×

คนไม่สวยไม่มีที่ยืนใช่ไหมคะ โดนที่ทำงานทักว่าไม่สวยทุกวันเลย

18.12.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • “หนูไม่สวยอย่างเขา” อันนี้แน่นอนอยู่แล้ว เพราะไม่มีใครบนโลกซ้ำกัน ไม่มีใครเหมือนกันสักคน และนั่นแหละคือความสวยงามของโลกนี้ เพราะฉะนั้นถูกแล้วที่หนูไม่สวยอย่างเขา แต่อย่าลืมว่าเขาก็ไม่สวยอย่างหนูนะ แต่ละคนมีความแตกต่างกัน อย่าได้เอาไปเปรียบเทียบ คนอื่นจะเปรียบเทียบก็ช่าง แต่เราต้องไม่เปรียบเทียบกับคนอื่น
  • เราไม่ใช่คนหน้าตาดี แต่เราสวยขึ้นได้นี่! คนเราพัฒนาได้ อย่าคิดว่าตัวเองเป็นแบบนั้นก็ต้องอยู่แบบนั้นตลอด เราต้องเชื่อก่อนว่าเราดีขึ้นได้ อย่างแรกมาจากบุคลิกของเราก่อน เรื่องภายนอกใครว่าไม่สำคัญ การแต่งกายดีเป็นการแสดงออกว่าเป็นผู้มีวัฒนธรรม เป็นผู้ผ่านการเจียระไนมาแล้ว เป็นคนมีรสนิยม และได้รับการบ่มเพาะมาดี แต่งตัวดีเราก็ดูสง่าน่าชื่นชมไปด้วย
  • คนเราจะดูดีขึ้นมาจากความสามารถของเราเอง หาตัวเองให้เจอว่าเราเก่งอะไรแล้วทำสิ่งนั้นให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ความเก่งของเรานี่แหละที่ทำให้เราดูดีขึ้น ทำงานออกมาได้ดี คนก็ชื่นชมเรา เราก็ดูดีขึ้นในสายตาคนอื่นด้วย กลับกันนะครับ ถ้าอ้าปากมาแล้วเราพูดจาไม่ดี พูดอะไรโง่ๆ ทำตัวกลวงๆ ทำงานก็ไม่ดี จะโมหน้าจากเกาหลีจนดูดีแค่ไหนเราก็ดูแย่ เสน่ห์มันก็หายไปหมด มันจะเหลืออะไรให้คนชื่นชมในตัวเรา

Q: โดนพี่ที่ทำงานท้วงเป็นประจำว่าทำไมไม่แต่งตัวแต่งหน้าให้มันสวยๆ เหมือนคนอื่น แล้วก็ชอบเอาเราไปเปรียบเทียบกับเพื่อนพนักงานที่สวย ก็หนูไม่สวยอย่างเขา จะให้หนูไปแต่งตัวแบบเขาก็ไม่ได้ โดนทักทุกวันมันเบื่อนะคะที่มีคนมาบอกว่าเราไม่สวย คนไม่สวยมันไม่มีที่ยืนใช่ไหมคะ

 

A: น้องเอ๋ย ใครจะบอกว่าหนูไม่สวย มันยังไม่เจ็บเท่าหนูมองตัวเองว่าไม่สวยแล้วมาดูถูกตัวเองเลยลูก ใครบอกว่าคนไม่สวยไม่มีที่ยืน มองให้เห็นความสวยของตัวเองก่อน แล้วยืนมันให้เต็มสองฝ่าเท้าเลย!

 

อย่างแรกเลย “หนูไม่สวยอย่างเขา” อันนี้แน่นอนอยู่แล้ว เพราะไม่มีใครบนโลกซ้ำกัน ไม่มีใครเหมือนกันสักคน และนั่นแหละคือความสวยงามของโลกนี้ เพราะฉะนั้นถูกแล้วที่หนูไม่สวยอย่างเขา แต่อย่าลืมว่าเขาก็ไม่สวยอย่างหนูนะ แต่ละคนมีความแตกต่างกัน อย่าได้เอาไปเปรียบเทียบ คนอื่นจะเปรียบเทียบก็ช่าง แต่เราต้องไม่เปรียบเทียบกับคนอื่น

 

ลองขยับความคิดจาก “หนูไม่สวยอย่างเขา” มาเป็น “หนูสวยแบบของหนู” หน่อยดีไหมครับ พี่ว่ามันช่วยให้เราไม่ต้องคอยด่าตัวเองอยู่ทุกวันว่า ฉันมันไม่สวย ฉันมันไม่สวย เรายอมรับความจริงได้ว่าเราไม่สวยในแบบของคนอื่น แต่เราสวยแบบของตัวเอง ซึ่งเราต้องไม่เอาความรู้สึกว่าตัวเองไม่สวยมาบั่นทอนชีวิต

 

ที่สำคัญ เราไม่ใช่คนหน้าตาดี แต่เราสวยขึ้นได้นี่! คนเราพัฒนาได้ อย่าคิดว่าตัวเองเป็นแบบนั้นก็ต้องอยู่แบบนั้นตลอด เราต้องเชื่อก่อนว่าเราดีขึ้นได้

 

อย่างแรกมาจากบุคลิกของเราก่อน เรื่องภายนอกใครว่าไม่สำคัญ น้องเคยดูหนังเรื่อง The Devil Wears Prada ไหม นางเอกได้มาทำงานในนิตยสารแฟชั่น เธอเป็นคนเก่ง แต่เธอไม่ค่อยแต่งตัว เธอไม่สนใจแฟชั่นด้วยซ้ำ และมองว่ามันเป็นเรื่องตื้นเขิน เธอถือว่าค่าของคนมันอยู่ที่ฝีมือ แต่เธอลืมไปว่าบุคลิกภาพก็สำคัญ และการทำงานในนิตยสารแฟชั่นก็ควรแต่งกายให้เหมาะกับการทำงานในนิตยสาร ที่สำคัญคือมันแสดงให้เห็นว่าเธอให้เกียรติสถานที่ทำงาน หลังจากที่เธอเปลี่ยนบุคลิก หันมาใส่ใจการแต่งกายให้สมกับทำงานแฟชั่น มันก็แสดงออกว่าเธอ ‘อิน’ กับสิ่งที่เธอทำ เข้าใจ ปรับตัว และแสดงมันออกมาให้คนอื่นเห็นผ่านการแต่งกาย เพราะฉะนั้นการแต่งกายตลอดจนบุคลิกภาพของเราสำคัญต่อการทำงานมาก

 

นึกแล้วพี่ยังตลกเลย วันก่อนพี่ไปมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งแล้วเจอป้ายรณรงค์ให้นักศึกษาอย่าใส่กางเกงขาสั้นหรือรองเท้าแตะมาเรียน พี่เห็นแล้วก็ยังแปลกใจว่าเขากล้าแต่งตัวแบบนั้นกันมาเรียนได้อย่างไร มันผิดกาลเทศะอย่างรุนแรง แปลกใจกว่านั้นคือนี่มันเป็นเรื่องที่ต้องบอกเลยหรือว่าอย่าใส่กางเกงขาสั้นหรือรองเท้าแตะมาเรียน มันน่าจะคิดกันได้นะ

 

การแต่งกายดีเป็นการแสดงออกว่าเป็นผู้มีวัฒนธรรม เป็นผู้ผ่านการเจียระไนมาแล้ว เป็นคนมีรสนิยม และได้รับการบ่มเพาะมาดี แต่งตัวดีเราก็ดูสง่าน่าชื่นชมไปด้วย ทำแล้วเราดูดี ทำไมเราจะไม่อยากทำล่ะ จริงไหม ยิ่งมาทำงานด้วยแล้ว เราก็อยากให้คนมองมาที่เราแล้วรู้สึกมั่นใจในตัวเรา ไม่ใช่มองมาแล้วรู้สึกว่า “โห…ขนาดเลือกเสื้อให้เข้ากับกางเกงมันยังเลือกไม่เป็น มันจะทำงานได้จริงๆ เหรอวะ” หรือพูดถึงเราแล้วบอกว่า “อ๋อ น้องคนที่แต่งตัวเป็นยัยเพิ้งน่ะเหรอ” มันก็ดูไม่ดี

 

ความคิดว่า ‘ฉันเป็นตัวฉันแบบนี้’ มันไม่ได้แปลว่าจะดีเสมอไปนะถ้าเราไปยึดติดกับมันว่าใครแตะต้องฉันไม่ได้เลย หรือกลายเป็นการหยุดตัวเองแล้วไม่พัฒนา แต่คิดกลับกัน ลองเติมความคิดเป็น ‘ฉันเป็นตัวฉันแบบนี้ และฉันเชื่อว่าฉันดีขึ้นได้อีก’ มันจะเปิดหูเปิดตาเราทันทีให้คิดว่าอะไรก็ตามที่เราทำแล้วตัวเราดีขึ้น เราจะพิจารณามัน เราจะไม่เป็นน้ำเต็มแก้ว

 

พูดถึงเรื่องนี้แล้วก็นึกถึงเวลาที่พี่บอกเพื่อนผู้ชายว่า “แกๆ ความเซอร์กับความซกมก ความสกปรก มันเป็นคนละเรื่องกันนะ” ฮ่าๆ

 

ไม่ได้บอกว่าต้องแต่งแบบคนนั้นคนนี้ น้องเป็นคนห้าวแบบนี้แหละ แต่ลองแต่งตัวที่เป็นคนห้าวที่มีสไตล์ ปรับลุคกันได้ ถือว่าอะไรที่ทำแล้วดีขึ้นเราก็ทำ แล้วเราต้องมั่นใจในตัวเองด้วย สไตล์ที่ดีที่สุดมาจากความมั่นใจของเรานี่แหละ แต่มีข้อแม้ว่ามั่นใจให้ถูกทางหน่อยนะ อย่าคิดว่าตัวเองเพอร์เฟกต์จนไม่คิดว่าจะต้องปรับปรุงอะไร อะไรที่ทำแล้วดีขึ้นก็ทำเถอะ

 

พี่ว่ามันก็สนุกดีนะที่พวกพี่ๆ เขาทักว่าเราไม่สวย ทำไมเราไม่แต่งตัวแบบคนนั้นคนนี้ แล้ววันหนึ่งเราทำให้เขาเห็นว่าฉันแต่งตัวดีในแบบที่เหมาะกับฉันได้นะ และฉันดูดีมากด้วย ฮ่าๆ คนได้ประโยชน์นี่คือน้องเลยนะ

 

และเอาอย่างนี้ ให้น้องคิดไว้อย่างหนึ่งว่าทำอย่างไรไม่ให้ตัวเราในอีก 5-10 ปีข้างหน้ามาเห็นรูปตัวเองแล้วอยากกรีดร้องว่านี่มันใคร! แต่งตัวอะไรของมันเนี่ย! แต่ให้เรากลับมาดูแล้วรู้สึกว่า เฮ้ย ตอนนั้นเราดูดี ตอนนี้เราก็ยังดูดีอยู่นี่หว่า

 

อย่างที่สอง คนเราจะดูดีขึ้นมาจากความสามารถของเราเอง หาตัวเองให้เจอว่าเราเก่งอะไรแล้วทำสิ่งนั้นให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ความเก่งของเรานี่แหละที่ทำให้เราดูดีขึ้น คนที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรนี่โคตรเท่เลยน้องเอ๊ย! พี่จะละลาย

 

ทำงานออกมาได้ดี คนก็ชื่นชมเรา เราก็ดูดีขึ้นในสายตาคนอื่นด้วย กลับกันนะครับ ถ้าอ้าปากมาแล้วเราพูดจาไม่ดี พูดอะไรโง่ๆ ทำตัวกลวงๆ ทำงานก็ไม่ดี จะโมหน้าจากเกาหลีจนดูดีแค่ไหนเราก็ดูแย่ เสน่ห์มันก็หายไปหมด มันจะเหลืออะไรให้คนชื่นชมในตัวเรา ว่าไหมครับ

 

พี่ว่าถ้าเราทำงานได้ดีและต้องดีมากๆ ด้วย เดี๋ยวมันจะเปลี่ยนจากเอาเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่นเรื่องความสวย กลายเป็นเอาเราไปชื่นชมว่าขยันให้ได้แบบน้องคนนี้นะ มาตรงเวลาให้ได้แบบน้องคนนี้นะ ตั้งใจทำงานให้ได้แบบน้องคนนี้นะ เรื่องงานแบบนี้ต้องยกให้น้องคนนี้เลยนะ เพราะน้องเขาตัวจริง โอ๊ย! เท่กว่าคนชมว่าเราสวยเยอะเลยน้อง!

 

แต่เหนืออื่นใด พี่จะบอกความลับอย่างหนึ่งให้ รู้ไหมคนเราจะดูดีที่สุดตอนไหน หล่อที่สุดตอนไหน สวยที่สุดตอนไหน

 

ตอนที่มีความสุขไงล่ะ

 

ความสุขมันเริ่มจากการภูมิใจในตัวเองก่อน มองเห็นความพิเศษในตัวเอง ยอมรับข้อดีข้อเสียของตัวเองได้ และเชื่อว่ามันจะพัฒนาให้ดีขึ้นได้ พอเรามีความสุขและทำให้คนอื่นมีความสุขไปด้วย เราก็จะมีเสน่ห์ดึงดูดคนอื่นๆ ให้อยากอยู่ใกล้ อยากชื่นชม ใครจะอยากอยู่กับคนอารมณ์ไม่ดี โมโหอาละวาดฟาดงวงฟาดงาใส่คนอื่นตลอด

 

แค่มีความสุข เราก็สวยขึ้นแล้วน้อง

 

ว่าแต่… พี่ก็อยากเห็นเหมือนกันว่าคนที่วิจารณ์หน้าตาคนอื่นนี่จะดูดีแค่ไหน ฮ่าๆ

 

ส่งคำถามดราม่าในที่ทำงานที่คุณสงสัยมาได้ที่อีเมล [email protected] หรืออินบ็อกซ์ไปที่ FB: ท้อฟฟี่ แบรดชอว์ 

 

ภาพประกอบ: Nisakorn R.

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising