รัฐบาลอินโดนีเซียสั่งการให้บริษัทผู้ผลิตออกซิเจนเพิ่มกำลังการผลิตออกซิเจนทางการแพทย์ สำหรับใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด หลังเกิดกรณีผู้ป่วยโควิดเสียชีวิต 63 คน ภายในโรงพยาบาลซาร์ดจิโต บนเกาะชวา ซึ่งกำลังประสบปัญหาออกซิเจนใกล้หมดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ซึ่งหลังเกิดเหตุ โฆษกโรงพยาบาลยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าผู้ป่วยทั้งหมดเสียชีวิตเนื่องจากโควิดหรือสาเหตุใด ขณะที่ทางโรงพยาบาลได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า มีความพยายามจัดหาออกซิเจนสำรองอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายวันก่อนหน้า แต่เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยโควิดที่เพิ่มสูงขึ้นมากตั้งแต่วันศุกร์ ทำให้มีการใช้ออกซิเจนมากกว่าที่คาดไว้
ทั้งนี้ กระทรวงที่เกี่ยวข้องในการรับมือสถานการณ์โควิดของอินโดนีเซีย สั่งการให้บริษัทในอุตสาหกรรมผลิตแก๊ส ให้ความสำคัญกับการเพิ่มกำลังการผลิตออกซิเจนทางการแพทย์ เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งาน ณ ปัจจุบันที่สูงถึงราว 800 ตันต่อวัน ซึ่งที่ผ่านมาอินโดนีเซียสามารถผลิตออกซิเจนทางการแพทย์ได้สูงถึง 225,000 ตันต่อปี
สำหรับอินโดนีเซีย ซึ่งมีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของโลก เป็นหนึ่งในประเทศเอเชียที่กำลังเผชิญสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิดที่รุนแรงที่สุด ซึ่งยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เมื่อวันเสาร์ (3 กรกฎาคม) ที่ผ่านมา สูงสุดเป็นสถิติใหม่ ถึง 27,913 คนในวันเดียว
ซึ่งการแพร่ระบาดที่รุนแรงของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา ส่งผลให้การระบาดระลอกล่าสุดทวีความรุนแรง โดยโรงพยาบาลหลายแห่งในเกาะชวาเริ่มประสบปัญหาผู้ป่วยล้น ขณะที่ในกรุงจาการ์ตา จำนวนพิธีศพผู้ป่วยโควิดเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าจากช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีการฝังศพผู้ป่วยโควิด ถึง 392 คน
ภาพ: Photo by Risa Krisadhi/SOPA Images/LightRocket via Getty Images
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: