 ก็คือ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
3. ชมบ้านเก่าต้นตระกูลหวั่งหลี
นอกจากประวัติศาสตร์ของท่าเรือฮวย จุ่ง ล้ง แล้ว การเปิดพื้นที่ ล้ง 1919 ยังทำให้คนภายนอกได้มีโอกาสเห็นบ้านของต้นตระกูลหวั่งหลี ซึ่งเป็นบ้านจีนโบราณ 2 ชั้นสีขาว ประดับซุ้มประตูด้วยกระเบื้องเคลือบเป็นดอกไม้นานาพันธุ์ตามความนิยมในสมัยต้นรัชกาลที่ 4 มากกว่านั้นคือการจัดวางโครงสร้างบ้านตามหลักฮวงจุ้ยจีนที่เน้นความสมมาตร มีประตูสองชั้น แบ่งบันไดทางเดินสำหรับประมุขของบ้าน ผู้ชายและผู้หญิงตามคติจีนสมัยก่อน ซึ่งแม้จะได้ชมเพียงภายนอก แต่ก็สามารถสะท้อนวัฒนธรรมจีนบนลุ่มเจ้าพระยาออกมาได้อย่างชัดเจน
4. ถ่ายรูปคู่กราฟฟิตี้
มาถึงล้งทั้งทีอย่าลืมมองหากราฟฟิตี้ที่เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ พร้อมถ่ายรูปคู่เก๋ๆ เก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก ไม่ว่าจะเป็นรูปหญิงสาวในชุดจีนโบราณ และรูปเด็กๆ ที่กำลังปีนป่ายขอบหน้าต่างแอบดูความเคลื่อนไหวภายในล้ง 1919
5. ชิมอาหารไทยซีฟู้ดที่ร้าน ‘โรงสี’
ใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้รสมือคุณปลา-อัจฉรา บุรารักษ์ แห่ง iberry ‘โรงสี’ เป็นอีกสาขาความอร่อยใหม่ล่าสุดในเครือ iberry ที่ตั้งอยู่ประชิดติดท่าเรือ โดยบรรยากาศด้านในนั้นเน้นความโปร่งโล่ง เพดานสูง ตามโครงสร้างเก่าซึ่งเป็นส่วนของอาคารโกดังเก็บสินค้า เก๋ด้วยการทำไม้ กระเบื้อง ราวลูกกรงไม้ที่เคยเป็นส่วนประกอบของ ฮวย จุ่ง ล้ง มาตกแต่ง ส่วนในเรื่องอาหารนั้นแตกต่างจากสาขาอื่นด้วยการเน้นวัตถุดิบซีฟู้ดและแม่น้ำเป็นหลัก เช่น กุ้งแม่น้ำ
6. ‘นายห้าง’ สตรีทฟู้ดพรีเมียม
ร้านอาหารตกแต่งชิคภายใต้การบริหารงานของคุณประเวศวุฒิ ไรวา แห่ง S&P เน้นคอนเซปต์ไปที่สตรีทฟู้ดพรีเมียม ยกระดับอาหารสตรีทฟู้ดของไทยให้กลายเป็นจานอร่อย อัดแน่นด้วยคุณภาพของวัตถุดิบ
7. คาเฟ่ย้อนยุค ‘เพลินวาน พาณิชย์’
ใครที่ชอบการตกแต่งแบบไทยเรโทรต้องแวะมาเช็กอินที่คาเฟ่ เพลินวาน พาณิชย์ ซึ่งเป็นสาขาของเพลินวานที่โด่งดังในอำเภอหัวหิน มุมนี้เน้นเครื่องดื่ม กาแฟ ชา และขนมกินเล่นรองท้อง
8. ‘Karmakamet’ เสิร์ฟกลิ่นหอมพร้อมคาเฟ่เอาต์ดอร์สุดเก๋
แม้แต่แบรนด์เครื่องหอมสัญชาติไทยอย่าง Karmakamet ก็ยังมาเปิดสาขาที่ล้ง 1919 ซึ่งแม้ตัวร้านจะอยู่ในบรรยากาศบ้านจีนโบราณ แต่ Karmakamet ก็สามารถใส่ความโมเดิร์น และเรียบหรูอันเป็นดีเอ็นเอลงไปได้ และไม่เพียงแต่เปิดขายเครื่องหอมอย่างเดียวเท่านั้น ที่นี่ยังเตรียมเปิดคาเฟ่เอาต์ดอร์รับลมหนาว รับประกันว่าตกแต่งเก๋ให้สาวก Karmakamet ได้กรี๊ดกันอีกด้วย
9. ช้อปสินค้าใน Art & Craft Zone
นอกจากโซนร้านอาหารแล้ว ล้ง 1919 ยังมีโซน Art & Craft ที่เต็มไปด้วยร้านขายงานอาร์ต งานดีไซน์ ทั้งแบรนด์ไทย แบรนด์นอกไม่ซ้ำใคร เช่น Lotus Arts de Vivre ร้านขายเครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์หรูและล้ำ Poungphet by BPC ร้านเซรามิกจากลำปางที่มีเอกลักษณ์ด้านการทำพื้นผิว Mine Crafteria ร้านขายเครื่องหนัง ที่จัดเวิร์กช็อปเครื่องหนังให้ได้ออกแบบเครื่องหนังของตัวเอง หรือจะเป็น Room 5 D ก็เป็นร้านมัลติแบรนด์ที่เลือกเครื่องประดับ แอ็กเซสซอรีมาได้อย่างมีดีไซน์ไม่ซ้ำใคร
10. Creative Space
หลังจากนี้ชื่อของ ล้ง 1919 จะกลายเป็นหนึ่งในลิสต์กิจกรรมประจำเดือนที่ห้ามพลาด เพราะสถานที่แห่งนี้ได้ประกาศตัวเป็นอีกหนึ่งในการเปิดพื้นที่สร้างสรรค์รองรับทุกไอเดียที่จะเข้ามาทำให้อาคารเก่า และย่านเก่ากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา เราและรวมทั้งอากง อาม่าในชุมชน ก็ได้มีโอกาสนั่งล้อมวงชมงิ้วจีนที่มาเล่นตลอดสุดสัปดาห์การเปิดตัวของล้ง 1919 ไปแล้ว และต่อไปจากนี้จะมีกิจกรรมอะไรต่อไปบ้าง ต้องคอยติดตามชมกันเป็นระยะ
Photo: ล้ง 1919 / ศรัณยู นกแก้ว
- Address: 248 ถนน เชียงใหม่ แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพฯ โทร. 09-1187-1919
- Facebook: LHONG 1919
- ศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว และ Art & Craft เปิดบริการทุกวัน เวลา 8.00 – 20.00 น. โซนร้านอาหาร เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00 – 22.00 น.
- มีเรือของ ล้ง 1919 บริการจากท่าเรือสี่พระยา และสาทร โดยวันจันทร์ – ศุกร์ ให้บริการ เวลา 10.00-20.00 น. เสาร์-อาทิตย์ ให้บริการ เวลา 8.00-20.00 น