×

กรมอุตุฯ เผย อากาศช่วงกลางวันแตะ 43 องศาฯ เตือนหลายจังหวัดในประเทศไทยตอนบนเสี่ยงเจอพายุฤดูร้อน 13-16 เมษายนนี้

12.04.2019
  • LOADING...

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศล่าสุดในประเทศ ล่าสุดพบว่าหลายพื้นที่มีอุณหภูมิสูงถึง 43 องศาฯ พร้อมออกประกาศเตือนผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีโอกาสเสี่ยงเจอพายุฤดูร้อนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันที่ 13-16 เมษายนนี้

 

12 เมษายน กรมอุตุนิยมวิทยารายงานพยากรณ์อากาศ พบว่าหลายจังหวัดมีค่าอุณหภูมิความร้อนสูงถึง 40 องศาฯ โดยเฉพาะจังหวัดแถบภาคเหนือที่พบค่าเฉลี่ยในแต่ละพื้นที่ประมาณ 30-43 องศาฯ ซึ่งพื้นที่ที่มีอากาศร้อนที่สุดคืออำเภอเถิน จังหวัดลำปาง เช่นเดียวกับจังหวัดตากที่อุณหภูมิสะสมอยู่ที่ 43 องศาฯ เหมือนกัน ขณะที่เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีค่าความร้อนอยู่ที่ 35 องศาฯ โดยประมาณ

 

นอกจากนี้กรมอุตุนิยมวิทยายังได้ออกประกาศฉบับที่ 2 ลงวันที่ 12 เมษายน 2562 เกี่ยวกับพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 13-16 เมษายน 2562) เผยว่าในช่วงวันที่ 13-16 เมษายน 2562 ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงฟ้าผ่า จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย โดยผลกระทบตามภาคต่างๆ มีดังนี้

 

ในช่วงวันที่ 13-14 เมษายน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดบึงกาฬ, สกลนคร, นครพนม, มุกดาหาร, ขอนแก่น, ชัยภูมิ ฯลฯ เช่นเดียวกับภาคตะวันออกที่มีจังหวัดนครนายก, ปราจีนบุรี, สระแก้ว, ฉะเชิงเทรา และชลบุรี เป็นพื้นที่เสี่ยงที่จะเจอกับพายุฤดูร้อน

 

ส่วนในช่วงวันที่ 15-16 เมษายน พื้นที่ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่, เชียงราย, พะเยา, แพร่ และน่าน รวมถึงจังหวัดต่างๆ ตามพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกก็มีโอกาสเสี่ยงเช่นกัน

 

ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยจะเริ่มแผ่เข้ามาปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกก่อน

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising