ค่าเงินหยวนของจีนอ่อนค่าราว 0.4% สู่ระดับ 7.2552 หยวนต่อดอลลาร์ นับเป็นการอ่อนค่ามากที่สุดนับแต่เดือนมกราคม 2008 ขณะที่ดัชนี Hang Seng China Enterprises ซึ่งเป็นดัชนีที่ติดตามหุ้นของบริษัทจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกง ดิ่งลงกว่า 5% กดดันให้ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกง ดิ่งลงเกือบ 5% ขณะที่ดัชนี CSI 300 ลดลงกว่า 2%
ราคาหุ้นของบริษัทด้านเทคโนโลยีอย่าง Meituan -11.4%, JD.com -10.7%, Alibaba -9.7% และ Tencent Holdings -8.3%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เกิดอะไรขึ้นกับ ‘ฮ่องกง’ ทำไมสถานะ ‘ศูนย์กลางทางการเงินของเอเชีย’ กำลังถูกสั่นคลอน และอาจกลายเป็นแค่อดีต
- ส่องกรณีศึกษาการเติบโตของ เศรษฐกิจสิงคโปร์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่รออยู่ข้างหน้า
- เปิดจุดเด่น เวียดนาม หลังจ่อขึ้นแท่นประเทศที่คว้าชัยในยุค Deglobalization
การดิ่งลงอย่างหนักในของตลาดหุ้นฮ่องกงวันนี้ (24 ตุลาคม) เป็นผลจากความกังวลต่อนโยบายของ สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีน ซึ่งมีท่าทีว่าจะยังคงนโยบาย Zero-COVID พร้อมกับสนับสนุนธุรกิจให้อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ ทำให้เกิดความกังวลว่าบริษัทต่างๆ อาจต้องเผชิญกับนโยบายคุมเข้มของรัฐบาลจีน
จัสติน ถัง หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ United First Partners กล่าวว่า ตลาดกังวลจากการที่ผู้สนับสนุนนโยบายของ สีจิ้นผิง หลายรายถูกเลือกเข้ามาร่วมกับรัฐบาล ทำให้ สีจิ้นผิง มีโอกาสที่จะออกกฎหมายหรือนโยบายต่างๆ ที่ไม่ส่งผลดีกับตลาดหุ้นออกมาได้ง่ายมากขึ้น
ขณะที่ ดิกกี หว่อง กรรมการบริหารของ Kingston Securities กล่าวว่า ตลาดหุ้นฮ่องกงกำลังเกิดการตื่นตระหนกขาย (Panic Selling) เห็นได้ชัดว่านักลงทุนค่อนข้างจะไม่เชื่อมั่นต่ออนาคตของเศรษฐกิจจีน
อ้างอิง: