×

เหรินเจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้ง Huawei เผย พร้อมเจรจา ‘โจ ไบเดน’ ยันไม่มีแผนขายธุรกิจสมาร์ทโฟนแม้ได้รับผลกระทบรุนแรง

09.02.2021
  • LOADING...
เหรินเจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้ง Huawei

เป็นเวลานานกว่า 2 ปีแล้วที่ Huawei ต้องประสบผลกระทบรุนแรงจากการขึ้นบัญชีดำห้ามบริษัทในประเทศสหรัฐฯ ดำเนินธุรกิจด้วยนับตั้งแต่ที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี จนส่งผลให้ Huawei ต้องเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่ที่ขัดขวางการเติบโตของพวกเขาในเชิงธุรกิจ ซึ่งเป็นผลพวงต่อเนื่องมาจากสงครามการค้าอีกทอดหนึ่ง

 

ล่าสุด เหรินเจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยีโทรคมนาคมจากจีน ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแบบ Round Table ในเมืองไท่หยวน มณฑลซานซี สาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันนี้ (9 กุมภาพันธ์) ตามเวลาท้องถิ่นประเทศจีน โดยแสดงความคิดเห็นถึงปมขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างสหรัฐฯ – จีน ไปจนถึงการยืนยันว่า เขาและ Huawei ไม่คิดจะขายแผนกธุรกิจสมาร์ทโฟนออกจากบริษัทแต่อย่างใด

 

“บริษัทของเราไม่มีเรี่ยวแรงมากพอที่จะเข้าไปข้องแวะวกวนกับประเด็นด้านการเมืองอีกแล้ว เรามุ่งมั่นแต่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีเท่านั้น และหวังว่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะมีนโยบายที่เปิดกว้าง และเป็นประโยชน์ต่อบริษัทในประเทศ รวมถึงการขยายการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ” ผู้ก่อตั้ง Huawei วัย 76 ปีบอกกับสื่อมวลชน

 

ขณะที่ Reuters และ The Verge ยังรายงานตรงกันอีกด้วยว่า เหรินเจิ้งเฟย ยังได้บอกกับสื่อมวลชนว่า เขายินดีจะรับสายของโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบัน เพื่อหารือและปรึกษาในประเด็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้น รวมถึงหาทางออกในการหาแนวทางความร่วมมือ สู่การที่จะทำให้ทั้งจีนและสหรัฐฯ ประสบความสำเร็จไปด้วยกัน

 

เมื่อถามว่าเขาคาดหวังแค่ไหนที่สหรัฐฯ จะลบชื่อ Huawei ออกจากบัญชีดำ เหรินจึงตอบว่า เป็นเรื่องยากมากๆ ที่เหตุการณ์เช่นนั้นจะเกิดขึ้นได้ (สัปดาห์ที่แล้ว จีนา ไรมอนโด แคนดิเดตเลขาธิการกระทรวงพาณิชย์ เพิ่งออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เห็นเหตุผลที่เธอจะต้องถอดชื่อ Huawei ออกจากบัญชีดำ) แต่ก็ใช่ว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นไปไม่ได้เลยเสียทีเดียว ดังนั้นสิ่งที่ Huawei พอจะทำได้ในเวลานี้คือการทุ่มเททำงานให้หนัก และพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ผ่านการจ้างบุคลากรที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางเข้าสู่บริษัทอย่างต่อเนื่อง

 

ทั้งนี้ ผู้ก่อตั้งบริษัท Huawei ยังได้ออกมายืนยันกับสื่อมวลชนอีกครั้งว่า ตนและบริษัทไม่มีแพลนจะขายหน่วยธุรกิจสมาร์ทโฟนออกจากบริษัทแต่อย่างใด แม้ว่าเดือนที่แล้วจะมีกระแสข่าวในประเด็นนี้แพร่สะพัดออกไปในวงกว้าง รวมถึงการที่พวกเขาได้ขายแบรนด์ลูก Honor ออกไปแล้วตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020 ก็ตาม 

 

“ความเชื่อมั่นของผมต่อการที่ Huawei จะสามารถเอาตัวรอดได้ในเชิงการทำธุรกิจได้เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก และในขณะเดียวกันเราเองก็เชื่อมั่นในตัวลูกค้าของเราด้วย” เหรินเจิ้งเฟิย กล่าว พร้อมแสดงความมั่นใจว่ากลุ่มธุรกิจใหม่ของ Huawei อย่าง ธุรกิจคลาวด์, ยานยนต์อัจฉริยะ และ AI จะกลายเป็นหัวใจสำคัญที่ชดเชยการขาดหายหรือลดลงของรายได้ธุรกิจสมาร์ทโฟนบริษัทได้เป็นอย่างดี

 

อีกประเด็นที่น่าสนใจ อยู่ที่การพูดถึงกรณีที่ เมิ่งหว่านโจว ลูกสาวของผู้ก่อตั้ง Huawei ถูกทางการแคนาดาจับกุมตัวในช่วงที่ Huawei และสหรัฐฯ​ เกิดความขัดแย้งได้เพียงไม่นาน โดยเหรินเจิ้งเฟยบอกเพียงแต่ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงผลกระทบจากประเด็นความขัดแย้งในเชิงการเมือง และเขาก็มีความเชื่อมั่นในกระบวนการทางกฎหมายของแคนาดาเป็นอย่างสูง

 

สำหรับในไตรมาส 4 ปี 2563 ที่ผ่านมา Huawei มียอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนรวมที่ 32.3 ล้านเครื่อง เทียบเท่าส่วนแบ่งการตลาดที่ 8.4% และอยู่ในอันดับที่ 5 ของตลาด ปรับลดลงมากถึง 42.4% เมื่อเทียบกับปี 2019 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising