×

ไบเดน ประกาศเพิ่มความพยายามอพยพพลเรือนอเมริกัน-อัฟกัน ออกจากคาบูล ระดมเครื่องบินพาณิชย์นำผู้อพยพไปประเทศที่ 3

23.08.2021
  • LOADING...
Joe Biden

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ แถลงที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ (22 สิงหาคม) ประกาศเพิ่มความพยายามในการเร่งอพยพประชาชนจากสนามบินกรุงคาบูล พร้อมให้คำมั่นว่าจะนำพลเรือนทั้งชาวอเมริกันและชาวอัฟกันที่ตกอยู่ในความเสี่ยง เดินทางออกจากอัฟกานิสถาน

 

ท่าทีของไบเดนมีขึ้นในขณะที่ชาวอัฟกานิสถานหลายพันคนกำลังต่อแถวอยู่ที่ประตูทางเข้าสนามบิน เพื่อรอความหวังในการเดินทางหนีออกจากประเทศ หลังจากที่กลุ่มตาลีบันเข้ายึดครองอำนาจตั้งแต่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา 

 

ซึ่งไบเดนเผชิญแรงกดดันอย่างหนักในการขยายเส้นตายอพยพออกไปจากกำหนดเดิมในวันที่ 31 สิงหาคม และกำลังอยู่ระหว่างหารือกับผู้นำของหลายประเทศเกี่ยวกับการขยายเส้นตายอพยพ ขณะที่ได้สั่งการไปยังกระทรวงการต่างประเทศให้พยายามติดต่อชาวอเมริกันที่ติดอยู่ในอัฟกานิสถานด้วยวิธีต่างๆ 

 

“มันไม่มีทางที่จะอพยพผู้คนจำนวนมากเหล่านี้ได้โดยไม่มีความเจ็บปวดและภาพบาดใจอย่างที่คุณเห็น เราได้เปลี่ยนแปลงหลายอย่าง รวมถึงการขยายพื้นที่เข้าถึงรอบสนามบินหรือเขตปลอดภัย” ไบเดนกล่าว พร้อมยืนยันว่า “ชาวอเมริกันคนใดที่ต้องการกลับบ้าน จะได้กลับบ้าน”

 

ด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ว่า ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีคำสั่งให้ใช้มาตรการกองบินสำรองพลเรือน (Civil Reserve Air Fleet: CRAF) ในระดับที่ 1 เพื่อช่วยในภารกิจนำพลเรือนชาวอเมริกันและอัฟกันที่อพยพออกจากอัฟกานิสถานเดินทางไปยังประเทศที่ 3 โดยได้ระดมเครื่องบินพาณิชย์ 18 ลำ จากสายการบินต่างๆ ได้แก่ American Airlines, Atlas Air, Delta Air Lines และ Omni Air สายการบินละ 3 ลำ Hawaiian Airlines 2 ลำ และ United Airlines อีก 4 ลำ 

 

ซึ่งเครื่องบินทั้งหมดจะไม่เดินทางไปลงยังสนามบินฮามิด คาร์ไซ ในกรุงคาบูล แต่จะถูกส่งไปรับผู้อพยพจากสถานที่หลบภัยและฐานบัญชาการชั่วคราวนอกอัฟกานิสถาน ก่อนจะเดินทางไปยังประเทศที่ 3 

 

“เที่ยวบินสำรองพลเรือนเหล่านี้จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางที่ปลอดภัย (ของผู้อพยพ) ไปยังประเทศที่ 3 จะไม่มีลำไหนลงจอดที่คาบูล” ไบเดนกล่าวถึงประเด็นนี้ระหว่างการแถลง และเปิดเผยว่ามีการตั้งสถานีคัดกรองและตรวจสอบผู้อพยพมากกว่า 20 ประเทศ 

 

“เราจะต้อนรับชาวอัฟกันเหล่านี้ ผู้ที่ได้ช่วยอเมริกา ให้ได้ไปยังบ้านใหม่ของพวกเขา เพราะนั่นคือสิ่งที่เราเป็น” เขากล่าว

 

แถลงการณ์ยังชี้ว่า การเปิดใช้กองบินสำรองพลเรือนจะช่วยให้เครื่องบินของกองทัพสามารถมุ่งเน้นปฏิบัติการทั้งในและนอกคาบูล

 

ขณะที่การใช้มาตรการกองบินสำรองพลเรือนของสหรัฐฯ ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์ ซึ่งครั้งแรกถูกใช้ในช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซีย ช่วงปี 1990-1991 และครั้งที่ 2 ระหว่างสงครามอิรักในปี 2003

 

จนถึงตอนนี้มีพลเรือนทั้งชาวอเมริกันและอัฟกันที่สหรัฐฯ ช่วยอพยพออกมาจากอัฟกานิสถานแล้วเกือบ 28,000 คน ขณะที่ทางการสหรัฐฯ กำลังพยายามหาทางนำชาวอเมริกันและพลเรือนอีกหลายคนเข้าไปยังสนามบินที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพสหรัฐฯ ท่ามกลางความหวั่นวิตกและเฝ้าระวังภัยคุกคามจากกลุ่มติดอาวุธและกลุ่มก่อการร้าย โดยเฉพาะกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ที่ขู่จะโจมตีสนามบิน ซึ่ง เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทำเนียบขาว เตือนว่าเป็นภัยคุกคามของจริงที่อันตรายร้ายแรง

 

ภาพ: Photo by Samuel Corum / Getty Images

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising