พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร พร้อมด้วยพระราชินีคามิลลา เสด็จฯ เยือนเยอรมนีอย่างเป็นทางการเป็นประเทศแรก นับตั้งแต่ขึ้นครองราชย์เมื่อช่วงปลายปี 2022 ที่ผ่านมา
โดยก่อนหน้านี้ประเทศที่ทั้งสองพระองค์จะเสด็จเยือนเป็นประเทศแรกคือฝรั่งเศส แต่ต้องเลื่อนหมายกำหนดการออกไปก่อน เนื่องจากปัญหาความไม่สงบจากเหตุชุมนุมประท้วงต่อต้านแผนปฏิรูปเงินบำนาญของรัฐบาลประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง
ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะใช้โอกาสในการเสด็จฯ เยือนเยอรมนีครั้งนี้ปฏิบัติพระราชกรณียกิจในฐานะพระประมุขของประเทศ รวมถึงฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสหราชอาณาจักรและเยอรมนี หลังจากที่สหราชอาณาจักรตัดสินใจ BREXIT หรือออกจากสหภาพยุโรป (EU) อย่างเป็นทางการ เมื่อช่วงต้นปี 2020 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ยังตรัสสนับสนุนยูเครนในฐานะพันธมิตรประเทศประชาธิปไตย รวมถึงกล่าวชื่นชมน้ำใจของชาวเยอรมนี หลังจากที่เยอรมนีส่งมอบความช่วยเหลือให้แก่ยูเครนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเปิดรับผู้ลี้ภัยจากยูเครนกว่า 1 ล้านคน นับตั้งแต่สงครามรัสเซีย-ยูเครนเปิดฉากขึ้นเมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2022
สำนักพระราชวังบักกิงแฮมยังเผยว่า พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงให้ความสำคัญกับประเด็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม โดยพระองค์จะทรงเข้าร่วมเวทีเสวนาว่าด้วยความยั่งยืนที่จัดขึ้นในเยอรมนี พร้อมทั้งตรัสเน้นย้ำถึงความสำคัญของพลังงานน้ำและพลังงานหมุนเวียนที่จะมีส่วนช่วยลดการผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการช่วยรับมือกับวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมอย่างมาก
ทางด้าน อนันด์ เมนอน ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการของกลุ่มนักคิด UK in a Changing Europe ระบุว่า การเดินทางเยือนประเทศที่เปรียบเสมือนเสาหลักของ EU ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลสหราชอาณาจักรกำลังใช้อำนาจของสถาบันกษัตริย์และราชวงศ์อังกฤษเป็นส่วนหนึ่งของ Soft Power ในการรีเซ็ตความสัมพันธ์ครั้งใหม่กับบรรดาประเทศในยุโรปภายหลัง BREXIT
ภาพ: Adrian Dennis / Pool / AFP
อ้างอิง:
