กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF เผยรายงานคาดการณ์ทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2021 โดยได้ปรับเพิ่มตัวเลขการเติบในปีนี้เป็น 6% และปีหน้าเป็น 4.4% นับเป็นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วจากปี 2020 ที่มีการหดตัวประมาณ 3.3% เนื่องจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19
สำหรับตัวเลขการเติบโตที่ 6% เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ในเดือนมกราคมที่ผ่านมาที่ 5.5% และยังเป็นการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในอัตราที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ที่ IMF เริ่มจัดทำบันทึกสถิติย้อนไปถึงปี 1980
ขณะเดียวกันในปี 2022 ตัวเลขการเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 4.4% นี้ก็เป็นการปรับเพิ่มจากการคาดการณ์ก่อนหน้า ซึ่งระบุไว้ที่ 4.2%
Gita Gopinath หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ IMF กล่าวกับทางผู้สื่อข่าวว่า การปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจโลกเป็นผลสืบเนื่องมาจากการมองเห็นทางออกของวิกฤตสุขภาพและวิกฤตเศรษฐกิจได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
ขณะเดียวกันนักเศรษฐศาสตร์จาก IMF รายนี้ยังได้ประเมินสถานะทางเศรษฐกิจโลกในปี 2020 ที่ผ่านมา พบว่าหดตัวไปราว 3.3% ซึ่งดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าว่าจะรุนแรงถึง 3.5% โดยได้อานิสงส์จากการที่รัฐบาลนานาประเทศทั่วโลกร่วมอัดฉีดงบประมาณรวมแล้วกว่า 16 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในการฟื้นฟูกระตุ้นเศรษฐกิจ และหากไม่มีมาตรการกระตุ้นเหล่านี้ ภาวะเศรษฐกิจโลกปีที่แล้วก็น่าจะเลวร้ายมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันถึงสามเท่า
ทั้งนี้หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ IMF ได้เปิดเผยรายงานทิศทางเศรษฐกิจโลกในปีนี้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่าจะได้แรงสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และการเร่งแจกจ่ายวัคซีนให้ผู้คนทั่วโลก ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวได้แข็งแกร่งในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ขณะที่กลุ่มประเทศที่มีปัญหาเรื่องความล่าช้าในการแจกจ่ายวัคซีนและมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับจำกัด รวมทั้งกลุ่มประเทศที่พึ่งพาภาคการท่องเที่ยวเป็นรายได้สำคัญ อาจฟื้นตัวได้ช้ากว่าประเทศอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงสำคัญยังคงเป็นภาวะการระบาดของโควิด-19 ที่มีการระบาดไปทั่วโลก รวมทั้งความไม่แน่นอนในตลาดการเงินโลก พร้อมกันนี้ทาง IMF ยังได้ใช้โอกาสนี้เรียกร้องให้ธนาคารกลางทั่วโลกเตรียมนโยบายการเงินที่พร้อมสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศในจังหวะนี้ด้วย
ทั้งนี้เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา IMF เพิ่งปรับคาดการณ์เศรษฐกิจโลกว่าจะเติบโต 5.5% ในปีนี้ จากปัจจัยหนุนด้านวัคซีนโควิด-19 ที่ผู้คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้มากขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ขณะที่ทิศทางเศรษฐกิจในปี 2022 IMF คาดว่าจะขยายตัวได้ราว 4.2%
ขณะที่เมื่อพิจารณาเป็นรายประเทศ ประเทศที่หลายฝ่ายให้ความสำคัญมากที่สุดอย่างสหรัฐอเมริกา ในฐานะที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก จะมีการขยายตัวเติบได้ดีถึง 6.4% ในปีนี้ นับเป็นอัตราการเติบโตที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 1984 โดยที่ปี 2022 ทางสหรัฐฯ จะเติบโตได้ 3.5%
ส่วนจีน ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองโลก จะมีการเติบโตได้ดีและทุบสถิติใหม่ที่ 8.4%ในปีนี้ และ 5.6% ในปีหน้า ขณะที่ 19 ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ EU จะมีการขยายตัว 4.4% ในปีนี้ และ 3.8% ในปีหน้า และญี่ปุ่นจะเติบโตได้ 3.3% ในปีนี้ และ 2.5% ในปีหน้า
สำหรับประเทศไทย ทาง IMF ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตในปีนี้ลงเหลือ 2.6% จากเดิม 2.7% แต่ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตในปีหน้าเป็น 5.6% จากเดิม 4.6%
IMF ระบุด้วยว่า ปัจจัยที่น่าเป็นห่วงก็คือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะไม่เท่ากันในแต่ละประเทศ โดยประเทศที่มีรายได้ต่ำจะฟื้นตัวได้ช้า และคนที่ตกงานเพราะโควิด-19 ระบาดจะหางานได้ยากขึ้น โดยเฉพาะยิ่งเมื่อทิศทางโลกมุ่งหน้าเข้าสู่ยุคดิจิทัล
นอกจากนี้ IMF ยังคาดการณ์ว่า หลังจากดีดตัวฟื้นกลับมาได้เพราะมาตรกรกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ การเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะค่อยๆ ปรับตัวลงจนมาอยู่ที่ประมาณ 3% หรือมากกว่า ซึ่งเป็นระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สมควรเป็นหากไม่มีไวรัสโควิด-19 ระบาด รวมถึงการที่นานาประเทศจะต้องเผชิญกับอุปสรรคท้าทายนอกเหนือจากโรคภัยไข้เจ็บ อย่างประชากรในวัยแรงงานที่ลดน้อยลงและประชากรสูงวัยที่เพิ่มมากขึ้น
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: