คริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( IMF ) ออกมาระบุว่า แม้ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ในโลกจะเริ่มปรับตัวลดลงในช่วงนี้ แต่การปรับลดลงดังกล่าวเป็นผลมาจากความกังวลต่อภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเงินเฟ้อถูกควบคุมได้แล้ว โดยเธอคาดว่าสถานการณ์เงินเฟ้อจะยังเป็นปัญหาร้อนแรงของโลกไปจนถึงปี 2023 ก่อนที่จะเริ่มคลี่คลายเมื่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางต่างๆ เริ่มเห็นผล
“เรายังเห็นเงินเฟ้อที่ร้อนแรงอยู่ในปัจจุบัน และเรายังจำเป็นต้องราดน้ำเย็นลงไปเพื่อลดความร้อนแรงนั้น ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ อยู่ระหว่างพยายามควบคุมเงินเฟ้อ และจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไปจนกว่าพวกเขาจะมั่นใจว่าเงินเฟ้อคาดการณ์ปรับลดลงมาอยู่ในระดับที่น่าพอใจ” จอร์เจียวากล่าวระหว่างเข้าร่วมประชุม G20 ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทานโลกที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤตโควิด และถูกซ้ำเติมจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ได้ส่งผลให้ราคาพลังงาน อาหาร รวมถึงปุ๋ย พุ่งสูงขึ้น โดยราคาอาหารโลกทำสถิติพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมีนาคมและเมษายนที่ผ่านมา เมื่อวัดผ่านดัชนีราคาอาหารของธนาคารโลก
ปัญหาราคาอาหารแพงทำให้มีการคาดว่าจำนวนประชากรโลกที่ประสบปัญหาขาดแคลนอาหารจะเพิ่มขึ้นราว 7.6 ล้านคนในปีนี้ และ 19 ล้านคนในปีหน้า
แม้ว่าราคาน้ำมันในปัจจุบันจะลดลงมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากที่เคยพุ่งขึ้นไปสูงถึง 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือนมิถุนายน แต่ตัวเลขเงินเฟ้อในเดือนล่าสุดของสหรัฐฯ ก็ยังออกมาทำสถิติสูงสุดในรอบ 40 ปีที่ 9.1%
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP