×

อยู่องค์กรใหญ่มานานจนเบื่อ ถ้าย้ายไปอยู่สตาร์ทอัพเล็กๆ บ้างจะรอดไหม

09.05.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • สถานที่ที่เรารู้ว่าจะมีอันตรายอะไรบ้างคือสถานที่ปลอดภัยกว่าที่เราไม่รู้เลยว่ามีอันตรายอะไร เห็นอันตรายตรงหน้าแล้วหาทางป้องกัน กำจัดอันตรายนั้นได้ก็ดีไป หรือเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันแบบที่จะไม่เจ็บตัวมาก ถ้าเราตั้งอยู่กับความคิดว่าทุกอย่างไม่มั่นคง มันเปลี่ยนแปลงได้เสมอ เราก็จะอยู่กับงานได้โดยไม่ประมาท
  • องค์กรใหญ่และองค์กรเล็กมีดีหมด อยู่ที่เราอยากได้ชีวิตแบบไหน ที่ไหนที่มันใช่สำหรับเรา เราก็จะเปล่งประกายเอง ความเท่ความเก๋มันไม่ได้อยู่ที่เราอยู่องค์กรไหน มันอยู่ที่เราทำงานนั้นอย่างไรมากกว่า

Q: อยู่องค์กรใหญ่มานานเป็น 10 ปี เริ่มรู้สึกว่า Career Path ตันแล้ว และรู้สึกว่าทุกอย่างนิ่งมากจนน่าเบื่อ ตอนนี้มีงานใหม่มาเสนอแต่เป็นองค์กรสตาร์ทอัพ เพิ่งเริ่มธุรกิจได้ไม่นาน แต่ก็มีท่าทีว่าน่าจะไปได้สวย แต่ก็กังวลกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เหมือนกัน เพราะอยู่ที่เก่าเป็นองค์กรใหญ่ก็สบายดี มีความมั่นคง แต่ก็น่าเบื่อ จะไปที่ใหม่ก็เป็นที่เล็ก แต่ก็ดูจะมีอะไรใหม่ๆ ไม่รู้จะเลือกอะไรดีครับ

 

A: ไม่มีงานอะไรเพอร์เฟกต์จริงๆ ครับ มีข้อดีข้อเสียที่เราต้องเอามาพิจารณากันดูทั้งหมด และเราต้องรับมันได้ทั้งหมด ทั้งข้อดีและข้อเสียนั่นแหละครับ แต่เวลาเห็นข้อเสียของตัวเลือกแล้วอย่าเพิ่งใจเสียหรือขีดฆ่ามันไป ให้ดูว่าข้อเสียนั้นเป็นข้อเสียที่เรายอมรับได้ไหม ที่สำคัญคือข้อเสียนั้นเราสามารถแก้ไขได้หรือเปล่า ถ้าแก้ไขไม่ได้แน่ๆ เราคิดว่าเราจะอยู่กับมันได้ไหม หรือจะปรับตัวอย่างไร

 

อยู่องค์กรใหญ่มีข้อดีแน่นอนว่า อยู่มานาน ผ่านร้อนผ่านหนาวมา มีชื่อเสียงสั่งสมที่ทำให้เรารู้สึกมั่นใจว่าเป็นองค์กรที่น่าเชื่อถือ มีความมั่นคง ถ้าไม่แน่จริงองค์กรก็ไม่น่าจะอยู่รอดมาได้ถึงวันนี้ มีระบบการทำงาน มีคนสอนงาน มีอำนาจในมือที่ทำให้เราทำงานง่ายขึ้น เช่น เป็นองค์กรใหญ่ที่มีคอนเน็กชันกว้างขวาง เราเชื่อมโยงในการทำงานได้ง่าย เพราะมีความสัมพันธ์ถึงกันอยู่ ไปไหนมาไหนใครก็รู้จักและอยากทำงานด้วย อยู่องค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงที่ดีอยู่แล้วเราก็ภูมิใจไปด้วย ยิ่งถ้าองค์กรนั้นมีวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มข้น เราไปอยู่แล้วเหมือนได้อยู่ในเบ้าหลอมที่ดี เราก็เติบโตมาเป็นคนที่เก่ง ข้อดีอีกอย่างที่เห็นชัดในองค์กรใหญ่คือการมี Tools ต่างๆ ที่ช่วยในการทำงานมาเรียบร้อยแล้ว มีการสะสมข้อมูลไว้มากมาย หรือมีระบบการทำงานที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายในต่างประเทศได้ ทำให้เวลาทำงานก็ล้ำไปอีกแบบ

 

แต่อย่างที่คุณสัมผัสได้นั่นแหละครับว่าอยู่ไปนานๆ งานหลายๆ อย่างก็อาจจะเดาได้แล้ว ชีวิตเริ่มนิ่ง บางทีอยู่แล้วสบายเกินก็จะทำงานแบบนิ่งๆ ไม่ได้คิดอะไรใหม่ ทำงานตามระบบ ทำอะไรแบบเดิมๆ ซ้ำซากมันก็เบื่อ มันรู้สึกว่าตัวเองไม่พัฒนา รู้สึกตัวเองไม่มีค่า ที่น่ากลัวกว่านั้นคือบางคนไปอยู่ในองค์กรที่ใหญ่มาก ใหญ่จนรู้สึกว่าเขาตัวเล็กนิดเดียวจนไม่ได้มีค่าต่อองค์กร คนทำงานเป็นหมื่นคน ขาดเราคนเดียวจะเป็นอะไรไป หรือเราเป็นแค่หนึ่งในหมื่น เขาจะเห็นไหมว่าเรามีความสำคัญ คนบางคนก็อาจจะรู้สึกแบบนี้ และองค์กรใหญ่บางทีก็ใช่ว่า Career Path จะดี เพราะพอคนเก่าอยู่นาน เกาะขาเก้าอี้ไว้แน่น ทางที่เราจะได้เลื่อนตำแหน่งก็คือต้องรอให้คนเก่าออกไปก่อน ซึ่งเขาอยู่สุขสบายอยู่แล้วก็คงไม่อยากออก เราก็อาจจะต้องอยู่แบบงืดๆ ไปเรื่อยๆ ตราบเท่าที่คนเก่ายังไม่ไป Career Path ก็จะตันแบบนี้แหละครับ

 

ที่เล่ามานี้ไม่ใช่องค์กรใหญ่ทุกองค์กรจะเป็นแบบนี้นะครับ องค์กรใหญ่ที่ไม่ได้เป็นแบบนี้ก็มี องค์กรใหญ่แต่ไม่มีระบบก็มี องค์กรใหญ่ที่ให้ความสำคัญกับพนักงานทุกคนก็มี องค์กรใหญ่แต่คนทำงานไม่เคยได้อยู่นิ่งเลยก็มี ต้องกลับไปดูว่าองค์กรที่คุณอยู่เป็นแบบไหน

 

ผมคิดว่าบางทีเราต้องวางความคิดที่ว่าองค์กรใหญ่เท่ากับความมั่นคงลง อะไรก็เกิดขึ้นได้ Kodak เคยแทบจะครองโลก Nokia ก็เคยเป็นอันดับ 1 ตอนนี้ไปไหนแล้วละครับ นั่นก็บริษัทใหญ่ สมัยก่อนเกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง บางบริษัทใหญ่ๆ แจกโบนัสกัน 36 เดือน แต่สุดท้ายปิดกิจการก็มากมาย เห็นไหมครับว่าองค์กรใหญ่ก็ล่มได้ถ้าไม่ปรับตัว ถ้าเราไม่ปรับตัวอยู่เสมอก็เท่ากับเรารอวันอวสานนั่นแหละครับ

 

ทีนี้มาดูองค์กรสตาร์ทอัพกันบ้าง ข้อดีแน่ๆ คือทุกอย่างเป็นเรื่องใหม่ ไม่มีกรอบ อยากทำอะไรก็ดีไซน์เอาเลยว่าอยากให้เป็นแบบนั้น มีความคล่องตัวสูง ไม่ต้องมีพิธีรีตองกันมาก บางทีสตาร์ทอัพจะมีตำแหน่งงานที่องค์กรใหญ่ไม่มี เพราะตั้งขึ้นมาตามความสะดวกหรือเพื่อให้เหมาะกับงานโดยเฉพาะ ถ้าเป็นองค์กรใหญ่กว่าจะอนุมัติให้มีตำแหน่งใหม่ขึ้นมาก็ใช้เวลานาน ต้องผ่านหลายขั้นตอน และสตาร์ทอัพส่วนใหญ่มักจะทำเรื่องใหม่ๆ ทำเรื่องใหม่มันน่าตื่นเต้น น่าเรียนรู้ ให้ประสบการณ์อีกแบบ อาจจะได้แสดงฝีมือมากขึ้นก็ได้ครับเพราะมีเวทีให้เราทำอะไรเยอะ

 

จุดอ่อนของสตาร์ทอัพน่าจะเป็นการไม่มีระบบ ด้วยความที่ทุกอย่างใหม่มาก และฟรีฟอร์มเหลือเกิน เน้นการเอาคนมาช่วยๆ กันทำงานไว้ก่อนแต่ไม่มีการแบ่งหน้าที่ ผมคิดว่าการทำงานแบบช่วยกันทำเป็นเรื่องดีนะครับ เพราะทุกคนได้เรียนรู้หมดทุกตำแหน่ง มีน้ำใจเกื้อกูลกัน แต่ก็ต้องมีการแบ่งหน้าที่ที่ชัดเจนอยู่ดี เพราะไม่งั้นเราจะไม่รู้เลยว่าหน้าที่นี้ใครควรทำได้ดีที่สุด ไม่มีใครเป็นเจ้าภาพ หรืองานอาจจะไปกระจุกที่คนใดคนหนึ่งเพราะไม่มีการวางระบบที่ชัดเจน เพราะฉะนั้นถ้าคุณจะเข้าไป พยายามไปสร้างระบบให้มันเกิดขึ้นให้ได้ หรือเข้าไปพัฒนาวิธีการทำงานให้ดีขึ้น จากที่ไม่มีระบบก็จะมีระบบได้

 

ถ้าจะเป็นห่วงสตาร์ทอัพ ผมเป็นห่วงความมั่นคงระยะยาวมากกว่า กรณีเดียวกับ Kodak กับ Nokia แต่สลับกันครับ คุณเห็น Uber ไหมครับ ใครจะคิดว่า Uber ที่โคตรจะเฟี้ยวฟ้าวจะถูกรวมกิจการกับ Grab ไม่ต้องถึง Uber ก็ได้ Facebook อดีตก็เป็นสตาร์ทอัพเหมือนกัน อยู่อันดับ 1 อยู่ดีๆ ปรากฏว่าตอนหลังพี่มาร์กขูดรีดขูดเนื้อกับการทำโฆษณามากๆ เข้า ไหนจะเรื่องการรุกล้ำความเป็นส่วนตัวอีก คนก็เอือมพี่มาร์ก และเริ่มรู้สึกว่า Facebook อาจจะไม่ใช่โซเชียลมีเดียที่อยู่ยั้งยืนยงได้ตลอดแล้วล่ะ วันหนึ่งมันอาจจะล่มสลายไปได้แต่ปรากฏว่า Twitter ที่เหมือนจะตายๆ ไปจากเมืองไทยดันกลับมาเกิดใหม่ได้ เห็นไหมครับว่าการเปลี่ยนแปลงมีอยู่เสมอ

 

สตาร์ทอัพหลายเจ้าออกตัวแรงมาก ดูท่าจะไปได้สวย แต่ก็อายุสั้นกว่าความฝัน บริษัทใหญ่หลายที่ก็เหมือนจะเป็นอมตะ แต่การอวสานดันมาก่อนการเป็นอมตะ ผมคิดว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราต้องเก็บไว้พิจารณา ขีดเส้นใต้ไว้ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ อย่าประมาท สถานที่ที่เรารู้ว่าจะมีอันตรายอะไรบ้างคือสถานที่ปลอดภัย กว่าสถานที่เราไม่รู้เลยว่ามีอันตรายอะไร เห็นอันตรายตรงหน้าแล้วหาทางป้องกัน กำจัดอันตรายนั้นได้ก็ดีไป หรือเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันแบบที่จะไม่เจ็บตัวมาก ถ้าเราตั้งอยู่กับความคิดว่าทุกอย่างไม่มั่นคง มันเปลี่ยนแปลงได้เสมอ เราก็จะอยู่กับงานได้โดยไม่ประมาท

 

ไม่จำเป็นต้องยึดติดว่าเราต้องทำงานองค์กรใหญ่หรือองค์กรเล็กอย่างเดียว บางคนยึดติดว่าต้องทำองค์กรใหญ่อย่างเดียวเพราะดูเท่ เดินแล้วตัวพองๆ เท้าไม่ติดพื้น บางคนบอกว่าจะทำแต่องค์กรเล็ก เพราะมันคล่องตัวกว่า ไม่ต้องไปเจออะไรยุ่งยาก แต่ผมคิดว่าทั้งองค์กรใหญ่และองค์กรเล็กมีดีหมด อยู่ที่เราอยากได้ชีวิตแบบไหน ที่ไหนที่มันใช่สำหรับเรา เราก็จะเปล่งประกายเองแหละครับ ความเท่ความเก๋มันไม่ได้อยู่ที่เราอยู่องค์กรไหน มันอยู่ที่เราทำงานนั้นอย่างไรมากกว่า อยู่องค์กรดีแต่ตัวเรากลวงมันก็คือเรากลวงอยู่ดี ไม่ได้น่าภูมิใจอะไร ทำอะไรที่เราจะภูมิใจกับตัวเองได้ดีกว่า

 

ถ้ายังอยากอยู่ที่เดิมแล้วรู้สึกเบื่อ หาความท้าทายใหม่ คิดงานขึ้นมาใหม่สนุกๆ เองเลย ไม่ต้องรอทำงานตามคำสั่ง เราได้แสดงความสามารถด้วย ได้ความตื่นเต้นใหม่ๆ หรือถ้าอยากย้ายไปสตาร์ทอัพก็เอาประสบการณ์จากองค์กรใหญ่ไปช่วยองค์กรเล็ก พร้อมกับเปิดใจกับวิธีการทำงานแบบใหม่ๆ ที่องค์กรใหญ่อาจจะไม่เคยมี

 

เห็นไหมครับว่า ทั้งสองทางมีทางที่ดีหมด ไม่ต้องกังวลเลย  

 

* ส่งคำถามดราม่าในที่ทำงานที่คุณสงสัยมาได้ที่อีเมล [email protected] หรืออินบ็อกซ์ไปที่ FB: ท้อฟฟี่ แบรดชอว์ 

 

ภาพประกอบ: Nisakorn Rittapai

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising