ปัญหาจากกรณีที่สหรัฐฯ ประกาศข้ึนบัญชี Entity List หัวเว่ยจนทำให้ Google อาจจะต้องยุติความร่วมมือในเชิงธุรกิจกับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจากจีนลงในอนาคต ข้างหน้า สร้างความกังวลให้กับลูกค้าและคนที่ลังเลคิดจะซื้อสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยมาใช้งานพอสมควร

 

ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และแยกปัญหานี้ออกเป็น 2 กรณีก่อน กรณีแรก สำหรับลูกค้าหัวเว่ยที่ซื้อสมาร์ทโฟนไปใช้ในช่วงก่อนสหรัฐฯ จะประกาศขึ้นบัญชีดำเมื่อเดือนพฤษภาคมจะยังสามารถใช้งานสมาร์ทโฟนและบริการทั้งหมดของกูเกิลต่อไปได้ตามปกติ และจะได้รับการอัปเดตเวอร์ชัน Android Q ด้วย

 

ส่วนกรณีที่สอง สำหรับลูกค้าในอนาคตของหัวเว่ยที่กำลังคิดว่าจะซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ที่ใกล้เปิดตัวอีก 1 หรือ 2 ปีต่อจากนี้ อาจจะต้องติดตามข่าวและรอความคืบหน้าของสถานการณ์อีกที

 

แต่กว่าจะไปถึงวันนั้น ตอนนี้หัวเว่ย ประเทศไทยได้ออกมาประกาศมาตรการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่กำลังจะซื้อผลิตภัณฑ์ของพวกเขาไปใช้งานแล้ว เพื่อเป็นการการันตีว่า หัวเว่ยจะไม่ทอดทิ้งผู้ใช้งานทุกคนไปไหนเด็ดขาด เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของหัวเว่ยที่จะสามารถใช้งานต่อไปได้ปกติ ไม่มีปัญหาการเมืองใดๆ มากวนใจแน่นอน

 

 

โดยตัวแทนจำหน่ายสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของหัวเว่ย 5 ราย ประกอบด้วย ซินเน็ค, เจมาร์ท, ทีจีโฟน, ซีเอสซี และบานาน่า ได้ออกมาประกาศมาตรการคืนเงินเต็มจำนวน 100% ให้กับลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยไปใช้แล้วพบปัญหาการใช้งานหรืออัปเดตแอปพลิเคชันอย่าง Google Play, Gmail, Google Maps, Google Gallery, Google Chrome, YouTube, Facebook, Instagram หรือ WhatsApp ภายในระยะเวลา 2 ปี (การรับประกันจะครอบคลุมผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ระหว่างวันที่ 12 มิถุนายน – 1 กันยายน 2562)

 

 

สำหรับผลิตภัณฑ์รุ่นที่ครอบคลุมการรับประกันของหัวเว่ยและตัวแทนจำหน่ายคือ โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตของหัวเว่ยที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ในรุ่นต่อไปนี้ 

• P20 / P20 Pro
• P30 / P30 lite / P30 Pro
• Mate 20 / Mate 20 Pro / Mate 20 X
• Nova 3 / Nova 3i
• Nova 4
• Y Max
• Y5 2019 / Y5 Lite / Y5 Prime 2018 
• Y7 Pro 2018 / Y7 Pro 2019
• Y9 2018 / Y9 2019 / Y9 Prime 2019
• MediaPad M5 / MediaPad M5 Lite 10 / MediaPad M5 Lite 8 / MediaPad M5 Pro
• MediaPad T3 7 / MediaPad T3 10
• MediaPad T5 10

 

 

นอกจากนี้สำหรับสมาร์ทโฟน nova 3e หัวเว่ยก็ประกาศให้เริ่มอัปเดต EMUI 9.1 แล้วเช่นกัน ซึ่งจะมาพร้อมระบบไฟล์ EROFS (Extendable Read-Only File System) ที่ทำให้ความเร็วในการอ่านแบบแรนด้อมเพิ่มขึ้น 20% และยังใช้พื้นที่ลดลงถึง 2GB ช่วยเพิ่มสมรรถนะความลื่นไหลให้ใช้งานสมาร์ทโฟนได้ต่อเนื่องด้วยเทคโนโลยี GPU Turbo 3.0 ลดการกินไฟจากชิปเซตลงกว่าเดิมสูงสุด 10% พร้อมฟีเจอร์ AI Video 2.0 

 

ส่วนสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ของหัวเว่ย จะสามารถอัปเกรดได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-สิงหาคม ตามลิสต์ต่อไปนี้

 

• ปลายเดือนมิถุนายน 
  • MediaPad M5 Series ทั้ง M5 และ M5 Pro อัปเกรดเป็น > ‘EMUI 9.0’
  • Mate20 / Mate20 Pro / Mate20 X อัปเกรดเป็น > ‘EMUI 9.1’
• เดือนกรกฎาคม 
  • P20 / P20 Pro / nova 3 / nova 3i / nova 4 / Mate 10 / Mate 10 Pro / Y9 2019 อัปเกรดเป็น > ‘EMUI 9.1’
• เดือนสิงหาคม 
  • P10 / P10 Pro / Mate 9 / Mate 9 Pro / Mate RS อัปเกรดเป็น >  ‘EMUI 9.1’

 

วิธีการอัปเกรดทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง แค่เข้าไปที่ การตั้งค่า > การอัปเดตซอฟต์แวร์ หรือสามารถสอบถามพนักงานประจำร้านและศูนย์บริการหัวเว่ยเพื่อขอความช่วยเหลือในการอัปเกรดได้เช่นกัน

 

ถือเป็นวิธีการสร้างความอุ่นใจให้กับลูกค้าของหัวเว่ยทุกคน เพื่อให้แน่ใจว่า ผลิตภัณฑ์แบรนด์หัวเว่ยจะยังสามารถใช้ได้ราบรื่น ไร้อุปสรรคการอัปเดตและไม่ติดขัดปัญหาใดๆ แน่นอน

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล