×

ไม่มีเงินไม่ใช่ปัญหา! ไฮโซจิ๊บ เปิดตัวธุรกิจ Jipjip Money ปล่อยสินเชื่อซื้อ ‘แบรนด์เนม’ ผ่อนยาว 60 เดือนเจ้าแรกในไทย

28.10.2023
  • LOADING...
กองกระเป๋า Louis Vuitton

เทรนด์ขอสินเชื่อซื้อสินค้าแบรนด์เนมเกิดขึ้นหลังกูรูอย่าง ‘ไฮโซจิ๊บ’ ผู้ที่อยู่ในแวดวงกระเป๋าแบรนด์เนมมานาน จนเกิดเป็นธุรกิจ Jipjip Money สินเชื่อสินค้าแบรนด์เนมเจ้าแรกในไทย รองรับตลาดสินค้าลักชัวรีโตไม่หยุด และน่าลงทุนสร้างความคุ้มค่าระยะยาว

 

“จุดเริ่มต้นของธุรกิจมาจากแพสชันของตัวเองที่ชอบสะสมกระเป๋าแบรนด์เนม และได้ศึกษาตลาดจนมีประสบการณ์มากว่า 15 ปี ที่ผ่านมาตลาดสินค้าลักชัวรีโดยเฉพาะกระเป๋ามีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสสร้างบริษัทเป็นของตัวเอง ภายใต้ชื่อ บริษัท เงินเรื่องจิ๊บ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 60 ล้านบาท” เสาวนีย์ ผไทวณิชย์ ประธานกรรมการบริหารกล่าว

 

ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาได้เปิดตัวธุรกิจ ‘bagforcash’ ขายฝากกระเป๋าแบรนด์เนม หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นการเปิดให้นำกระเป๋ามาจำนำกับบริษัท ลูกค้าส่วนใหญ่มีตั้งแต่ ไฮโซ ดารา และนักศึกษา ถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนต้องเตรียมขยายห้องเซฟห้องที่ 3 ในต้นปี 2567 

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

ปัจจุบันธุรกิจขายฝากกระเป๋ามีสัญญาประมาณ 1,200 สัญญา คิดเป็นวงเงินประมาณ 200 ล้านบาท โดยยอดขายฝากรายเดือน 25-30 ล้านบาท จากนี้ ธุรกิจ bagforcash เราตั้งเป้าให้ได้ 10 ล้านบาทต่อเดือน

 

กระทั่งล่าสุดได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ Jipjip Money ให้บริการสินเชื่อเพื่อคนรักแบรนด์เนมเจ้าแรกในไทย ที่มีใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย 

 

สำหรับกระบวนการขอสินเชื่อแบรนด์เนม คือส่งกระเป๋าหรือนาฬิกาที่ต้องการ และสลิปเงินเดือนตั้งแต่ 30,000-1,000,000 บาท โดยบริษัทสามารถอนุมัติไวใน 24 ชั่วโมง คล้ายๆ กับการซื้อรถแต่จะเร็วกว่า ที่สำคัญสามารถมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ เพราะเครื่องมือตรวจที่ได้มาตรฐาน สิ่งเหล่านี้คือจุดขาย

 

เมื่อมาดูที่เงื่อนไขในการปล่อยกู้ มีอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.59-1.99% ต่อเดือน และวงเงินที่อนุมัติจะขึ้นอยู่กับเครดิตลูกค้า ต่อหนึ่งสัญญาจะมีวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยสามารถผ่อนยาวสูงสุดถึง 60 เดือน

 

“เราค่อนข้างมั่นใจว่าธุรกิจดังกล่าวมีโอกาสในการเติบโต เพราะสินค้าแบรนด์เนมไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย โดยเฉพาะกระเป๋าที่เป็นสินทรัพย์มีมูลค่าสูงน่าลงทุน เพื่อรอวันที่จะได้ความคุ้มค่าระยะยาว แถมในยามวิกฤตยังสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ง่าย เห็นได้จากการเติบโตของตลาดสินค้าลักชัวรีทั่วโลกที่สูงขึ้นทุกปีสวนทางกับเศรษฐกิจโลก”

 

ที่ผ่านมานั้นสินค้ากลุ่มนี้มีมูลค่าสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อเสียอีก ซึ่งถ้าเทียบกับการซื้อรถยนต์หรู มูลค่ากลับไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่ในแง่ของการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม อย่าง Hermès Himalayan Birkin 25 ในปี 2010 มีมูลค่า 3 ล้านบาท จนถึงปี 2020 มีมูลค่า 7.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 150%

 

ถึงกระนั้นในสังคมปัจจุบันคนอาจยังมองกระเป๋าแบรนด์เนมว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย แต่จริงๆ ในอนาคตสามารถเพิ่มมูลค่าขึ้นหลายเท่าตัว โดยเฉพาะแบรนด์ Hermès และ CHANEL ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าเท่าๆ กัน 

 

จากแนวโน้มของโอกาส บริษัทตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 40 ล้านบาทต่อเดือน และวาดหวังไว้ว่าจะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ในอีก 3 ปีข้างหน้า

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising