×

จีจี้ BNK48 สำรวจเส้นทางแห่งการเติบโตผ่าน 7 บทสนทนาที่บ่งบอกตัวตนภายใต้ ‘เสียงหัวเราะ’ ที่คุ้นเคย

06.02.2021
  • LOADING...
จีจี้ BNK48 สำรวจเส้นทางแห่งการเติบโตผ่าน 7 บทสนทนาที่บ่งบอกตัวตนภายใต้ ‘เสียงหัวเราะ’ ที่คุ้นเคย

ตลอดระยะเวลาร่วม 3 ปีบนเส้นทางสายไอดอลของ จีจี้-ณัฐกุล พิมพ์ธงชัยกุล สมาชิก BNK48 รุ่นที่ 2 เธอใช้ ‘เสียงหัวเราะ’ คอยสร้างความสุขให้กับแฟนคลับอย่างสม่ำเสมอ และไม่เคยหยุดพัฒนาความสามารถเพื่อให้ตัวเองพร้อมกับโอกาสที่ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไร

 

จนในที่สุดโอกาสครั้งสำคัญก็มาถึง เมื่อจีจี้สามารถคว้าชัยชนะการแข่งขัน BNK48 Janken Tournament 2020 มาได้สำเร็จ และได้รับตำแหน่งเซ็นเตอร์คนใหม่ในซิงเกิลอัลบั้มชุดที่ 3 Warota People (หัวเราะเซ่)

 

THE STANDARD POP จึงขอพาแฟนๆ มาร่วมสำรวจเส้นทางแห่งการเติบโตของจีจี้ ผ่าน 7 บทสนทนาที่บ่งบอกตัวตนของเธอภายใต้ ‘เสียงหัวเราะ’ ที่เราคุ้นเคย 

 

อ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่นี่

https://thestandard.co/gygee-bnk48/

 

รับชมมิวสิกวิดีโอ Warota People (หัวเราะเซ่) ได้ที่นี่

 

 

 

THE STANDARD POP: จีจี้ในซิงเกิล ฤดูใหม่ กับตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน

 

จีจี้ BNK48: รู้สึกว่าทัศนคติหรือการมองอะไรต่างๆ ของหนูเหมือนเดิมนะ แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองนิ่งขึ้น เราคิดมากขึ้นในการพูดแต่ละอย่าง เหมือนเราได้เรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง อะไรที่มันไม่ดีเราก็ปรับมาตลอดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ด้วยประสบการณ์ที่มากขึ้น มันทำให้หนูมีความมั่นใจมากขึ้น

 

แฟนคลับก็เคยมาบอกว่าแววตาของหนูดูโตขึ้น เพราะว่าแววตาหนูในตอนนั้นแป๋วมาก และตอนที่กลับมานั่งดูมิวสิกวิดีโอ ฤดูใหม่ อีกรอบ วีก็บอกหนูว่าทำไมจีจี้ตาแป๋วจัง หนูเลยคิดว่าแววตาหนูเปลี่ยนไป แต่หนูก็รู้สึกว่ายังเป็นคนเดิมนะ เหมือนเราค่อยๆ เรียนรู้และโตขึ้นโดยที่เราไม่ได้ตั้งตัว 

 

 

THE STANDARD POP: หลังจากซิงเกิล ฤดูใหม่ จีจี้ก็ไม่ติดเซ็มบัตสึซิงเกิลหลักถึง 2 ซิงเกิลคือ BNK Festival และ Beginner ช่วงเวลานั้นทำให้จีจี้ค้นพบอะไรบ้าง

 

จีจี้ BNK48: มันทำให้หนูได้ทบทวนตัวเองหลายๆ อย่างเหมือนกัน เช่น ทำไมเราถึงไม่ติด เราต้องพยายามขนาดไหนถึงจะไปอยู่ตรงนั้นได้ แล้วใครจะรู้บ้างล่ะว่าเบื้องลึกเบื้องหลังเราพยายามขนาดไหน บางทีเวลาหนูเห็นกระแสในโซเชียลที่บอกว่าคนนั้นคนนี้ไม่พยายามเลย หนูโกรธมากเลยนะที่บอกว่าเพื่อนหนูหรือใครก็ตามไม่พยายาม เพราะเรารู้สึกว่าทุกคนที่อยู่ตรงนี้มีความพยายามในแบบของตัวเองหมด

 

อีกอย่างคือหนูค้นพบว่าการติดเซ็มบัตสึมันขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายอย่างมากๆ ทั้งความพร้อม ตัวเพลง แล้วก็จังหวะที่เหมาะสมของมัน ซึ่งหนูว่าเรื่องจังหวะที่เหมาะสมมันคือสิ่งที่เรากำหนดไม่ได้ หนูจึงตกลงกับตัวเองว่าถ้าไม่ติดก็ไม่เป็นไร ถือว่าเราก็มีเวลาในการพัฒนาตัวเองมากขึ้น เราบอกกับตัวเองเสมอว่าเราจะพัฒนาตัวเองในทุกๆ ด้าน เพื่อให้เราพร้อมที่สุดเมื่อโอกาสมาถึง 

 

 

THE STANDARD POP: จีจี้ติดเซ็มบัตสึอย่างเป็นทางการในซิงเกิลอัลบั้มชุดที่ 2 Jabaja บรรยากาศวันนั้นเป็นอย่างไรบ้าง

 

จีจี้ BNK48: คือปกติเวลาประกาศเซ็มบัตสึ เขาจะชอบเซอร์ไพรส์ในงานจับมือ ซึ่งเราไม่ได้เอาตัวเองเป็นตัวเลือกในนั้นอยู่แล้ว เราเลยไม่ได้คาดหวังว่าเราจะติดเท่าไร จนมาถึงตอนที่ประกาศซิงเกิล Jabaja เราก็ทำตัวเหมือนเดิม แต่กลายเป็นว่ามีหน้าเราอยู่ตรงนั้น หนูก็ช็อกแบบอ้าปากค้าง ทำตัวไม่ถูกเลย

 

หลังจากรู้ว่าตัวเองติดแล้ว มันก็ทำให้เราแฟลชแบ็กกลับไปถึงซิงเกิลที่ผ่านๆ มาเหมือนกันนะ เราบอกกับตัวเองตลอดว่าสู้ๆ นะ อดทนต่อไปนะ ทำตัวให้พร้อม เดี๋ยวมันก็มีโอกาสเข้ามาเอง พอโอกาสมันมาจริงๆ เราก็รู้สึกว่าเราพร้อมแล้วที่จะรับโอกาสนี้

 

 

THE STANDARD POP: จีจี้ติดเซ็มบัตสึซิงเกิลหลักมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ 77 ดินแดนแสนวิเศษ, High Tension รวมถึงติดอันดับครั้งแรกในงาน General Election ครั้งที่ 2 (อันดับที่ 23) ไม่มั่นใจว่าเป็นช่วงนี้หรือเปล่าที่จีจี้เคยให้สัมภาษณ์ว่าการยืนอยู่แถวหลังคือเซฟโซนของตัวเอง 

 

จีจี้ BNK48: อาจเป็นเพราะตอนนั้นเราไม่ได้เต้นเก่งหรือร้องเพลงเก่ง หรือถ้าให้คิดภาพว่าเราจะไปอยู่ข้างหน้า เราก็กลัวว่าตัวเองจะสื่อสารเพลงออกมาไม่ดี แล้วเราคิดว่าตัวเองคงจะไปไม่ถึงตรงนั้น แต่ถ้าเราอยู่แถวหลังหรือตรงกลาง พอเรามองไปรอบๆ เรายังมีเพื่อนที่อยู่ข้างหน้าหรืออยู่ข้างๆ มันเลยทำให้เรารู้สึกสบายใจ

 

แต่การอยู่แถวหลังมันก็ทำให้แฟนคลับเขามองไม่เห็นเราเหมือนกัน อย่างเวลาออกงาน 16 คน แฟนคลับที่เขาชอบถ่าย Fancam ก็มักจะหาเราไม่เจอ คอยตามหาว่าเราอยู่ตรงไหน บางทีถ่ายๆ อยู่กล้องหลุด เพราะหาเราไม่เจอ มันก็เลยทำให้เราอยากพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น เพราะแฟนคลับก็คอยซัพพอร์ตเรามาตลอด ถ้าวันไหนที่เราได้ไปอยู่ข้างหน้า พวกเขาก็คงจะภูมิใจในตัวเรา หนูเองก็อยากให้พวกเขามองเห็นหนูเยอะๆ เหมือนกัน 

 

 

THE STANDARD POP: ถ้าให้เลือกสักท่อนหนึ่งของเพลง Warota People ที่นิยามตัวตนของจีจี้

 

จีจี้ BNK48: ท่อนที่ร้องว่า “ปัญหามีตั้งเยอะ เรื่องตั้งแยะคิดทำไม อยู่ที่ใจเลือกจะคิด เลือกจะแคร์ เลือกกันไป ถ้าไม่คิดให้วกวนนักก็เข้าใจซะ แค่เข้าใจ เรื่องมากไป ถ้ายังเยอะ ถ้าเรื่องยังแยะก็แค่โยนไป”

 

เพราะเวลาที่เราเจอเรื่องอะไรมา เราจะเป็นคนที่กำจัดสิ่งเหล่านั้นออกไปได้ดี การอยู่ตรงนี้มันมีกระแสหลายๆ อย่างเข้ามาค่อนข้างเยอะ ถ้าเรามูฟออนไม่ได้มันก็ดาวน์เหมือนกัน ทุกวันนี้เลยเป็นคนที่ไม่ค่อยเครียดกับสิ่งที่เจอเท่าไร

 

หนูรู้สึกว่าปัญหามีตั้งเยอะ เรื่องตั้งแยะ คิดทำไม คือมันก็คิดได้นะ แต่เราก็ต้องเข้าใจมันด้วย เรียนรู้แล้วก็แก้ไขในสิ่งที่เราทำได้ เพราะกระแสที่เข้ามามันมีทั้งคนที่อยากให้เราพัฒนาขึ้นจริงๆ กับอยากให้เราเสียการเป็นตัวเองไปเลยก็มี 

 

บางคนอาจจะบอกว่าหนูห้ามตลก หนูต้องไปสายสวย หนูต้องไปสายหล่อ คือหนูสามารถทำได้นะ แต่ถามว่าหนูมีความสุขกับมันไหม ก็ไม่ สุดท้ายแล้วเราก็ต้องกลับมาเป็นตัวเองอยู่ดี เพราะมันคือตัวเราเอง เราเป็นตัวเองแล้วเราไม่อึดอัด และเราก็รักตัวเองที่เป็นแบบนี้ แต่ละคนต่างมีเสน่ห์ในแบบของตัวเองที่คนอื่นก็มาเป็นเราไม่ได้ 

 

 

THE STANDARD POP: งาน Janken Tournament 2020 คือการแข่งขันเป่ายิงฉุบเพื่อหาผู้ชนะ เมมเบอร์ทุกคนจึงเปรียบเสมือนคู่แข่งกัน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติมากๆ ของ BNK48 จีจี้ต้องวางตัวแบบไหนในบรรยากาศแบบนี้

 

จีจี้ BNK48: เมื่อเราแข่งขันกัน ทุกคนก็ต้องอยากชนะถูกไหมคะ แต่พอสุดท้ายแล้วถ้าแพ้เราก็กอดกัน เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม มันไม่มีใครผิด การที่เราชนะเราผิดเหรอ มันก็ไม่ใช่ 

 

หลังจากที่ผลออกมาว่าหนูได้เป็นเซ็นเตอร์ หนูก็ทำตัวไม่ถูก เพราะเราไม่ได้ตั้งใจว่าจะมาเอาชนะ การได้เป็นเซ็นเตอร์ใช่ว่ามันจะไม่อึดอัดนะ เราชนะมากี่คน แล้วเขาจะมองเราอย่างไร แถมหนูใส่ชุดกระทิงมาแข่งอีก แต่รีแอ็กชันของทุกคนคือเดินเข้ามากอดเรา มาบอกเราว่าเจ๋งว่ะ เหมาะสมแล้วนะ ทำหน้าที่แทนพี่ด้วย มันทำให้ความอึดอัดของเราลดลง เราจึงอยากทำตรงนี้ให้ดี เพราะทุกคนก็ฝากไว้ที่เรา 

 

 

THE STANDARD POP: มีเรื่องอะไรที่อยากจะบอกเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ไม่ได้ขึ้นมาเป็นเซ็มบัตสึกับเราไหม 

 

จีจี้ BNK48: (คิดนาน) ก็อยากขอโทษ ไม่เชิงขอโทษสิ คือเกือบทุกครั้งที่หนูติดเซ็มบัตสึ หรือเป็นเซ็นเตอร์ หรืออะไรก็ตามแต่ หนูมักจะคิดว่าหนูควรจะรู้สึกอย่างไร มันหลายความรู้สึกมาก ถามว่าดีใจไหมที่ได้ตรงนี้ มันก็ดีใจ แต่เพื่อนที่อยู่ข้างๆ ก็ไม่ติด แล้วเราจะไปพูดกับเพื่อนอย่างไร มันเป็นความรู้สึกที่ค่อนข้างสับสน แล้วยิ่งหนูขี้เกรงใจ หนูก็เลยพูดไม่ถูกเหมือนกัน

 

แต่เมื่อเราได้มาอยู่ตรงนี้แล้วก็อยากจะบอกกับทุกคนว่าเราก็จะทำให้เต็มที่ เราจะถ่ายทอดเพลงนี้ออกไปให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ให้สมกับโอกาสที่เราได้รับมา แล้วหนูคิดว่ามันยังมีอีกหลายโอกาสที่จะได้มาเป็นเซ็มบัตสึ เพราะว่ารอบนี้มันขึ้นอยู่กับดวงด้วย ก็อยากให้ทุกคนสู้ๆ 

 

พูดยากอะ รักทุกคนนะ 

 

อ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่นี่

 

ภาพประกอบ: นิสากร ฤทธาภัย

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising