รัฐบาลฮ่องกงเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมของกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่ผลักดันโดยจีนแผ่นดินใหญ่ จำนวน 116 หน้า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (6 กรกฎาคม) โดยมีเนื้อหาสำคัญในการขยายอำนาจให้ตำรวจเพื่อจัดการกับผู้ที่บ่อนทำลายและสร้างความแตกแยกในฮ่องกง รวมถึงผู้ที่สมคบคิดกับต่างชาติและกลุ่มก่อการร้าย
การขยายอำนาจดังกล่าวถูกวิจารณ์ว่าเป็นการเสริมเขี้ยวเล็บให้แก่ตำรวจฮ่องกงอย่างไม่เป็นธรรมและละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่รัฐบาลฮ่องกงยืนยันว่าการดำเนินการส่วนใหญ่เป็นไปเพื่อสอดส่องและสืบสวนด้านความมั่นคง ซึ่งมีเนื้อหาสำคัญหลักๆ ดังนี้
การให้อำนาจตรวจค้นโดยไม่ต้องใช้หมายค้น
ภายใต้กฎหมายความมั่นคงฉบับนี้ ตำรวจฮ่องกงสามารถออกปฏิบัติการบุกตรวจค้นและหาหลักฐานในสถานที่ต้องสงสัยโดยไม่จำเป็นต้องขอหมายค้นจากศาล ซึ่งรัฐบาลฮ่องกงยืนยันว่าต้องเป็นการเข้าตรวจค้นในสถานการณ์พิเศษที่จำเป็น นอกจากนี้ยังรวมถึงการตรวจค้นรถยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ด้วย
การปิดกั้นอินเทอร์เน็ต
ตำรวจฮ่องกงจะมีอำนาจมากขึ้นในการลบเนื้อหาต่างๆ ที่โพสต์ลงในโลกออนไลน์ หากพิจารณาว่าเนื้อหานั้นก่อให้เกิดอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ นอกจากนี้ยังสามารถสั่งให้ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งของโซเชียลมีเดียที่เป็นปัญหาลบเนื้อหาและข้อความที่อันตรายได้
อำนาจในข้อนี้ครอบคลุมถึงเนื้อหาที่โพสต์ในฮ่องกงและต่างประเทศ และหากไม่ปฏิบัติตาม เจ้าหน้าที่สามารถขอให้ศาลออกคำสั่งยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และดำเนินการลบเนื้อหาหรือข้อความที่อันตรายดังกล่าว ตลอดจนสั่งการให้บุคคลหรือผู้ประกอบธุรกิจต่างๆ ส่งมอบบันทึกข้อความหรือช่วยถอดรหัสเข้าถึงเนื้อหาที่อันตราย ซึ่งหากขัดขืนคำสั่งจะมีโทษปรับสูงถึง 1 แสนดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 4 แสนบาท หรือจำคุก 1 ปี
ยึดทรัพย์และห้ามเดินทาง
หากบุคคลใดก็ตามที่ต้องสงสัยว่ากระทำการอันเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของจีน ตำรวจฮ่องกงสามารถขอคำสั่งศาลยึดหนังสือเดินทางของบุคคลนั้นได้ และหัวหน้าเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของฮ่องกงสามารถอายัดทรัพย์สินใดๆ ที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคง ขณะที่หัวหน้าผู้พิพากษาสามารถขอให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์ได้
ตรวจสอบองค์กรการเมืองต่างชาติ
ผู้บัญชาการตำรวจฮ่องกงสามารถสั่งการให้กลุ่มการเมืองหรือผู้แทนต่างชาติ เช่น ไต้หวัน ส่งมอบข้อมูลที่ต้องการ เช่น กิจกรรมความเคลื่อนไหว ข้อมูลการเงิน แหล่งรายได้ และข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ทางการฮ่องกง หากขัดขืนจะมีโทษปรับสูงถึง 1 แสนดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 4 แสนบาท และจำคุก 6 เดือน หรือ 2 ปี หากให้ข้อมูลเท็จ
อำนาจสอดส่องแบบลับๆ
หัวหน้าคณะผู้บริหารของฮ่องกงมีอำนาจอนุมัติคำขอของตำรวจในการสกัดกั้นการสื่อสารและปฏิบัติการสอดส่องเป้าหมายอย่างลับๆ ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง
ผู้บัญชาการตำรวจสามารถสั่งการให้สอดส่องและเฝ้าระวังแบบไม่ล่วงล้ำสิทธิของประชาชนได้ ขณะที่การอนุมัติให้ปฏิบัติภารกิจลับนี้จำเป็นต้องพิจารณาอย่างระมัดระวัง ซึ่งต้องมีการทดสอบตามความจำเป็นและเหมาะสมก่อนตัดสินใจ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
