“หนึ่งปีที่ผ่านมาเราอยู่ด้วยกันทุกกระบวนการ เริ่มตั้งแต่เวิร์กช็อป 3 เดือน ถ่ายทำอีก 3 เดือน หลังจากนั้นก็ต้องถ่ายงานโพสต์โปรดักชัน สิ่งที่ผมพบคือ เฌอเป็นคนสู้มาก คือเขายังใหม่กับการแสดง แล้วสำหรับคนที่ยังใหม่ การแสดงมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ” – เจมส์
Homestay หนังไทยแนวทริลเลอร์แฟนตาซี ได้รับความสนใจทันทีนับตั้งแต่เปิดชื่อนักแสดงนำ เจมส์-ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ และ เฌอปราง อารีย์กุล กัปตันสาวจาก BNK48 ออกมาเมื่อหลายเดือนก่อน ล่าสุดหลังจากหนังเข้าฉายไปได้ไม่กี่วัน กระแสตอบรับที่ออกมาในด้านบวกทั้งเนื้อหาไปจนถึง ‘เคมี’ การแสดงของทั้งคู่ก็ยิ่งส่งให้หนังได้รับความสนใจยิ่งขึ้นไปอีก
เรื่องน่าสนใจคือ ตลอด 5 ปีนับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่วงการจาก Hormones วัยว้าวุ่น ซีซัน 2-3 เจมส์คือหนึ่งในนักแสดงคลื่นลูกใหม่ที่ฝีมือการแสดงโดดเด่นและเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ปีแล้วเจมส์เพิ่งมีผลงานในหนังดังระดับปรากฏการณ์อย่าง ฉลาดเกมส์โกง และกลับมาอีกครั้งในปีนี้ด้วยบทบาทที่แทบจะแบกหนังไว้ทั้งเรื่องกับ Homestay
ด้าน เฌอปราง อารีย์กุล ถ้าบอกว่า ‘เธอ’ และสมาชิกวง BNK48 คือหนึ่งในปรากฏการณ์แห่งวงการบันเทิงตลอดปีนี้ เชื่อว่าทุกคนคงเห็นด้วย แต่ล่าสุดกับผลงานแสดงแรกในชีวิตใน Homestay เราคิดว่านี่คือการยกระดับและพิสูจน์ ‘ความสามารถ’ ของตัวเองขึ้นไปอีกขั้น โดยไม่มีคำว่า ‘กัปตัน’ หรือวงเข้ามาเกี่ยวข้อง
และแน่นอนที่สุดสำหรับการพบกัน ‘ครั้งแรก’ ระหว่างกันและกัน THE STANDARD POP เชื่อว่าการเขย่าบีกเกอร์และหลอดทดลองครั้งนี้นั้นเต็มไปด้วยเคมีที่น่ารักและน่าสนใจ ถ้าใครเคยเกลียดสูตรเคมีและห้องเรียนวิทยาศาสตร์ บอกเลยว่าการได้อ่านเรื่องราวการทำความรู้จักของเจมส์กับเฌอปรางนั้นน่าจะทำให้คุณเกลียดโมเมนต์การท่องสูตรเคมีลงได้ชั่วคราว
Homestay กำลังเข้าฉาย อยากให้ทั้งสองคนเลือก ‘คำใบ้’ สักหนึ่งคำเพื่อเล่าเรื่องราวในหนังเรื่องแรกที่ทำให้เจมส์และเฌอปรางได้มาเจอกัน
เจมส์: ผมขอใช้คำว่า ‘Homestay’ แล้วกันครับ ที่เลือกใช้คำนี้เพราะว่ามันลิงก์กับเรื่องราวซึ่งเล่าถึงวิญญาณเร่ร่อนที่ได้รับรางวัลให้ลงมาเกิดใหม่อยู่ในร่างชั่วคราว ซึ่งไอ้การอยู่ในร่างชั่วคราวเนี่ย เราเรียกมันว่า Homestay โดยมีเงื่อนไขว่าภายใน 100 วัน วิญญาณตนนี้ต้องหาคำตอบให้ได้ว่าร่างของ ‘มิน’ ที่มันเข้ามาอยู่เนี่ย ตายเพราะอะไร และห้ามให้คนอื่นรู้ด้วยว่าคนที่อยู่ในร่างตอนนี้ไม่ใช่มิน แต่ว่าเป็นวิญญาณ
เฌอปราง: เฌอเหรอ… ใช้คำว่า ‘ครบรส’ เพราะหนังมีทั้งความทริลเลอร์ แฟนตาซี สนุกสนาน โรแมนติก มีดราม่า มีความอลังการงานสร้างของ CG มีนักแสดงคุณภาพ เป็นความครบรสมากๆ เป็นเรื่องราวของตัวละครที่ค่อนข้างวัยรุ่น ซึ่งชีวิตของเขาจะเกี่ยวข้องกับทั้งเพื่อน ครอบครัว การเรียน แฟน ที่สำคัญ Homestay เป็นหนังที่ใครๆ ก็ดูได้ค่ะ
เจมส์: ผมว่ามันคือการเริ่มใหม่ครับ คือพอเรามาอยู่ในร่างที่เรียกมันว่า Homestay มันคือการเริ่มใหม่ เพราะวิญญาณตัวนี้มันจะไม่มีความทรงจำเดิมเหลืออยู่เลย ฉะนั้นการเข้ามาอยู่ในร่างนี้มันต้องทำตัวเนียนกับทุกอย่าง ทั้งครอบครัวของมินและพี่พาย คนที่เราเจอครั้งแรกแล้วเกิดการปิ๊ง มันเลยเหมือนกับว่าวิญญาณที่เข้ามาอยู่ในร่างมินมันจะเรียนรู้ทุกอย่างไปพร้อมกับคนดูเลย เฟิร์สอิมเพรสชันที่เจอกับพาย
“เฌอติดภาพลักษณ์จาก ‘ฉลาดเกมส์โกง’ มา ซึ่งในเรื่องเขาจะเป็นเพลย์บอยนิดๆ แต่พอได้เจอ ได้รู้จัก ไม่ใช่แบบนั้นเลย เจมส์เป็นคนจริงจัง เป็นคนที่พอคุยด้วยแล้วเข้าใจว่าต้องทำอะไรต่อ ดีใจที่ได้มาเจอเจมส์ เพราะถ้าไม่เจอเจมส์ก็ไม่รู้ว่าจะเจอใคร” – เฌอปราง
แล้วเฟิร์สอิมเพรสชันระหว่างเจมส์กับเฌอปรางล่ะครับ เป็นอย่างไรบ้าง ยังจำได้ไหม
เจมส์: เราเจอกันครั้งแรกตอนที่แคสต์คู่ ซึ่งย้อนกลับไปเมื่อเดือนกันยายนของปีที่แล้ว ในตอนนั้นผมยังไม่รู้จักเฌอเลย ผมเจอเฌอครั้งแรก ผมนึกว่าเฌออายุ 16 เพราะเขาดูเด็ก อ๋อ น้องคนนี้เหรอ
เฌอปราง: หารู้ไม่… (หัวเราะ)
เจมส์: อ้าว 22 แล้วนี่นา เขาแก่กว่าผมปีหนึ่งตามบทเป๊ะ ผมรู้สึกดีนะครับที่ได้ร่วมงานด้วย หนึ่งปีที่ผ่านมาเราอยู่ด้วยกันทุกกระบวนการ เริ่มตั้งแต่เวิร์กช็อป 3 เดือน ถ่ายทำอีก 3 เดือน หลังจากนั้นก็ต้องถ่ายงานโพสต์โปรดักชัน สิ่งที่ผมพบคือ เฌอเป็นคนสู้มาก คือเขายังใหม่กับการแสดง แล้วสำหรับคนที่ยังใหม่ การแสดงมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ มันคือสิ่งที่เข้าใจยากเหมือนกัน
ประกอบกับบทที่เฌอได้รับมีอะไรหลายๆ อย่างที่ท้าทาย ทั้งในด้านอารมณ์หรือแอ็กชันการแสดง ผมเห็นตั้งแต่วันที่เฌอไม่เก็ตกับสิ่งนั้น เฌอต้องไปเรียนการแสดงเพิ่ม ต้องเวิร์กช็อป เราเจอกันประมาณ 30 ครั้งได้มั้งช่วงเวิร์กช็อป เฌอสู้จนถึงวันที่ต้องแสดงจริง ซึ่งเขาก็ทำมันออกมาได้ดีมาก และผมนับถือในความพยายามตรงนี้ ผมเชื่อว่าถ้าใครได้ดูหนังก็จะเห็นแน่ๆ ถึงความพยายามของเขาในแง่ของการเป็นงานแสดงชิ้นแรก
เฌอปราง: จริงเหรอ ขอบคุณค่ะ (ยิ้ม) แต่จริงๆ เจมส์เหมือนเป็นอาจารย์ของเฌอ เพราะถ้าเฌอไม่เห็นเจมส์แสดง เฌอก็จะไม่เข้าใจว่าจริงๆ แล้วการแสดงมันคืออะไร ตอนเวิร์กช็อปเขาก็ช่วยอะไรเฌอเยอะมาก
เฟิร์สอิมเพรสชันที่ได้เจอกับ ‘พระเอก’ คนแรกในฐานะนักแสดงของเราล่ะเป็นอย่างไรบ้าง
เฌอปราง: เฌอเกร็ง เพราะเขาเล่นหนังมาก่อนหลายเรื่องแล้ว แต่เฌอติดภาพลักษณ์จาก ฉลาดเกมส์โกง มา ซึ่งในเรื่องเขาจะเป็นเพลย์บอยนิดๆ แต่พอได้เจอ ได้รู้จัก ไม่ใช่แบบนั้นเลย เจมส์เป็นคนจริงจัง เป็นคนที่พอคุยด้วยแล้วเข้าใจว่าต้องทำอะไรต่อ ดีใจที่ได้มาเจอเจมส์ เพราะถ้าไม่เจอเจมส์ก็ไม่รู้ว่าจะเจอใคร (หัวเราะ)
“ชีวิตการทำงานเราคล้ายกันมากครับ เฌอทำ BNK48 ผมทำ 9×9 เฌอเป็นกัปตัน ส่วนผมเป็นลีดเดอร์ ฉะนั้นบางทีเวลามีปัญหาอะไร เราเอามาแชร์กัน เจอปัญหาตรงกัน มันคุยกันรู้เรื่อง และมีเรื่องให้เราคลิกกันมากขึ้น” – เจมส์
คิดว่า ‘เคมี’ ระหว่างเจมส์และเฌอปราง เข้ากันได้ดีขนาดไหนครับ
เจมส์/เฌอปราง: (มองหน้ากันแล้วหัวเราะ)
เฌอปราง: ตอนแรกก็คิดว่าคงเข้ากันไม่ได้
เจมส์: โอ้โห เจ็บเนอะ เข้ากันไม่ได้
เฌอปราง: คือคิดว่าเจมส์มันน่าจะเป็นอีกประเภทหนึ่งซึ่งต่างจากเรา (หัวเราะ) คือเฌอเป็นพวกลุยๆ ชิลๆ อะไรก็ได้ แต่อย่างที่บอกว่าเฌอติดภาพมาจาก ฉลาดเกมส์โกง จริงๆ เลยนึกว่าเจมส์จะเป็นประเภทแบบ…
ประมาณเพลย์บอย กะล่อนอะไรแบบนี้เหรอ
เฌอปราง: เออ นิดๆ หรือว่าคุณหนูนิดหนึ่ง เลยนึกว่าอาจจะได้แค่ทำงานร่วมกัน แต่พอเอาเข้าจริงๆ เจมส์เป็นคนจริงจังกับงาน พอคุยไปคุยมา อ้าว ทัศนคติการทำงานเราคล้ายกัน แล้วเป็นคนลุย เป็นคนชิลด้วยกันทั้งคู่ เออ สุดท้ายมันก็เข้ากันได้แหละ (หันไปมองเจมส์) เข้ากันไปไหมนะ (หัวเราะ)
เจมส์: ได้สิ! ผมว่าเรามีหลายอย่างที่อยู่ในโพสิชันคล้ายๆ กัน
เฌอปราง: เราเป็นกัปตันวงเหมือนกัน
เจมส์: ชีวิตการทำงานเราคล้ายกันมากครับ เฌอทำ BNK48 ผมทำ 9×9 เฌอเป็นกัปตัน ส่วนผมเป็นลีดเดอร์ ฉะนั้นบางทีเวลามีปัญหาอะไร เราเอามาแชร์กัน เจอปัญหาตรงกัน มันคุยกันรู้เรื่อง และมีเรื่องให้เราคลิกกันมากขึ้น
เฌอปราง: วันๆ เราทำกันแต่งาน (หัวเราะ)
เจมส์: ใช่ครับ ถึงเวลาก็ต้องมาซ้อม มาถ่ายงาน มาโปรโมตงาน แล้วเดี๋ยวก็ต้องออกไปเพอร์ฟอร์ม
เฌอปราง: ชีวิตเราเลยค่อนข้างคล้ายกัน เพียงแต่คนนี้เป็นนักแสดงแล้วถึงมาร้องเพลง ส่วนเราเริ่มต้นจากร้องเพลง เป็นสมาชิกวง BNK48 แล้วถึงไปเป็นนักแสดง
“เฌอไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะได้มาแสดงหรือมาอยู่ในวงการหนังได้ แล้วพอได้รับโอกาสให้ทำ เฌอก็ทำเต็มที่ ซึ่งเฌอได้รับอะไรกลับมาเยอะมาก ตัวเฌอเองเติบโตมากขึ้น ภายในของเฌอได้ปลดล็อกอะไรหลายอย่างมากจากการแสดง รวมถึงได้เรียนรู้การทำงานเยอะขึ้นมาก สุดท้ายเลยคือภูมิใจที่ทำมันสำเร็จ” – เฌอปราง
การแสดงดูไม่ค่อยน่าห่วงแล้ว การเป็นลีดเดอร์ของวง 9×9 ล่ะเป็นอย่างไรบ้าง คิดว่าน่าจะได้ประสบการณ์ใหม่พอสมควร
เจมส์: เหมือนว่าเส้นเลือดในสมองผมกำลังจะแตกครับ
เฌอปราง: (หัวเราะ) บ่นเยอะมาก บ่นเรื่อง
เจมส์: จริงๆ ถ้าให้คนอื่นเป็นลีดเดอร์มันอาจจะไม่ขนาดนี้ แต่ว่าผมมันมีความ…
เฌอปราง: Perfectionist
เจมส์: ใช่ ผมเป็นพวก perfectionist อยู่เหมือนกัน ฉะนั้นเวลาซ้อม เพอร์เฟกต์ได้มากกว่านี้นี่ เวลาเจอเฌอ ผมจะเป็นประเภทขอบ่นหน่อย ไม่ไหวแล้ว
เฌอปราง: ซึ่งก็เหมือนกัน แต่เฌอปล่อยวางได้เร็วกว่า ต้องปล่อยวางค่ะ ความจริงคือนั่งฟังมันบ่นเฉยๆ แล้วก็บอกว่าเจอเหมือนกัน แต่เชื่อเถอะว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป
ทำไมลีดเดอร์ของวง 9×9 ถึงต้องเป็นเจมส์
เจมส์: มันเกิดขึ้นจากการโหวตครับ มันคือวันที่เราเข้าไปคุยกับผู้ใหญ่ช่วงกำลังจะเริ่มต้นโปรเจกต์ 9×9 ทุกคนก็โหวตกันว่าจะให้ใครเป็นลีดเดอร์ของวง แล้วสรุปออกมาว่าเป็นผม
คือผมมันคงจะเป็นคนพูดตรงๆ มั้ง ถามว่าเกรงใจไหม เกรงใจนะ แต่ในพาร์ตการทำงานต้องพูดก่อน แล้วค่อยมาเคลียร์กันทีหลัง ถ้าไม่สบายใจ เพราะผมเป็นคนอย่างนั้นมั้ง เขาถึงเลือกผม เพราะถ้ามีอะไรผมพูดหมดเลย
ความจริงหน้าที่ของเราคือเป็นคนที่แค่ดูภาพรวม เพราะวงของพวกผม ทุกคนมันมาไดเรกชันเดียวกันหมดแล้วแหละ เราแค่คอยนำอย่าให้วงสะเปะสะปะ เสริมให้มันดี คอยอุดรอยรั่วที่อาจจะเกิดขึ้นของโปรเจกต์
เฌอปราง: เอาจริงๆ หน้าที่เราก็คล้ายกัน เฌอแค่ดูภาพรวมแล้วก็คอยประสานงานระหว่างผู้ใหญ่กับคนอื่นๆ แล้วก็ไม่ได้ไป force ใครว่าจะต้องเป็นแบบไหนหรือต้องทำยังไง ซึ่งหน้าที่ตรงนี้มีความยากตรงที่เราต้องเข้าใจผู้ใหญ่ และเราก็ต้องเข้าใจเด็กด้วย ซึ่งก็ต้องหาทางเกลี่ยให้เป็นกลางที่สุดและดีที่สุดสำหรับภาพรวมของวง
“เมื่อก่อนเฌอคิดว่าตัวเองเป็นคนชินชากับอารมณ์ เหมือนไร้ความรู้สึกไปแล้วระดับหนึ่ง แต่จริงๆ แล้วคือเฌอกดมันจนไม่รู้ว่ามันยังอยู่ตรงนี้ จนเฌอได้มาปลดล็อกกับการแสดง เพราะฉะนั้นช่วงนี้เลยกลายเป็นคนเซนสิทีฟไปเลย” – เฌอปราง
เฌอปรางล่ะครับ ผ่านการทำความรู้จัก ‘พระเอกคนแรก’ มาแล้ว การทำความรู้จักกับ ‘การแสดง’ ใน ‘หนังเรื่องแรก’ เป็นอย่างไรบ้าง
เฌอปราง: เอาจริงๆ เฌอไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะได้มาแสดงหรือมาอยู่ในวงการหนังได้ แล้วพอได้รับโอกาสให้ทำ เฌอก็ทำเต็มที่ ซึ่งเฌอได้รับอะไรกลับมาเยอะมาก ตัวเฌอเองเติบโตมากขึ้น ภายในของเฌอได้ปลดล็อกอะไรหลายอย่างมากจากการแสดง รวมถึงได้เรียนรู้การทำงานเยอะขึ้นมาก สุดท้ายเลยคือภูมิใจที่ทำมันสำเร็จ (หัวเราะ) ตอนนี้อยากให้ทุกคนได้ดูหนังเรื่องนี้มากค่ะ
ปลดล็อกที่ว่าคือปลดล็อกอะไรในตัวเราบ้าง
เฌอปราง: ปลดล็อกเรื่องอารมณ์ของเฌอ เมื่อก่อนเฌอคิดว่าตัวเองเป็นคนชินชากับอารมณ์ เหมือนไร้ความรู้สึกไปแล้วระดับหนึ่ง แต่จริงๆ แล้วคือเฌอกดมันจนไม่รู้ว่ามันยังอยู่ตรงนี้ จนเฌอได้มาปลดล็อกกับการแสดง เพราะฉะนั้นช่วงนี้เลยกลายเป็นคนเซนสิทีฟไปเลย
ถ้ากองถ่ายคือห้องเรียน เฌอได้เรียนรู้อะไรกลับมาบ้างจากการทำงานแสดงครั้งแรก ติดใจไหม ชอบมันในมุมไหนบ้าง
เฌอปราง: เฌอเรียนรู้ทุกอย่างใหม่หมดเลยจริงๆ ทั้งการทำงานในกอง การทำงานกับผู้กำกับ การทำงานร่วมกับเพื่อนนักแสดง ฯลฯ ซึ่งสนุกมากๆ เฌอสนุกแล้วก็เอ็นจอยกับการมาทำงานกอง ยังรู้สึกเสียดายอยู่เลย อ้าว ครั้งสุดท้ายที่ออกกองแล้วเหรอ บางทีไม่มีบทของตัวเองก็จะขอไปกองหน่อยหนึ่ง ไปดูว่าเขาทำอะไรกัน เราอยากไป อยากอยู่ในกองถ่ายอีก อยากแสดงอีก เริ่มติดใจการแสดงแล้ว
“มีคนถามผมเยอะมากครับว่า เฮ้ย เฌอปรางตัวจริงเป็นไง เฌอปรางน่ารักหรือเปล่า ผมก็จะบอกทุกครั้งว่าน่ารักครับ แล้วก็ไนซ์มากด้วย คนอาจจะมองว่าพอ BNK48 มีกฎเยอะ การทำงานด้วยจะยากหรือเปล่า แต่ผมพูดเลยว่าไม่ยาก เฌอไนซ์และดีมากครับสำหรับผม” – เจมส์
เจมส์ล่ะครับ ตลอด 5 ปี ผ่านการแสดงมามากมาย ยังมีมุมมองอะไรใหม่ๆ ให้ต้องเรียนรู้เพิ่มอีกไหม
เจมส์: โอ้โห ทุกครั้งเวลาออกกองมันคือการเรียนรู้ครับ โดยเฉพาะเรื่องนี้ที่ทุกอย่างครบหมดเลยสำหรับการเรียนรู้ ทั้งเอฟเฟกต์ สลิง กรีนสกรีน การเล่นจังหวะกับกล้อง ฯลฯ สกิลการแสดงผมเพิ่มขึ้นแบบเยอะมากๆ
คิดว่าหลังจากนี้ถ้ามีคนถามถึง เฌอปราง BNK48 เจมส์จะเล่าถึงเฌอปรางในแบบไหนบ้าง
เจมส์: จริงๆ มีคนถามผมเยอะมากครับว่า เฮ้ย เฌอปรางตัวจริงเป็นไง เฌอปรางน่ารักหรือเปล่า ผมก็จะบอกทุกครั้งว่าน่ารักครับ แล้วก็ไนซ์มากด้วย คนอาจจะมองว่าพอ BNK48 มีกฎเยอะ การทำงานด้วยจะยากหรือเปล่า แต่ผมพูดเลยว่าไม่ยาก เฌอไนซ์และดีมากครับสำหรับผม
เฌอปราง: (ปรบมือ) ขอบคุณค่ะ
ได้ทำความรู้จักกันมาปีกว่า คุณชอบภาพที่เฌอปรางเป็น ‘ไอดอล’ หรือว่าชอบเฌอปรางในแบบที่เป็น ‘นักแสดง’ มากกว่ากัน
เจมส์: สำหรับผม ผมชอบที่เฌอเป็นเฌอแบบไม่ต้องเป็นไอดอลมากกว่า ผมชอบเฌอแบบในหนัง เฌอแบบในหนังน่ารักมาก… ผมตอบอะไรผิดหรือเปล่า ทำไมทุกคนเงียบ (หัวเราะ)
“เวลาเจอเฌอ เฌอเขาจะมีซองวิตามินมาให้ แล้วก็บอกว่า อะ กินหน่อยเถอะ เดี๋ยวจะตายซะก่อน” – เจมส์
เฌอปรางล่ะครับ ถ้ามีคนถามถึง เจมส์ ธีรดนย์ คิดว่าจะเล่าถึงพระเอกคนแรกในมุมแบบไหน
เฌอปราง: เจมส์เป็นคนตลกมากกว่าที่คิด และเป็นคนจริงจังกับการทำงานมาก มากๆๆ ทุ่มมาก เฌอรู้สึกชื่นชม เพราะเหมือนได้เจอคนประเภทเดียวกัน คือทำแต่งาน แต่บางทีก็รู้สึกว่าอยากให้ดูแลตัวเองบ้าง เพราะใกล้ตายแล้ว (หัวเราะ)
เจมส์: คือเราจะมีกรุ๊ปแชตที่มีผู้กำกับ ทีมงาน มีทีมนักแสดงไว้คุยงานกัน มีอยู่วันหนึ่งแจ็กพอตมาก ผมเข้าโรงพยาบาลเพราะไซนัสอักเสบแล้วลามลงคอ แล้วสักพักเฌอก็ส่งรูปกลับมาในกรุ๊ปว่าอยู่โรงพยาบาลเหมือนกัน คือเข้าโรงพยาบาลวันเดียวกัน แล้ววันต่อมาเราก็ต้องออกไปทำงานด้วยกันต่อ
เฌอปราง: ใช่ ต่างคนต่างทำงาน คือถอนสายน้ำเกลือออกไปทำงานทั้งคู่
“เฌอรู้สึกว่าอย่างอื่นเจมส์โอเคหมดแล้ว ยกเว้นเรื่องสุขภาพ แต่เราก็เข้าใจนะว่าทำไมเขาถึงลุยขนาดนี้ แต่บางทีสุขภาพก็สำคัญ ควรจะพักบ้าง” – เฌอปราง
ชมกันเยอะมากแล้ว ไหนลองสลับกันพูดถึงข้อเสียของแต่ละคนหน่อยครับ
เฌอปราง: ไม่รู้ว่ามันเป็นข้อเสียหรือเปล่า ที่เฌอรู้สึกว่าอย่างอื่นเจมส์โอเคหมดแล้ว ยกเว้นเรื่องสุขภาพ แต่เราก็เข้าใจนะว่าทำไมเขาถึงลุยขนาดนี้ แต่บางทีสุขภาพก็สำคัญ ควรจะพักบ้าง
เจมส์: เวลาเจอเฌอ เฌอเขาจะมีซองวิตามินมาให้ แล้วก็บอกว่า อะ กินหน่อยเถอะ เดี๋ยวจะตายซะก่อน (หัวเราะ)
ส่วนของเฌอ ที่จริงผมไม่ได้มองว่ามันเป็นข้อเสียอะไรขนาดนั้น แต่ตอบแบบนี้ก็สนุกดี คือเฌอรับมุกไม่เป็น (หัวเราะ) แล้วผมเป็นคนที่ชอบเล่นมุก
เฌอปราง: อันนี้เป็นเรื่องที่เฌอก็รู้ตัว แต่เฌอไม่สามารถจริงๆ แล้วเจมส์เป็นคนที่ปล่อยมุกตลอดเวลาอยู่ในกอง แล้วเฌอก็จะแบบ…
มุกแบบไหนเหรอ
เจมส์: ให้เฌอเล่นดีกว่า ความจริงผมเทรนด์เฌอไปมุกหนึ่งนะครับ
เฌอปราง: มุกอะไรวะ (กระซิบคุยกัน)
พร้อมไหมครับ เดี๋ยวจะนับถอยหลังให้…
เฌอปราง: ถึงเราจะไม่ใช่โซเดียม แต่เราก็คอลไลน์ได้นะ (หัวเราะ)
เจมส์: ไม่ดีเหรอ มันออกจะดี นี่ผมอุตส่าห์เลือกมุกวิทยาศาสตร์มาให้เฌอเลยนะ
ในเมื่อ Homestay เกี่ยวข้องกับการสิงร่าง งั้นถ้าเจมส์และเฌอปรางได้รางวัลให้เข้าไปอยู่ในร่างของอีกคนได้หนึ่งวัน คุณคิดว่าอยากจะทำอะไรเมื่ออยู่ในร่างของอีกฝ่ายบ้าง
เฌอปราง: โอ้โห ถ้าเฌอไปอยู่ร่างเจมส์ตอบง่ายมาก เฌอจะนอนทั้งวันค่ะ จะไปนอนแทนให้
เจมส์: ถ้าอยู่ในร่างเฌอปรางหนึ่งวัน ผมอยากลองได้โอกาสในวันที่เฌอปรางมีอีเวนต์ดูครับ ผมอยากลองเต้นโอนิกิริแล้วมีคนร้องตามดูบ้าง
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า